16 พ.ค. 2023 เวลา 12:44 • ปรัชญา
จิตที่เกิดมาในแต่ละยุคสมัยมันก็มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป จากผู้คนที่น้อย ก็มีการค้าขาย แลกเปลี่ยนกันมา ผู้คนไปไหนมาไหน ก็อาศัยช้างม้าวัวควาย จะทำอะไรใหญ่โตๆก็ต้องกะเกณฑ์ ผู้คนมาช่วยกัน มันไม่ได้มีป้ายบอกว่าเขตว่าตรงนั้นตรงนี้ ระยะทางเท่าไหร่ มีแต่ว่าจะเดินกันกี่วัน ถึงที่หมาย พายเรือกี่วัน มันไม่ได้มีเทคโนโลยี อะไรมากมาย จะทำอะไรกัน ก็อาศัยการบอกกล่าวกันไป ..ไม่ได้มีวิทยุกระจายเสียงสื่อสาร แม้แต่กระดาษจะเขียนหนังสือ ก็ยังยาก
มันก็มีต้องอยู่ในสภาพที่ต้องช่วยเหลือตัวเองเป็น ปลูกผักทำไรทำนา มีศาสนามีพระมีวัดวาอารามเกิดขึ้น ผู้คนที่ว่าง ทำไร่ทำนา วันพระวันโกน เค้าก็ไปเข้าวัดฟังเทศน์ ฟังธรรม ขโมยขโจร ก็ไม่มีมาก นานๆ ก็เกิดสงคราม ชิงบ้านชิงเมือง เผาบ้านเมือง ไล่ที่อยู่อาศัยกัน มันก็มีเกิดขึ้น มาทุกสมัย เราก็เคยสงสัยว่า คนรุ่นก่อนๆนี้ ที่เคยอยู่แผ่นดินค้ เค้าหายไปไหนกันน่ะ .
มันก็มีครั้งหนึ่ง เราไปงานศพ..แถวอยุธยา ..ไปนั่งฟังพระสวดงานศพ ..เรานั่นไม่ค่อยชอบงานที่เค้าจัด หันหน้าเข้าหาศพ พอเจองานนี้ ..เราก็พยายามนั่งเฉยๆ เพราะรู้ว่า ทำแบบนี้ คนที่ไปงานศพ เห็นแต่ศพตั้งตรงหน้า มันจะเกิดบุญกุศลขึ้นมาได้อย่างไร คนไทยจริงๆสมัยก่อนเค้าไม่ทำกัน มีแต่ให้ผู้ที่มางานศพ หันหน้าหาพระ .เพื่อจะให้จิตคนที่มางานเกิดเป็นบุญกุศล ..แล้วก็จะเป็นกุศลให้จิตของผู้ที่จากไปรับรู้
ขณะที่เรานั่ง ..ฟัง มันก็เกิดมีภาพ ของทหารไทยโบราณ เอาพนมมือกัน เต็มศาลา นั่งเรียบร้อยเป็นระเบียบ เอาดาบวางที่ข้างตัว มองดูข้างนอกก็เห็นทหารยืนตรงถือหอกกันอยู่ เราก็เลยไปถามพระที่เรานับถือ ท่านก็บอกว่า นี้เค้าเพิ่งอยู่ได้ ไม่สี่ห้าวันเอง ร้อยปีของเรา เท่ากับเค้าหนึ่งวันเอง แล้วสิ่งที่เราเห็น
เราก็ถามว่า ทำไมเค้าดูอยู่สุขสบาย ท่านก็บอกว่า เพราะเค้าเป็นผู้รักแผ่นดินเกิด มีความกตัญญูรู้คุณในแผ่นดินที่เกิด ปกปักรักษาแผ่นดิน เค้าก็เลยได้อยู่สุขสบาย เพราะที่อื่นวัดอืนที่เคยเห็นเค้าไม่สุขสบาย ..นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า จิตแต่ละดวงนั่นมาอาศัยเกิดเป็นมนุษย์ในแผ่นนี้ จิตเหล่านั้นมาจากไหนกัน ..มาจากสถานที่ใดกัน
เราก็เคยถามท่านที่เรานับถือ ท่านก็บอกว่า ยุคนี้จิตที่ขึ้นมาจากนรกอบายภูมิ เค้าก็มาเกิดในสถานที่ต่างในโลก ที่นั่นที่นี่ ความที่จิตของเค้า อยู่กับนรก อยู่กับอบายทุกข์ทรมานมานาน จิตของเค้าก็มีแต่สิ่งที่เรียกว่า ความคิดอกุศล .ที่จะทำให้เกิดขึ้น ..เดือดร้อนคนนั้นคนนี้ หาความสงบสุขไม่ได้ .เรื่องราวดีๆจะทำก็ต้องตัวเองพรรคพวกได้ประโยชน์ คำว่าดีชั่ว จิตของเค้าไม่รู้จักเลยในการที่มีกายเป็นมนุษย์ แล้วจิตของเค้าก็ไม่เห็นความสำคัญเรื่องบุญกุศล ไม่เห็นความสำคัญของคำว่า ศาสนา มีแต่จะหากินกับศาสนา ทำลายศาสนา
เพราะขึ้นมาจากนรก เค้าก็เดินตามจิตของเทวทัต ทะเยอทะยานอยากเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ ชอบอิทธิฤทธิ์โลกีย์ มันมีคนที่เก่งๆมากที่เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็ตกนรก ..เมือ่จิตเหล่านี้ ขึ้นมาเกิด เค้าก็กระทำซ้ำในสิ่งที่เคยทำมา ..แล้วก็ต้องกลับไปที่เดิม ไม่สามารถที่จะเรียนรู้จักเรื่องบุญกุศลได้ จิตเค้าเกิดมาก็มุ่งมั่น หาวัตถุสิ่งของที่มีในโลก ยึดสิ่งมีชีวิตไม่มีชีวิต ด้วยความโลภโกรธหลง ทะเยอทะยาน ..ที่ห้อมล้อมจิตของเค้า มิอาจจะทำให้เบาบางได้เลย
เค้าจึงว่า โลกมันร้อน ร้อนด้วยอารมณ์โลภโกรธหลง ที่ห้อมล้อมจิต..หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน โรคภัยก็เบียดเบียน สิ่งที่มนุษย์สร้างนั้น ..มันไม่ได้ไปไหน มันจะกลับมาทำร้ายทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง ทำร้ายทำลายให้จิตนั่นพัฒนา สลัดค่อยๆ สลัดความโลภโกรธหลงออกไปไม่ได้ ลดละกายร้ายทำลายกันด้วยความยึดถือในตัวตน การแย่งชิงอยากเป็นใหญ่ แบ่งพรรคพวก .มันก็เกิดขึ้น ..ให้มนุษย์นั่นยากจะมีความสุขที่เกิดขึ้นที่ใจ ..ต้องดิ้นรนขวนขวายไม่มีหยุด ไปจนวันตาย
มีมีคำว่าอนุรักษ์ เป็นภาษาไทย ที่คนไทยก็นำไปใช้ ใช้คำนี้เป็นที่นิยมกันมาก อนุรักษ์ป่าไม้ อนุรักษ์พืชพรรณ อนุรักษ์..อะไรต่างๆมากมาย อย่างเราก็กินข้าว กินมาแต่เล็ก มีปู่ย่าตายายทำไร่ทำนา ดูแลเทือกสวน อนุรักษ์ดินให้ดี อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย อนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย อนุรักษ์ภาษา เดี๋ยวนี้มันมีอะไรแปลก.ๆ นี้ถ้าคำว่าอนุรักษ์ มันหายไป จะใช้คำไหนดี มันคงมีไม่ดีที่จะให้อนุรักษ์แล้วล่ะ คำว่า เกียรติกับเกียจ มันคล้ายกัน มันสอดแทรกในคำว่า อนุรักษ์หรือ แล้วก็มีผู้ที่ใช้คำ.ไปในทางวิบัติ มันน่ายินดี หรือ น่าสมเพจ
โฆษณา