การบูรณะฉลองพระองค์ของจักรพรรดินีโชเก็ง พระพันปีหลวง
สมเด็จพระจักรพรรดิหลวงอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะพระพันปีหลวง ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดไดโชจิ เพื่อเยี่ยมชมการบูรณะฉลองพระองค์พิธีการของสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง พระพันปีหลวง พระอัครมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ถือเป็นชุดที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลือและเก็บรักษามาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่กว่า 5 ปี ซึ่งชุดเป็นระดับ “Taireifuku” (大礼服) คือ ชุดทางการของจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่ริเริ่มใช้ในรัชสมัยเมจิจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ ๒
ภาพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง พระพันปีหลวง
โดยได้รับแรงบันดาลใจจากทางยุโรปช่วงปี 1870 ถือว่าเป็นชุดเครื่องแบบสูงสุดที่นำมาใช้ในขณะนั้น ฉลองพระองค์ของสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็นเป็นชุดที่มีความเก่าแก่มากที่สุด ทรงฉลองพระองค์ในวาระโอกาสต่างๆ เช่น งานปีใหม่ ฯลฯ และได้นำมาเก็บรักษาในวัดไดโชจิในปี 1911 โดยสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็นทรงบริจาคมอบแก่วัดนี้(ก่อนสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิจะเสด็จสวรรคตลง)ตั้งแต่หลังรัชสมัยเมจิ
สมเด็จพระจักรพรรดิหลวงและสมเด็จพระจักรพรรดินีพันปีหลวง ทรงให้การสนับสนุนการปกป้องทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ตกทอดมาจากยุคโบราณของเหล่าราชวงศ์อีกด้วย เรียกได่ว่าเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงสถานะของพระองค์และรวมไปถึงศิลปะบนผืนผ้า การเป็นบ่งบอกถึงวัฒนธรรมการแต่งกายในสมัยเมจิ ฉลองพระองค์สั่งตัดจากยุโรปและนำเข้ามาปักเย็บในประเทศได้อย่างงดงามวิจิตรบรรจง
ฉลองพระองค์ของจักรพรรดินีพันปีหลวง โชเก็น
นำรูปแบบแฟชั่นมาจากราชสำนักวิกตอเรียน โดยนำไปสั่งตัดในช่วงปี 1888-1890 ณ ประเทศเยอรมัน แต่นักวิชาการให้ความเห็นของผ้าทอเป็นผลงานช่างญี่ปุ่นเพราะสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็งทรงนิยมในผ้าทอและทรงส่งเสริมเรื่องอุตสาหกรรมผ้าไหมที่ผลิตภายในประเทศ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่หลากหลายจาการรับวิทยาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเจริญก้าวหน้าของชาติตะวันตก เข้ามาปรับประยุกต์ในประเทศญี่ปุ่น
ฉลองพระองค์และเนื้อที่ทำการแยกส่วนเพื่อเก็บรักษา
นอกจากนี้ยังพบว่าฉลองพระองค์ที่ทำจากผ้าทอชิ้นนี้เป็นงานที่มีความประณีตและละเอียด โดยสันนิษฐานว่ามาจากเครื่องทอผ้า Jacquard machine ประเทศญี่ปุ่นระยะเวลานั้นไม่มีเครื่องมือที่มีคุณภาพระดับนี้ได้ แต่มีนักวิชาการค้นพบกระดาษวาชิที่คาดการณ์ว่าถูกนำมาใช้รองลายปักเพื่อซัพพอร์ตโดยมีการเขียนตัวอักษรคันจิบนผ้าหลังลายปัก ทำให้เห็นว่าผ้าทอและงานปักถูกทำโดยช่างมีฝีมือภายในประเทศญี่ปุ่นนี้เอง
รายละเอียดการปักผ้าทอบนชุดฉลองพระองค์
ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ถูกเผยแพร่ โดยได้พระราชทานแก่ลูกสาวประธานาธิบดีสหรัฐฯ ธีโอดอร์ รูสเวลต์ คือ อลิซ รูสเวลต์ ลองเวิร์ธ ในปี 1905 ที่ได้เดินทางเยือนราชสำนักในดินแดนเอเชียตะวันออก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีและจีน ทำให้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเนื่องจากมีเพียงแค่ราชสำนักญี่ปุ่นที่เดียวได้พระราชทานภาพพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งสองพระองค์ที่ทรงฉลองพระองค์แบบตะวันตก (ในขณะที่ราชสำนักจีนและราชสำนักเกาหลีทรงฉลองพระองค์ในชุดประจำชาติ)
ชุดฉลองพระองค์แบบไม่แยกส่วน
ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่เธอเป็นอย่างมากที่แสดงเป็นนัยถึงการนำแนวคิดในเรื่องของการสมรส ที่มีคู่สมรสเพียงคนเดียวตามแบบตะวันตกของชาวคริสต์เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่นำประเทศมาเท่าเทียมในเวทีตะวันตกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอไปเยือนในครั้งนั้นตรงกับเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นได้รับชัยชนะจากสงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย (Russo-Japanese War) ที่พลิกโฉมหน้าญี่ปุ่นกลายเป็นชาติมหาอำนาจที่โลกตะวันตกยำเกรงอีกด้วย
เครดิตข้อมูล :
日テレNEWS
FB เพจ พื้นที่ให้เล่า : ชุดของจักรพรรดินีโชเก็ง
Wikipedia : Court uniform and dress in the Empire of Japan “Taireifuku” (大礼服)
chusei-nihon.: Shōken Kōtaigo Taireifuku Project
読売テレビニュース
เขียนเเละเรียบเรียงข้อมูล : Seung-Wan
พระจักรพรรดิหลวงและพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงทรงเสด็จพระราชดำเนินไปวัดไดโชจิ
เครดิตภาพถ่าย :
日テレNEWS
FB เพจ พื้นที่ให้เล่า : ชุดของจักรพรรดินีโชเก็ง
THE ASAHI SHIMBUN
読売テレビニュース
เรียบเรียงภาพ : Seung-Wan
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
