29 พ.ค. 2023 เวลา 05:34 • การเมือง

'สนธิญา' ซัดคนวิจารณ์ รธน. ถามทำไม ส.ส. 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' อยู่ในสภาฯ ถึงไม่แก้

POLITICS: 'สนธิญา' ยันไม่ใช่ผู้ร้องหลัก ปม 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ แค่สะกิดให้ กกต.ทำงาน ซัดคนวิจารณ์รัฐธรรมนูญบิดเบี้ยว ถามทำไม ส.ส. 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' อยู่ในสภาฯ ถึงไม่แก้
วันนี้ (29 พ.ค. 66) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังเข้าร้องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปมถือหุ้น ITV ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนร้องหลัก แค่สะกิดให้ กกต. สรุประยะเวลาในการตรวจสอบข้อมูล และไทม์ไลน์ที่ กกต.จะพิจารณา และทำคดีให้เสร็จสิ้นภายหลังการรับรอง ส.ส. 95% หรือ 476 คนจากจำนวน 500 คน จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย
หลักฐานที่นำมาประกอบการให้ข้อมูลต่อ กกต. มีข้อมูลที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่านายพิธา เป็นผู้ถือหุ้น ITV จริง และข้อมูลที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้ร้อง โดยกระบวนการสอบสวนเป็นเรื่องของ กกต. ซึ่งใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนจึงจะสามารถสรุปเรื่องได้
นายสนธิญา กล่าวถึงคนที่มาวิพากษ์วิจารณ์ เช่น พระพยอม กัลยาโณ และประชาชนว่า ตนเองมาเคลื่อนไหวก็โดนด่า โดนว่า แต่เรื่องทั้งหมดขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะที่มาของ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 98 ซึ่งมีทั้งหมด 18 ข้อบังคับ
ผู้ที่ทำไม่ถูกต้องจะลงสมัคร ส.ส. ไม่ได้ ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องการกลั่นแกล้ง ไม่ใช่เรื่องความเมตตาธรรม เพราะผู้ลงสมัคร ส.ส. เมื่อได้รับเลือกตั้งจะเข้าไปโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อนำไปสู่การบริหารประเทศ ดังนั้นที่มาของ ส.ส. จึงจำเป็นต้องถูกต้อง และเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ทั้งหมด
พร้อมเรียกร้องไปยังพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคที่ขาดความชอบธรรมในการถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องด้วย กกต. อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาก กกต.ส่งรายชื่อนายพิธา ที่มีข้อร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ประธานสภาฯ ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกล จะกล้าเสนอชื่อนายพิธา ทูลเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะจะทำให้ประเทศไทยอยู่ในช่องว่างของอำนาจ ดังนั้นการทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีต้องกระทำหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว
ทั้งหมดไม่ใช่เพราะผู้ร้อง แต่เป็นเพราะนายพิธา ไม่ได้ดำรงตัวเองให้ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกลไม่ได้ตรวจสอบให้ดี จึงทำให้ไม่มีสิทธิเป็นหัวหน้าพรรค และลงสมัคร ส.ส. อีกทั้งยังพัวพันไปถึง ส.ส.ทั้งสองระบบของพรรคที่จะโมฆะไปด้วย ไม่ใช่เรื่องของเกลียดหรือไม่เกลียด แต่เป็นเรื่องของการกระทำที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560 นั้นตามหลักนิติรัฐแล้วเป็นสิ่งที่บิดเบี้ยวหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ประชาชนทั้ง 17 ล้านเสียง มีการรับร่างประชามติมาแล้ว ถ้าบอกว่าบิดเบี้ยว บิดเบี้ยวจากมุมมองของฝ่ายใด และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งผ่านการใช้มาแล้ว 4 ปีในสภาฯ ถ้าบิดเบี้ยวจริง ทำไมไม่คิดแก้ หรือดำเนินการในช่วงที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย และทุกพรรค สามารถแก้ไขได้
ส่วนการร้องเรียนนายพิธา จะนำไปสู่การลงถนนของประชาชนหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า การลงถนนนั้นสามารถทำได้ทั้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และฝ่ายที่เห็นด้วยกับการที่ กกต. จะวินิจฉัยตามข้อมูล แต่บ้านเมืองนี้อยู่ด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้าทุกฝ่ายยอมรับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือเคารพสิทธิและเสรีภาพก็ไม่มีปัญหา
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #พรรคก้าวไกล #ก้าวไกล #สนธิญา #พิธา #พิธาลิ้มเจริญรัตน์
โฆษณา