24 พ.ค. 2023 เวลา 09:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จีนกับเศรษฐกิจ Square Root Shape - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

ก่อนหน้านี้มีการถกเถียงกันว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวแบบ V Shape หรือ J Shape แต่ล่าสุดดูเหมือนเศรษฐกิจจีนจะเข้าลีลา Square Root Shape เสียมากกว่าครับ
ภายหลังเปิดเมืองเมื่อปลายเดือนธันวาคม เศรษฐกิจจีนหักหัวลงก่อนเล็กน้อยจากวิกฤตสาธารณสุขในช่วงแรก ก่อนจะดีดตัวขึ้นอย่างแรง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเริ่มกลับมาซึมอีกครั้งและอาจซึมยาว
ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของจีนนั้นต้องบอกว่าดีมากๆ เหนือทุกความคาดหมาย ตลาดประเมินอัตราการเติบโตของ GDP จีนอยู่ที่ 4% แต่ตัวเลขของจริงที่ออกมาคือ 4.5%
การเติบโตของการค้าปลีกในไตรมาสแรกก็ทะลุ 10% เราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการบริโภคในจีนอย่างเด่นชัด หลายคนบอกว่าเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในรอบหลายปีของจีนเลยทีเดียว
แต่หัวใจพองโตอยู่ได้ไม่นาน ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเมษายนกลับทำให้นักลงทุนใจแผ่วอีกครั้ง เพราะตัวเลขการบริโภคเริ่มสะดุด ตัวเลขการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ไม่ดี ส่วนผลประกอบการของบริษัทจีนก็ยังไม่ดีอย่างที่ตลาดคาดหวัง
1
ตัวเลขที่ทำให้คนกังวลเข้าไปใหญ่คือ อัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวในจีนที่แตะ 20.4% ซึ่งสูงมาก และยิ่งจะมีผลกดดันการฟื้นตัวของพลังการบริโภค
หลายคนเคยหวังว่าเศรษฐกิจจีนหลังเปิดเมืองจะเป็นเครื่องยนต์ช่วยดันเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ดังที่ IMF ประเมินว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งหมดของโลก
ท่ามกลางสภาวะ “ทุกคนแย่หมด” ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งสหรัฐฯ ที่เผชิญความผันผวนทางเศรษฐกิจจากปัญหาภาคธนาคาร ภาคอสังหาริมทรัพย์ เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยสูง และล่าสุดคือปัญหาเพดานหนี้ ส่วนในยุโรปนั้น สงครามยูเครนก็ยังไม่จบ เราเห็นตัวเลขภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันที่ออกมาแย่ที่สุดในรอบหลายปี
ทางฝั่งจีนแม้เศรษฐกิจจะทรงตัว ไม่มีปัญหาวิกฤตธนาคารเหมือนในสหรัฐฯ ส่วนปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่หลายคนเคยกังวลก็ไม่ทรุดไปกว่าเดิม แต่ทั้งหมดเป็นการทรงตัวแบบซึมๆ ดังเส้นลากยาวของ Square Root Shape ไม่อาจนับเป็นข่าวดีให้แก่เศรษฐกิจโลกที่กำลังต้องการเครื่องยนต์ขับเคลื่อน ต่างจากตอนวิกฤตการเงินสหรัฐฯ และยุโรปในปี ค.ศ. 2007 ที่ตอนนั้นจีนเป็นพลังเศรษฐกิจหลักที่พยุงโลก
3
ในฝั่งของการบริโภค แต่เดิมที่โลกเคยคาดหวังการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน แต่ก็ดูเหมือนนักท่องเที่ยวจีนแม้ว่าจะเริ่มกลับมาบ้างก็จริง แต่ยังมาในปริมาณน้อยและช้ากว่าที่คาด
สาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินที่ยังกลับมาไม่เต็มที่และยังมีราคาสูง แต่ที่สำคัญคือ คนจีนรัดเข็มขัดและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากช่วงวันหยุดยาววันแรงงานที่ผ่านมา คนจีนเลือกท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในเมืองรองที่ค่าโรงแรมและค่าเที่ยวค่ากินมีราคาถูกกว่าเมืองใหญ่
สำหรับทิศทางการลงทุนในตลาดจีน ภาพบวกคือ ความคาดหวังจากนักลงทุนว่ารัฐบาลจีนจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนยังไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ เพราะแต่เดิมก็เป็นช่วงปิดเมือง และต่อด้วยช่วงวิกฤตสาธารณสุข ซึ่งกระตุ้นไปในช่วงเวลานั้นก็คงเสมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ส่วนพอเปิดเมือง ไตรมาสแรกเศรษฐกิจจีนก็ฟื้นตัวดีกว่าที่คาด ไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้น
แต่หากตอนนี้เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวอีกครั้ง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและพยุงการเติบโต รัฐบาลจีนน่าจะต้องออกมาตรการกระตุ้นไม่ว่าจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับลด Reserve Requirement Ratio (RRR) อีกครั้งของธนาคารกลางของจีน
1
อย่างไรก็ตามต้องเตือนว่า หากนักลงทุนหวังความแน่นอน บัดนี้คือโลกของความไม่แน่นอน ตัวเลขจีนที่ดูดีในไตรมาสแรก ผ่านไปเดือนเดียวก็เริ่มมีสัญญาณทำให้คนกังวล การกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตลาดคาดหวังว่ากำลังจะมาและน่าจะช่วยพลิกฟื้นตลาด แต่ก็ไม่แน่นักว่ากระแสทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้าจีนหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงไม่ชัดเจนจากสงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐฯ
1
แต่ครั้นจะหันไปยังตลาดสหรัฐฯ หรือตลาดยุโรป ก็ดูเสี่ยงพอกันหรือเสี่ยงยิ่งกว่าตลาดจีนเสียอีก เราอยู่ในปีที่ทุกตลาดโหดหินและยังไม่กลับมาสดใสครับ
1
โฆษณา