Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
31 พ.ค. 2023 เวลา 12:00 • ความคิดเห็น
จีน ไม่ใช่ที่พึ่งที่หวังได้เสมออีกแล้ว....
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนหลังเปิดประเทศจากโควิดมา
ค่อนข้างจะไม่สดใสอย่างรุนแรง
จากที่เคยคาดกันว่า เมื่อทางยุโรป สหรัฐ ได้รับผลกระทบจากสงครามอย่างรุนแรง จีนจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกแทน ตอนนี้ดูจะไม่ได้เสียแล้ว
และไทย ซึ่งหลายปีหลัง เอาตัวเองไปผูกไว้กับจีนค่อนข้าง
มาก คงต้องมาปรับแนวทางกันอีกแล้วล่ะ เพราะตัวเลข
เรากับจีน มันล้อกันแบบมีนัยสำคัญมากจริงๆ
คนซื้อตาย คนขายก็เจ๊งสิฮะ...
1
นี่คือสัจธรรมของธุรกิจที่เกิดขึ้น ระหว่างฝรั่งในฐานะผู้ซื้อ
และจีน ในฐานะผู้ผลิตจำหน่าย
จีนนั้นในยุคที่บูมสุดๆ ส่วนหนึ่งก็เพราตลาดทางตะวันตกมีเศรษฐกิจที่ดี พวกเขาจึงขายสินค้าได้มาก
เมื่อเศรษฐกิจตะวันตกแย่ จีนก็เลยแย่ไปด้วย
จีนอาจได้พลังงานราคาถูกจากรัสเซียในช่วงนี้
หลายคนมองว่าเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่งจากตะวันตก
ในแง่ต้นทุนการผลิต
ตามทฤษฎีมันควรเป็นแบบนั้น
แต่เอาเข้าจริงๆ มันกลับตรงกันข้าม
เพราะเมื่อชาวตะวันตก ระวังการใช้เงินมากขึ้น
ของจากจีน ซึ่งส่วนมาก ไม่ใช่ของจำเป็นในระดับ
"ต้องมี" ไม่มีไม่ได้ สำหรับชีวิตคน
มันเลยกลายเป็นสำคัญรองลงไป สินค้าจากจีนจึงกระทบค่อนข้างมากในแง่นี้
...ซึ่งอันนี้ต่างจากสินค้าอเมริกัน ที่เรียกว่า ต้องมี และผูกขาด เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ ยา
และอีกหลายอย่าง ที่มีเขาขายอยู่ที่เดียว นี่ทำให้เอกชนสหรัฐยังแข็งแรงมาก แม้ภาครัฐจะอ่อนแอก็ตาม...
ภาพลักษณ์สินค้าจีนก็เป็นอีกส่วน ต้องไม่ลืมว่าสินค้าจีน
ในโลกตะวันตกที่ขายดีมากๆส่วนมากเป็นสินค้าราคากลางๆ ซึ่งแน่นอนว่าคุณภาพก็ค่อนข้างจะไม่ดีไปด้วย
ต้องเปลี่ยนบ่อย
...ดังนั้น เมื่อคนระวังการใช้เงินมากขึ้น การซื้อทั้งที
จึงต้องคุ้ม การเลือกของแพง แต่ใช้ได้นาน มันเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับคนในโลกตะวันตก
( อันนี้ขออธิบายก่อนโดนด่า คือ ไม่ได้จะบอกว่าสินค้าจีนคุณภาพแย่ แต่ส่วนที่มันขายดีในโลกตะวันตก จะเป็นสินค้าเกรดล่าง แบบคนซื่อใช้แล้วทิ้ง อะไรงั้น
ซึ่งจีนหากินกับสินค้าพวกนี้มานานแล้ว ในยุโรปและอเมริกา
ส่วนสินค้าเกรดสูงจากจีน มันก็มีราคาสูงเช่นกัน
ฝรั่งจึงมักเลือกซื้อของพวกตัวเองมากกว่า สินค้าพวกนี้จึงไม่ใช่รายได้หลักของจีนในโลกตะวันตก ซึ่งจะต่างจากในเอเชีย หรือบ้านเรา )
...ดังนั้นจึงกลายเป็นว่า ยุโรปแย่ อเมริกาแย่ จีนเลยแย่ตามไปด้วย เพราะไม่มีตลาดกำลังซื้อสูง และไม่มีที่ไหนแทนได้นั่นเอง ....
นโยบายการเมืองจีนก็เป็นอีกส่วนที่ฉุดพวกเขา...
นโยบายไม่เป็นมิตรกับตะวันตกนั้น เป็นส่วนหนึ่ง
ที่เรารู้กันดี ถึงสงครามการค้า การกีดกันการค้าต่างๆ
อันนี้ขอข้ามไป เพราะทุกคนทราบกันอยู่แล้ว ว่าส่งผลกับจีนหนักแค่ไหน
แต่อีกส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน
คือนโยบายของสี่จิ้นผิง ทีไม่เป็นมิตรกับทุนใหญ่
ในเมืองจีนเองมากนัก
อันนี้ต้องย้อนกลับไปตอนสี่จิ้นผิงรับตำแหน่งสมัยล่าสุด
เขาบอกว่า ต้องเปลี่ยนเศรษฐกิจจีนเป็นการโตไปด้วยกัน ไม่ใช่โตแบบเหลื่อมล้ำแบบที่ผ่านมา
คำพูดนี้ทำให้นักลงทุนจีนตีความได้ว่า สี่จะไม่สนับสนุน
ทุนใหญ่เหมือนเดิมอีกต่อไป และอาจมีการตัดตอนยักษ์ธุรกิจต่างๆ แบบที่เคยเกิดขึ้นกับหลายบริษัท เช่น
อาลีบาบา ของแจ็ค หม่า เป็นต้น
เศรษฐีจีนจึงต้องทำตัวลีบๆ เข้าไว้ เจียมเนื้อเจียมตัว
ไม่ลงทุนอะไรมาก เดี๋ยวจะซวยเพราะนโยบายของสี่
แล้วมันก็ส่งผลกับเศรษฐกิจจีนทั้งหมด
จนชะลอลงมาก อย่างที่เราเห็นกัน
อันนี้ ต้องบอกว่ามันต่างกับที่อื่น ที่จะแก้ปัญหาการผูกขาด หรือความเหลื่อมล้ำ แบบอาศัยกลไกการตลาด หรือใช้กฎหมายบีบ ไม่ให้ทุนใหญ่ได้เปรียบเกินไป
แต่ของจีนนั้น ในทางเทคนิคแล้วรัฐบาลจีนมีอำนาจเต็มในบริษัททุกแห่ง แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเอกชนก็ตาม
เราต้องไม่ลืมว่า จะอย่างไร จีนก็ยังเป็นคอมมิวนิสต์.
และสี่เองก็นำแนวคอมมิวนิสต์แบบดั้งเดิมนี้มาใช้
มากขึ้นกว่าสมัยสายเติ้งเสี่ยวผิงเรืองอำนาจ
( สิ้นสุดที่หู่จินเทา )
ดังนั้นคำประกาศ ในการรับตำแหน่งครั้งล่าสุดของสี่
มันจึงมีผลให้นักธุรกิจจีนเอง ไม่กล้าลงทุนนั่นเอง
( "***น่าสังเกต*** สี่จิ้นผิงปราบทุนผูกขาด คนไทยจำนวนหนึ่งเฮ และสรรเสริญ พอคนไทยมีคนจะทำบ้าง
ในบ้านเรา คนกลุ่มเดียวกันด่า มันคืออะไร 🤣🤣🤣)
1
2
สุดท้าย ก็คือ จีนเองยังมีปัญหาขยะใต้พรมสุมอยู่ไม่น้อย
1
จีนเป็นประเทศที่ค่อนข้างปิดข่าวในทุกเรื่อง
แต่ก็หลุดออกมาให้ชาวโลกทราบเหมือนกัน
ว่าที่จริงแล้ว เศรษฐกิจภายในพวกเขา ก็มีปัญหาไม่น้อย
ทั้งเรื่องหนึ้เน่าภาคอสังหาริมทรัพย์
อัตราว่างานสูง โดยคนจบใหม่ว่างานถึง 20%
เศรษฐกิจอิ่มตัว จากการลงทุนภาครัฐหลายปีต่อเนื่อง
และที่สำคัญ คือ ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ
ที่จีนโดนหนักกว่าใคร เพราะมีประชากรมหาศาล
และคนสูงอายุในจีนส่วนมาก เป็นคนในยุคก่อนจีนบูม
ดังนั้น คนแก่ในจีน โดยเฉพาะนอกเมืองใหญ่
จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ยากจน ไม่สามารพึ่งตัวเองได้
ในสภาพที่ข้าวของแพงขึ้นจากการเติบโตของจีนเอง
ในหลายปีที่ผ่านมา
และในสังคมเอเชีย ลูกหลานผู้สูงอายุก็ต้องเลี้ยงดู
บุพการี ทำให้คนกลุ่มนี้เสียกำลังในระบบเศรษฐกิจจีนไปมากมายมหาศาล
( เข่น คนแก่หนึ่งคน จะต้องพึ่งพาลูกหลานหลายคน ผล
กระทบมันจึงมาก ปัญหานี้ก็คล้ายๆไทยนั่นแหละ และว่าตามจริง ไทยอาจดีกว่าด้วยซ้ำ )
...เหล่านี้คือปัญหาของตัวเศรษฐกิจจีนเอง ที่มันเป็นอยู่อย่างเงียบๆ ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนไม่เหมือนในหลายสิบปีที่ผ่านมา....
บทความนี้ ไม่ได้จะเขียนให้มีโทนไปทางการเมือง
ทั้งในและระหว่างประเทศ
แต่จะบอกว่า ไทยจะมัวมาพึ่งจีนมากๆ
แบบที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว
ที่จริง เราอาจบอกว่า เราพึ่งใครไม่ได้เลยในตอนนี้ก็ได้
เพราะยุโรปก็บักโกรก
ส่วนอเมริกา แม้เอกชนยังดูแข็งแกร่งมาก แต่ก็ต้องไม่ลืม
ว่าภาครัฐอเมริกาตอนนี้อยู่ในสภาพอ่อนแอมากๆเช่นกัน
ภาคธนาคารพวกเขา ก็เหมือนเล่นเกมส์กำจัดจุดอ่อนกันอยู่ มันจึงหวังอะไรไม่ได้จากพวกเขาเหมือนกัน
ดังนั้นการส่งออก หรือการท่องเที่ยว ที่เราคาดหวังไว้มากๆในทุกๆ ปี มันไม่น่าจะดีไปอีกนานเลย
หรืออาจไม่ดีเหมือนเดิมไปตลอดกาล เพราะยากมาก
ที่จะเป็นแบบนั้น ในสภาพเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบ
จากวิกฤติอย่างต่อเนื่อง
การใช้จ่ายภายใน หรือทำยังไงให้เศรษฐกิจภายในประเทศเราเอง เติบโต อาจเป็นทางเดียวที่เราพึ่งพาได้
แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ???
ดังนั้น ไอ้เกมส์การเมืองต่างๆ เนี่ย เบาๆกันหน่อยเหอะ
แพ้คือแพ้ ไอ้คนมา ถ้าทำไม่ดี มันอยู่ไม่ได้หรอก
มัวมาเตะตัดขากันตอนนี้ ก็ซวยกันหมดไปเท่านั้นเอง
...อย่าซ้ำเติมคนไทยด้วยกันดีกว่า...
อีกส่วนคือคนที่อยากลงทุนอะไรที่เกี่ยวกับจีน
ก็ระวังๆกันหน่อย นี่เห็นแห่ปลูกทุเรียนเพิ่มกันอีกบานเบอะ
ระวังเหอะ จะเจ๊งเอาแบบยางในอนาคต
หรือถ้าจะไปลงทุน ในกองทุนหุ้นจีน ก็ควรดูข้อมูลให้ดี
และต้องไม่ลืมว่า จีนเป็นประเทศอำนาจนิยม
ทุกอย่างขึ้นกับผู้นำคนเดียว มันไม่มีอะไรไว้ใจได้
โดยเฉพาะเมื่อรสนิยมของสี่นั้น คือ คอมมี่เต็มตัว...
...นี่คือเรื่องที่ควรจำไว้เลย ถ้าคิดจะลงทุนในจีน...
มีศิลปินชาวจีน ที่ทางการกาหัวไว้ เคยพูดว่า
สี่กำลังทำลายรากฐานทางเศรษฐกิจที่สายเติ้งสร้างมา
หลายสิบปี ด้วยการเอาการเมืองนำ
และพยายามเอาความคิดแบบเหมากลับมา
และนี่คือคำพูดของคนจีนที่แห่อพยพกันออกมามาก
ในช่วงนี้เช่นกัน....
แน่นอน ว่าไม่มีใครรู้ปัญหาในประเทศจีน
มากกว่าคนจีนเอง
...มันจึงต้องระวัง และไม่มองแต่ด้านบวก...
...อย่างที่กองอวย กองปั่นในบ้านเราพูดกรอกหู....
...ข้อเท็จจริง สำคัญสำหรับการลงทุนที่สุด แม้จะเป็นข้อเท็จจริงแค่ที่เขาอยากให้เรารู้ก็ตาม...
...การอวดฉลาด ทำตามทฤษฎีสมคบคิดคิด ว่ากูรู้ทันเพื่อต่อสู้กับตลาดนั่น คือเส้นทางแห่งหายนะ สำหรับการลงทุน....
...แยกให้ออกนะครับ ก่อนการลงทุนใดๆก็ตาม....
เลข PMI จีน กับเลขอุตสาหกรรมบ้านเรา สัอกันแบบมีนัยทีเด
ความคิดเห็น
เศรษฐกิจ
บันทึก
16
7
4
16
7
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย