เป็นเจ้าของธุรกิจ สบายจริงหรอ ?
หลายๆ คน อยากก้าวเข้ามาในโลกของธุรกิจ และคิดไว้ว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นจะสบาย แน่นอนว่านั่น…เป็นความจริง แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น จะต้องผ่านอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาแชร์จากประสบการณ์ทุกอย่าง อย่างตรงไปตรงมาแบบไม่โลกสวยให้ฟัง เพื่อที่จะให้คุณได้รู้ว่าคุณจะต้องรับมือกับอะไรบ้าง โดยจะสรุปคร่าวๆ ดังนี้
1. ลืมเรื่อง Work life balance ไปได้เลย
ในช่วงเริ่มต้นคุณจะต้องใช้เวลามากมายไปกับการเรียนรู้ ยิ่งคุณเริ่มต้นทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียวแล้วล่ะก็ แน่นอนว่ามันเหนื่อยยิ่งกว่าทำงานประจำ คุณจะต้องคอยหาความรู้ตลอดเวลา ทำงาน 7 วัน/สัปดาห์ เพราะถ้าคุณหยุดพักนั่นเท่ากับขาดรายได้ นอกเหนือจากการทำงานแล้ว หลังเลิกงานคุณยังจะต้องมานั่งวางแผนสำหรับวันต่อไป บอกได้เลยว่าช่วงแรกๆ นั้นเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุด เวลานอนแทบไม่มี ถือว่าเป็นบันไดวัดใจเลยก็ได้ ว่าคุณจะได้ไปต่อ หรือจบแค่นี้
ในช่วงนี้ที่เราเจอมาคือความเหนื่อย ความท้อ จับทางไม่ถูก ไม่รู้ว่าคุณเดินถูกทางไหม ความคิดตีกันในหัวว่าเราควร้อายังไง อาจจะเจอสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เราไม่แปลกใจเลยทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกยอมแพ้ เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เกือบจะยอมแพ้ แต่เงินในกระเป๋าก็ทำให้เราฉุกคิดได้ว่า “ควรทำต่อไป”
คำแนะนำ คุณท้อได้แต่อย่ายอมแพ้ จำไว้ว่าคุณพึ่งเริ่มทำ ไม่แปลกที่มันจะไม่ perfect ค่อยๆ เรียนรู้ แล้วสุดท้ายคุณจะจับทางได้เองว่าควรทำอะไร
2. ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มาก่อน หรือไม่มีประสบการณ์เลย คุณก็จะเจอปัญหาอย่างแน่นอน อาจจะเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง บางปัญหาก็อาจจะทำให้ไปไม่ถูกเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือเผชิญหน้ากับมัน อย่าหนี ถ้าเจอปัญหาให้รีบแก้ อย่าปล่อยไว้ ที่เรียนรู้มาเลยคือยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ ปัญหาจะยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น เราต้องกล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ถึงจุดนี้คุณอาจจะเครียดและคิดมากกับมัน ซึ่งมันก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว ใครบ้างที่เจอปัญหาแล้วจะนั่งยิ้ม แต่บางปัญหาที่มันแก้ไม่ได้จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไปเครียดกับมัน แค่จดจำมันไว้แล้วอย่าให้มันเกิดขึ้นอีกก็พอ นี่คือสิ่งเดียวที่เราจะทำได้
และปัญหาเหล่านี้แหละมันจะช่วยให้เราและธุรกิจของเราดีขึ้น ไม่ได้บอกว่าเราจะไม่เจอปัญหาอีกเลยนะ แต่ครั้งต่อไปที่เราเจอ เราจะจัดการมันได้ดีขึ้น เหมือนภูมิคุ้มกันอีกชั้นหนึ่งนั่นแหละ
3. คุณหยุดเรียนรู้ไม่ได้ เหมือนอยู่ในสนามแข่งตลอดเวลา
การเป็นพนักงานประจำคุณอาจจะทำงานเสร็จ กลับบ้านแล้วทุกอย่างจบ (ในบางสายงาน) แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณจะต้องอัพเดทตัวเอง พัฒนาทักษะและความรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าคุณหยุด คู่แข่งก็อาจจะนำคุณไปได้ ซึ่งตรงนี้มันอาจจะกดดันคุณอยู่ไม่มากก็น้อย
ข้อแนะนำคืออย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับใคร ทุกคนมีพื้นฐานที่ต่างกัน อีกร้านอาจจะประสบความสำเร็จมากกว่า ต้องดูด้วยว่าเขาเริ่มจากอะไร มีประสบการณ์มานานแค่ไหน มีทีมยังไง เราเริ่มด้วยพื้นฐานที่ต่างกัน ความรู้ เงินทุนที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปโฟกัสที่คนอื่นเยอะ
ดูเขาเพื่อเอามาพัฒนา อย่าดูเขาเพื่อเอามาบั่นทอนตัวเอง
Experience
โฟกัสที่ธุรกิจตัวเอง โฟกัสที่ตัวเรา พัฒนาในสิ่งที่เราขาด ถ้าจะเปรียบเทียบ เปรียบกับตัวเอง ว่าวันแรกกับวันนี้มันต่างกันหรือมันยังย่ำอยู่ที่เดิม ถ้ามันดีกว่าตอนเริ่มต้น ก็แปลว่าคุณทำได้ดีแล้ว ถ้ามันไม่ได้ดีกว่าก็แค่พัฒนาตัวเองต่อไป
4. ต้องยอมทำในเรื่องที่ไม่ชอบ
อย่างที่บอกว่าเราจะต้องศึกษาหาความรู้เยอะมาก เพราะฉะนั้นคุณจะต้องยอมทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เช่นคุณอาจจะไม่ได้เล่นมือถือหรือไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ต้องไปอ่านหนังสือ ฟัง podcast นั่งวางแผน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และทุ่มเวลาไปกับการพัฒนาตัวเองแทน อันนี้เป็นอีกเรื่องที่จะต้องรับให้ได้
และในบางเรื่องต่อให้คุณกลัว ประหม่ามากแค่ไหน คุณก็จะต้องทำมัน เช่น เราเองเป็นคน introvert แต่พอมาทำธุรกิจเราก็ต้องฝึกพูดกับคนทั้งๆ ที่เราประหม่านั่นแหละ แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ คุณจะทำได้เองโดยไม่ต้องฝืน
5. คุณต้องเป็นคนที่อดทนเก่งมากถึงมากที่สุด
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เมื่อคุณได้ลงมือทำทุกอย่างไปแล้ว ไม่ว่าจะทำตามคำแนะนำในหนังสือ หรือใน podcast หรือจากผู้เชี่ยวชาญก็ตาม ในช่วงแรกคุณอาจจะรู้สึกว่าทำไมทำทุกอย่างแล้วแต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ใครต่อใครบอก
ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า…ต้องอดทน อดทนเท่านั้น มันมีจังหวะให้เราอยากถอยออกมาเยอะมาก แต่จำไว้ว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา เวลาคุณสร้างบ้านมันไม่ได้เสร็จภายในวันเดียว การทำธุรกิจก็เช่นกัน มันอาจจะไม่ได้ดีมากในเดือนแรก เผลอๆ อาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ
แต่ให้จำไว้ว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผลลัพธ์มันจะทำให้คุณหายเหนื่อย ขอเพียงแค่คุณทำมันอย่างต่อเนื่อง ทำมันต่อไปเรื่อยๆ ความต่อเนื่องนี่แหละที่จะทำให้เราไปถึงจุดหมาย
เมื่อถึงเวลาที่คุณสร้างระบบทุกอย่างไว้หมดแล้ว ธุรกิจคุณเริ่มเดินไปได้ดีแล้ว คุณมีพนักงานมาทำแทน ช่วงเวลานั้นแหละคือช่วงที่คุณจะมีอิสระและสบายขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คุณก็ยังคงต้องมีความรับผิดชอบเหมือนเดิม ยังต้องคอยดูแลอยู่เหมือนเดิม แต่อาจจะไม่เหนื่อยเท่ากับตอนแรกที่คุณเริ่มทำแล้ว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
