29 มิ.ย. 2023 เวลา 16:32 • ท่องเที่ยว
เลห์

เรื่องเล่าจากเลห์ 2023 🗻 (EP.1/2)

คงมีหลายคนไม่คิดว่าที่นี่คือประเทศอินเดีย 🇮🇳
ถ้าพูดถึงประเทศอินเดียก็จะนึกถึงแต่ Street Food ,ทัชมาฮาล, แม่น้ำคงคา...ไม่คิดว่าจะมีวิวแบบนี้กับเขา แต่เอาจริงๆเราที่เห็นรูปรีวิวที่นี่ครั้งแรกก็ไม่คิดว่าเป็นประเทศอินเดียเหมือนกัน ^-^
"เลห์" เมืองหลวงของแคว้นลาดัก เขตแคชเมียร์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 3500-5500 เมตร อากาศที่นี่เลยจะเบาบางกว่าปกติ คนพื้นราบอย่างพวกเราเสี่ยงต่อการเกิดโรคแพ้ความสูงได้ง่าย เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวจึงสำคัญมากๆ ...เรากับเพื่อนเลยกินยาป้องกันไว้ก่อนตั้งแต่ก่อนขึ้นจากไทย
เราไปช่วงวันที่ 21-28 เม.ย.66 แพลนตามทัวร์เขาจัดให้ (private tour)
Day 1 : BKK - New Delhi
Day 2 : New Delhi - Leh, Leh Palace, Shanti Stupa
Day 3 : Leh to Nubra Valley (ผ่าน Khardungla pass) , Handur Sand Dunes,
Day 4 : Nubra Valley to Pangong Tso
Day 5 : Pangong to Leh (Shey Palace, Thiksey Monastry)
Day 6 : Indus and Zanskar River, Magnetic Hill, พักผ่อนในเมือง shopping
Day 7 : กลับสนามบิน Leh-New Delhi
Day 8 : New Delhi - BKK
จริงๆแพลนกับเพื่อนไว้จะไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังไม่พร้อมอะไรหลายอย่าง ต้นปีนี้ก็เลยจองตั๋วไปเลย เดี๋ยวไม่ได้ไปซักที🤣 หาตั๋วนานมาก อยากนั่ง full service เลยได้นั่งการบินไทย ต่อไปเลห์ด้วย Air India (ไม่มีบินตรงไปเลห์ ต้องต่อเครื่องอีก ถ้านั่งสายการบินตามรูทนี้ที่เรานั่งก็ไม่ต้องเปลี่ยน terminal ให้วุ่นวาย)
ไม่หิว แต่กินหมดทุกอย่าง 🤣
เห้ยยย ตื่นเต้นอ่ะ ไม่ได้ออกตปท หลายปี เครื่องดีเลย์ไม่นานเท่าไร ตอนเครื่อง take off เสร็จ คุณพี่ชาวอินเดียกลุ่มนึงก็เฮอย่างดัง 😅 ไอ้เราก็งงนึกว่าเชียร์ไรกัน 555 (เกือบทั้งเครื่องเป็นชาวอินเดีย) ใช้เวลาบินประมาณเกือบ 4ชม. ก็ถึงกรุงนิวเดลีตอนตี1 สนามบินใหญ่มาก เดินไกลมากเมื่อไรจะถึง ชั้นง่วงแล้วพี่จ๋าาา ไปนั่งรอต่อเครื่องที่ gate อีก4ชม. 🥱 มี Free Wifi กดเอาตามตู้ แค่สแกนพาสปอร์ต ชอบตรงนี้แหละ
ระหว่างรอเรียกขึ้นเครื่อง
แล้วก็ได้เวลาบินต่อจากนิวเดลี ไป เลห์ ใช้เวลา 1 ชม. เราจะต้องได้เห็นวิว อุตส่าห์จองที่นั่งฝั่งด้านซ้ายติดหน้าต่างมา น้ำตาจะไหล T_T ภูเขาหิมะอลังการมาก สมคำร่ำลือ ไม่ได้อวยเว่อแต่อย่างใด ถ่ายรูปไม่หยุดเลยอ่ะ 555555 กลัวขากลับไม่ได้เห็น (ก็ไม่ได้เห็นจริงๆ สภาพอากาศไม่ดี) พอเครื่องแลนดิ้งปุ๊ป รับกระเป๋า กรอกเอกสารตม.อะไรเสร็จก็ออกไปเจอไกด์ (คุณจิมมี่) กับคุณสแตนซิน สลับกันขับรถ มารับหน้าgate อากาศหนาวมาก หิมะตกปรอยๆ แกๆๆๆๆ เราใส่เสื้อยืดข้างใน เอาเสื้อแขนยาวทับแค่นั้นแหละ โคตรจะเตรียมตัว 555555
จากนิวเดลีไปเลห์ ขาไปนั่งฝั่งซ้าย ขากลับนั่งฝั่งขวา
วันแรก...ในเมืองเลห์
เข้าที่พัก กินข้าวแล้วไปนอนก่อนเลยอันดับแรก เพราะไม่ได้นอนเลยจ้าาา ตั้งแต่เมื่อวานเกือบ 24 ชม.ได้ไหม จะขิตเอานะ ด้วยอากาศที่เบาบาง สำหรับคนพื้นราบอย่างเรา ไกด์ให้เราไปพักผ่อนเอาแรง เพราะตอนเย็นจะพาไปเดินดูเมืองกับวัดใกล้ๆ
ที่พัก มองออกไปเป็นภูเขาหิมะ 🥰
SHANTI STUPA
SHANTI STUPA หรือ เจดีย์สันติภาพ นั่งรถไม่ไกลจากที่พัก ประมาณ 15 นาทีก็ถึง ทางเข้าข้างหน้าเหมือนเขากำลังสร้างถนนไม่เสร็จ ระหว่างเดินขึ้นก็มีลมปะทะหน้าเป็นระยะ ยิ่งตกเย็นอากาศยิ่งหนาวววว สังเกตป้ายจะมีภาษาญี่ปุ่นด้วย ต้องมีความเชื่อมโยงอะไรกันแน่ๆ...สรุปจากไกด์เล่าให้ฟัง (ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างอะนะ) ได้ความว่า มีพระญี่ปุ่นกับพระลามะชาวเลห์เป็นผู้สร้าง เสร็จในปี 1991 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
หมู่บ้านล้อมด้วยภูเขาหิมะ
ตกเย็นไปเดินสำรวจในเมือง อารมณ์ถนนคนเดิน ข้างทางมีคาเฟ่ ร้านหนังสือ ร้านขายของ ... เราไปนั่งพักอยู่คาเฟ่ที่ไกด์แนะนำว่ากาแฟอร่อย แต่เหมือนทุกคนจะกินโกโก้ร้อน 55555 แล้วกลับไปกินอาหารเย็นที่โรงแรม คืนนี้เราต้องเตรียมเสื้อผ้าเพื่อไปค้างที่ Nubra Valley และ Pangong Lake เวลา2วันด้วย
เค้กแครอทอร่อยมาก 🥕
บรรยากาศในตัวเมืองเลห์
วันที่สอง....
จากนี้ไปจะเป็นการนั่งรถที่ยาวนาน แล้วต้องผ่าน Khardungla pass ที่อยู่จากระดับน้ำทะเล 5000 กว่าเมตร จริงๆพวกเรากินยา Diamox มาแล้วตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องที่ไทย วันละครึ่งเม็ด เช้าเย็นทุกวัน เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราจะเป็นโรคแพ้ความสูงหรือเปล่า กินกันไว้ก่อน แต่ตั้งแต่เหยียบเลห์ยังไม่มีใครมีอาการนะ
ไกด์แวะให้จอดถ่ายรูป ขับๆไปรถติดเลยลงมาถ่ายเล่น
ก่อนถึงคาร์ดุงลา รถติดมาก ไม่ใช่ติดสัญญาณไฟอะไรนะ แต่เขาต้องเคลียร์หิมะก่อน เพราะรถมันไปไม่ได้ ติดกันยาวไปถึงโน่นนนน ไกด์จิมมี่ก็เป็นทั้งคนขับแล้วก็ลงไปช่วยรถคันอื่นขับให้พ้นหิมะอีก ส่วนทางเราคือพอเริ่มติดนาน เพื่อนที่ไปด้วยเริ่มมีอาการแล้ว เวียนหัว หายใจไม่ค่อยทัน ในรถมีแท้งค์ออกซิเจนเลยขอดมซัพพอร์ตสลับกันไป ส่วนเรานั้นรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา 55555 ....แต่อย่าเล่นไป
รถติดหนักมาก จริงๆอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว
แดดแรงมากกกกก ถ้าไปอย่าลืมพกแว่นกันแดด
พอขึ้นไปถึงจุดถ่ายรูป เพื่อนนนน เราเหมือนจะหน้ามืดวะ เริ่มวิ้งๆละ ถ่ายไปได้สองรูป ขอเดินกลับรถก่อน หารถก็ไม่เจออีกกก ชั้นจะล้มตรงนี้โดนหิมะทับตายไม่ได้นะ เจอพี่คนขับอีกคน "Where is our car?" เขาเลยพาเราไปส่งรถ แล้วเพื่อนๆที่เหลือถ่ายรูปเสร็จก็กลับมาในรถ ดมออกซิเจนสลับกันต่อไป 555555 นี่พึ่งเคยดมออกซิเจนครั้งแรกในชีวิต มีแต่ให้คนไข้ดม มันก็เย็นๆจมูกแหละ ดมสักพักโอเค บวกกับเรากำลังจะลงจากที่สูงด้วยก็เลยอาการดีขึ้น
แวะกินข้าวกลางวันร้านทางผ่าน
ไกด์พามาแวะกินข้าวกลางวันก่อน เป็นร้านเล็กๆ local มาก ให้ไกด์สั่งให้ เราไม่ค่อยหิวกันเท่าไร ตอนแรกสั่งแค่แม็กกี้ (น่าจะยี่ห้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของอินเดีย) 1 ถ้วย ไข่ดาวสองฟอง ชานมอีก2 แก้ว กินไปกินมา เอ้ย...มันอร่อยวะ แม็กกี้กับชานมอร่อยมาก เลยสั่งเพิ่มไปอีก (ไม่หิวเลยเนอะ) 555555 ....
HANDER SAND DUNES
HUNDER SAND DUNES
ก่อนถึง Nubra Valley เราจะแวะทะเลทราย มาทำกิจกรรมที่มาถึงแล้วพลาดไม่ได้ก็คือการขี่อูฐ เราต้องจ่ายค่าขี่อูฐเอง (จำราคาไม่ได้) ใช้เวลาไม่นานประมาณ 15 นาทีได้ เขาจะแวะให้เราถ่ายรูปหมู่แล้ววนกลับ นั่งไปก็แอบสงสารอูฐ อูฐที่ได้ทำไมน้ำลายฟูมปาก ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ดูป่วยๆ แอบกลัวนิดนึง พอนั่งเสร็จก็ไปนั่งถ่ายรูปตรงเนินทะเลทราย ลมแรงมากกกกก อากาศก็เย็น แต่วิวสวยเพราะล้อมไปด้วยภูเขาหิมะ ไกด์จิมมี่ก็ช่วยถ่ายรูปให้ตลอดเลย
NUBRA VALLEY
เราถึงหมู่บ้านก็มืดค่ำแล้ว เพลียเลยแหละ เพราะนั่งรถนาน ใครที่เบื่อการนั่งรถทริปนี้อาจไม่เหมาะ แต่ขอบอกว่าสองข้างทางมันอลังการไปด้วยวิวภูเขาไม่ซ้ำกันเลย หมู่บ้านโนบร้าเหมือนเป็นทางผ่านให้เราแวะพักเพื่อไปเที่ยวตามจุดต่างๆต่ออีก...แต่ที่พักที่ทัวร์จองให้สวยดี อาหารอร่อย แต่ไฟดับบ่อยมาก ไวไฟก็เล่นไม่ได้ ที่ชอบอีกอย่างคือฮีตเตอร์อุ่นมาก อุ่นจนร้อนจนเหงื่อแตก 55555
วิวจากที่พักใน Nubra Valley
ลืมพูดถึงอาหารการกินเลย ส่วนใหญ่เป็นแป้งกับเครื่องแกงซึ่งมีหลายแบบมากๆ แต่เราว่ารสชาติคล้ายๆกันหมด แยกไม่ออก วันแรกที่ได้ลองคือไม่ได้แย่ กินได้ แต่มันเป็นแป้งอ่ะก็กินได้นิดเดียวก็อิ่มแล้ว แต่พอเจอทุกวันก็ไม่ไหว เริ่มเลี่ยนก้บเครื่องแกง ต้องไปกินพวกซีเรียล โอ๊ตมีล ขนมปังเอาแก้เลี่ยน แต่พ่อครัวก็เชียร์สุดฤทธิ์ไงบางทีก็กินให้เขาหน่อย แล้วเค้าจะคอยดูรีแอคชันเราด้วยนะเวลากินอ่ะ อย่างเกร็ง 55555 แต่อยู่นี่ก็ไม่มีท้องเสียอะไร มีแต่ท้องผูก (ออกตปททีไรเป็นท้องผูกทุกที)
ที่ชอบที่สุดคงเป็น Masala Chai Tea ก็คือชานมที่ใส่เครื่องเทศแบบอินเดีย ออกเผ็ดๆหน่อย เข้มแล้วก็ไม่หวาน กินร้อนให้ท้องอุ่นๆคือฟินมากกกก
Masala Chai Tea
โฆษณา