Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Winny Lawyer
•
ติดตาม
28 พ.ค. 2023 เวลา 02:00 • ยานยนต์
จองรถไว้แล้วไฟแนนซ์ไม่ผ่าน ตามกฎหมายต้องคืนเงินจองหรือไม่ และต้องคืนภายในกี่วัน
เชื่อว่าทุกคนเวลาไปติดต่อดูรถหรือทดลองขับที่โชว์รูมต่างๆ มักจะโดนเซลล์หว่านล้อมให้วางเงินจองไว้ก่อน เพื่อล็อคคิวรถไว้ หลังจากนั้นค่อยทำเรื่องขอสินเชื่อกับไฟแนนซ์ โดยข้อเสนอสุดเย้ายวนใจประจำตัวเซลล์ทุกคนเลยก็คือ “ถ้ากู้ไม่ผ่าน คืนเงินจองให้เต็มจำนวน”
แต่ถามว่ามีสักกี่คน ที่ได้อ่านเนื้อหาข้อความในใบจอง ว่ามีระบุข้อความที่ตกลงกันดังกล่าวไว้หรือไม่
และมีสักกี่คน ที่โดนเซลล์หรือดีลเลอร์ ดองเงินจองไว้เป็นเดือนๆ กว่าจะได้คืน หรือ ไม่คืน?
หากว่ากันตามกฎหมายแล้ว การจำหน่ายรถยนต์โดยเปิดให้ลูกค้าวางเงินจองก่อนทำการซื้อนั้น จัดเป็นธุรกิจที่ถูกควบคุมสัญญา ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการขายรถยนต์ที่มีการจองเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑
ซึ่งตามประกาศดังกล่าว ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ในข้อ ๓. (๔) ว่า “ผู้บริโภคหรือผู้ประกอบธุรกิจฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีสิทธิบอกเลิกสัญญา หากมีข้อเท็จจริงที่ผู้ประกอบธุรกิจได้รับทราบว่า ผู้บริโภคต้องขอสินเชื่อเพื่อการซื้อรถยนต์ และผู้บริโภคไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อตามที่ขอภายในกำหนดเวลาตาม (๒)”
และตามประกาสฯ ข้อ ๓. (๕) ได้กำหนดว่า “เมื่อมีการบอกเลิกสัญญาตาม (๓) หรือ (๔) แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจต้องคืนเงินหรือสิ่งใดที่รับไว้เป็นมัดจำทั้งหมดแก่ผู้บริโภคภายใน ๑๕ วัน”
จากหลักเกณฑ์ในประกาศดังกล่าว หากมีหลักฐานการประสานงานระหว่างลูกค้า เซลล์ และไฟแนนซ์แล้ว ย่อมถือว่าทางดีลเลอร์เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับทราบแล้วว่า ผู้บริโภคต้องขอสินเชื่อเพื่อการซื้อรถยนต์
เมื่อไฟแนนซ์ไม่แจ้งผลอนุมัติภายในกำหนด หรือแจ้งผลสินเชื่อไม่ผ่าน ขั้นตอนถัดไปที่ลูกค้าต้องดำเนินการคือแจ้งความประสงค์ไปยังผู้แทนจำหน่าย ผ่านเซลล์ หรือแจ้งโดยตรงไปยังบริษัท ว่าขอเลิกสัญญาและคืนเงินจอง (การแจ้งควรทำให้ปรากฏหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ข้อความในไลน์ อีเมล หรือจดหมายลงทะเบียน)
หลังจากที่ทางบริษัทผู้แทนจำหน่าย เซลล์ หรือดีลเลอร์ได้รับแจ้งการแสดงเจตนาดังกล่าวแล้ว ย่อมมีหน้าที่คืนเงินจองเต็มจำนวนให้แก่ลูกค้า ภายใน 15 วัน (15 วัน ตามกฎหมายนะครับ ไม่ใช่ 15 วันทำการ หากวันสุดท้ายไปตรงกับวันหยุดราชการหรือเสาร์อาทิตย์ ก็ให้นับวันถัดไป)
แต่ปัญหาที่หลายคนสงสัยตามมา มักมีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆ คือ ถ้าในสัญญาหรือใบจองไม่ได้ระบุเงื่อนไขดังกล่าวไว้ จะทำอย่างไร และถ้าหากดำเนินการตามที่บอกไปทั้งหมดแล้วก็ยังไม่ได้รับเงินจองคืน ควรทำอย่างไร
สำหรับประเด็นแรก ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓๕ ตรี บัญญัติว่า “เมื่อคณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนดให้สัญญาของการประกอบธุรกิจที่ควบคุมสัญญาต้องใช้ข้อสัญญาใด หรือต้องใช้ข้อสัญญาใดโดยมีเงื่อนไขในการใช้ข้อสัญญานั้นด้วยตามมาตรา ๓๕ ทวิ แล้ว ถ้าสัญญานั้นไม่ใช้ข้อสัญญาดังกล่าวหรือใช้ข้อสัญญาดังกล่าวแต่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ให้ถือว่าสัญญานั้นใช้ข้อสัญญาดังกล่าวหรือใช้ข้อสัญญาดังกล่าวตามเงื่อนไขนั้น แล้วแต่กรณี”
หมายความว่า ต่อให้ในสัญญาหรือใบจองไม่ได้กำหนดข้อความตามแบบที่ประกาศฯ กำหนดไว้ ก็ให้ถือว่ามีข้อความและตกลงกันตามข้อความที่ประกาศฯ กำหนดไว้ หรือพูดง่ายๆ ต่อให้ในใบจองจะบอกว่า “ไม่คืน” ยังไงก็ “ต้องคืน” เงินจองให้แก่ลูกค้า
ส่วนประเด็นถัดมา แล้วถ้าไม่คืน หรือคืนช้า ควรทำอย่างไร
คำตอบก็คือ ถ้าบริษัทคืนเงินล่าช้าหรือไม่คืนภายในกำหนด ผู้บริโภคย่อมมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาบังคับให้ผู้จำหน่ายคืนทั้งเงินจอง ดอกเบี้ย และค่าเสียหายทั้งปวง โดยที่ฝ่ายผู้บริโภคไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลแม้แต่บาทเดียว
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคไม่มากก็น้อยนะครับ
สงวนลิขสิทธิ์บทความโดย Winny Lawyer (ทนายวิน)
กฎหมาย
รถยนต์
การเงิน
1 บันทึก
5
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย