26 พ.ค. 2023 เวลา 13:47 • ไลฟ์สไตล์

เรื่องที่ 33 ศักดิ์ศรีของอธิบดี

แสนภูมิ เป็นอธิบดีของกรมกรมหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการอนุมัติการชำระภาษีนำเข้ารถยนต์ทุกยี่ห้อ ดังนั้น จึงมีผู้พยายามประจบเลขาฯหน้าห้อง เพื่อหาช่องทางเข้าพบอธิบดีแสนภูมิไม่เว้นแต่ละวัน
มาลีวรรณ เป็นผู้แทนของบริษัทนำรถยนต์เข้าที่สามารถผ่านด่านการสกัดของเลขาฯหน้าห้องอธิบดีแสนภูมิเข้าไปได้เพียงรายเดียวในวันนี้ โดยยอมแลกกับรถปิ๊กอัพราคาไม่กี่แสนคันหนึ่ง
อธิบดีแสนภูมิวางท่าเคร่งขรึม เลิกแว่น มองดูมาลีวรรณที่หอบแฟ้มตีหน้ายิ้มเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างหน้าอย่างหวาด ๆ  มาลีวรรณวางแฟ้มแล้วยกมือไหว้
“มีอะไรว่ามาเลย ผมมีเวลาน้อย” อธิบดีแสนภูมิพูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำ
“คือว่า… ดิฉันมีเรื่องเรียนรบกวนเกี่ยวกับการชำระภาษีนำเข้ารถยนต์ของบริษัทค่ะ”
“ผ่านมาตามขั้นตอนหรือยัง “ อธิบดีแสนภูมิพูดอย่างรู้ทันด้วยภาษาที่ใช้เป็นประจำ
“ผ่านเลขาฯสกัดมาแล้วคะ” มาลีวรรณพูดอย่างมีความหวัง พร้อมทั้งนำกุญแจรถเบนซ์และทะเบียนใหม่เอี่ยมวางไว้บนแฟ้ม เลื่อนแฟ้มไปข้างหน้าอธิบดี
“น้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากบริษัทค่ะ รถเบนซ์รุ่นใหม่และทะเบียนที่ผู้อำนวยการฝากมากราบคารวะท่านค่ะ” มาลีวรรณกล่าวต่ออย่างทันเกม
“ผมรับไว้ไม่ได้หรอกนะ ผมเป็นข้าราชการต้องมีศักดิ์ศรีและจริยธรรม” มาลีวรรณตกใจคิดไม่ถึงว่าจะเจอไม้นี้ แต่เลือดนักธุรกิจที่ช่ำชองอย่างมาลีวรรณ มีหรือจะจนแต้มง่าย ๆ
“ถ้าอย่างนั้น ขอให้ถือเสียว่า ดิฉันเสนอขายให้ท่านในราคาพิเศษคันละ 10,000 บาท นะค่ะ” มาลีวรรณทิ้งไพ่ใบสุดท้ายเพื่อรอคำตอบด้วยเสียงหนักแน่น
“ถ้าอย่างนั้นผมขอซื้อสักสองคันก็แล้วกัน”
**ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้**
"พวกปากว่าตาขยิบ หรือพวกมือถือสากปากถือศีล ย่อมร้ายกว่าคนร้ายธรรมดาหลายเท่านัก"
โฆษณา