22 พ.ค. 2023 เวลา 04:49 • สุขภาพ

ความมหัศจรรย์ของไซเมติกส์ (MAGIC OF CYMATICS)

เสีงและความถี่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมหัศจรรย์ใน “ร่างกายมนุษย์” การศึกษาเมื่อเร็วๆนี้เปิดเผยว่า เสียงและการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ ได้อย่างไร?
.เคยสงสัยไหมครับว่าเพลงบางเพลงช่วยเพิ่มสมาธิได้ และส่งผลต่ออารมณ์เราได้อย่างไร และบางเพลงทำไมคุณฟังแล้วรู้สึกรำคาญ หรือบางเสียงสามารถ “ย้าย” เราไปอีกที่นึงจริงหรือ ?
.นี้คือความมหัศจรรย์ของไซเมติกส์ ซึ่งเป็นคำที่คุณฮันส์ เจนนี่ สุภาพบุรุษชาวสวิสตั้งขึ้น เพราะเขาสนใจในการสั่นสะเทือนและรูปแบบที่เกิดขึ้น หรือ เสียงทำให้เกิดสสารและน้ำ
.ไซเมติกส์ (CYMATICS) คือการสร้างเสียงที่มองเห็นได้ และมีผลกระทบต่อสสารโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์
.แนวคิดนี้เริ่มต้นมาจาก ดาวินชีและกาลิเลโอ เมื่อไม่นานมานี้มีนักวิทยาศาตร์หลายคน เช่น Evan Grant, Nigel Stanford และคนอื่นๆอีกไม่กี่คนทำการทดลองดังกล่าว ความจริงก็คือ…การศึกษาเสียงและผลกระทบต่อสสารมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ!
.ไซเมติกส์ (CYMATICS) ฟังดูเป็นคำทันสมัยและดูเหมือนเป็นการค้นพบไหม่ แต่ศาสนาฮินดูและศาสนาอื่นๆได้ใช้เสียงและเครื่องดนตรีในสภานที่บูชามาหลายศตวรรษแล้ว คุณสงสัยใช่มั้ยว่าทำไมระฆังเหล่านั้นมีอยู่ในวัดหรือยอดมหาวิหาร หรือ ขันและฆ้องร้องเพลงสวดมนต์ของชาวพุทธและจีน เพื่อใช้สำหรับทำสมาธิและการ “รักษา” หลายพันปี เหตุใดพระเวทย์แนะนำให้เราสวดมนต์เฉพาะเจาะจงในรูปแบบนั้น
1
.นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้คิดค้นทฤษฏีต่างๆเกี่ยวกับ..เสียงจักรวาล และผู้คนจำนวนมากต้องการให้คุณเชื่อว่าเสียงของจักรวาลฟังดูคล้ายเสียง โอม “OM” หรือเป็นไปได้ว่าเสียงฮัมเฉพาะที่ 432Hz
.หากคุณสวดมนต์พื้นฐานอะไรก็ตาม จะเป็นการยืดลม (ปราณายามะ) หายใจออกไปถึง 12 วินาที การหายใจของคุณจะถูกควบคุมมากขึ้น จักระและพลังงานภายในของคุณจะประสานสอดคล้องกัน ในทางพระพุทธศานาก็มีการให้เรากำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อทำสมาธิสิ่งนี้ก็มีเหตุผลมีที่มาที่ไปเหมือนกันนะครับ
.สุดท้ายนี้ ความคิดของเราทุกคนมีผลต่อการกระทำของตัวเราเอง อย่าลืมสร้างคำพูดและความคิดของคุณอย่างมีความรับผิดชอบด้วยนะครับ
โฆษณา