พาชม “วังบางขุนพรหม” สัมผัสเสน่ห์สถาปัตยกรรมยุโรปในสยาม
ในประเทศไทยมีพระราชวังและบ้านโบราณอยู่มากมาย บ้างก็ปิดตัวลง บ้างก็ยังเปิดให้ผู้คนเข้าไปเยี่ยมชมศิลปกรรม สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า วันนี้ #ที่โปรด จะพาไปดู อีกหนึ่งวังเก่าแก่ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ที่ถูกยกย่องว่างดงามวิจิตรที่สุดในไทย “วังบางขุนพรหม”
📌 ประวัติความเป็นมา
วังบางขุนพรหม เป็นวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อพระราชทานแด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระราชโอรสลำดับที่ 33 ในรัชกาลที่ 5 เนื่องจากตามจารีตประเพณีแล้ว ในเขตพระบรมมหาราชวังจะมีบุรุษอาศัยอยู่ได้เพียงผู้เดียว กล่าวคือ มีเพียงพระมหากษัตริย์เท่านั้นที่จะสามารถประทับอยู่ ณ เขตนั้นได้
ดังนั้น บรรดาพระราชโอรสที่เจริญพระชนมพรรษาถึงวันโกนจุกแล้ว จำต้องย้ายออกไป โดยตามธรรมเนียมแล้ว สมเด็จพระบรมชนกนาถจะพระราชทานที่ดินและสร้างวังให้ หรือบางครั้งอาจมีการพระราชทานวังเก่าวังเดิมให้เช่นกัน
📌 การก่อสร้าง
ตัวพระตำหนักใหญ่เริ่มต้นสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2439 - 2444 โดยมีนายคาร์ล ซันเดรสกี ชาวเยอรมัน และนายพี.เรมิดิ ชาวอิตาเลียน เป็นสถาปนิกผู้รับผิดชอบการออกแบบและก่อสร้างพระตำหนักใหญ่ พร้อมทั้งนายคาร์โล อัลเลกรี และนายอี.โรแบร์ติ ชาวอิตาเลียน ผู้เป็นวิศวกรโครงสร้าง ต่อมาเมื่อมีการต่อเติมพระตำหนักใหญ่ในช่วงปี 2454-2456 นายคาร์ล ดอห์ริ่ง ก็ได้เข้ามาเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการสร้างเช่นกัน
ในช่วงระยะเวลาออกแบบและก่อสร้างนั้น เป็นช่วงเดียวกันกับที่ผลจากการปฎิวัติอุตสาหกรรมแพร่กระจายไปทั่วทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้วังบางขุนพรหมได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในเรื่องของรูปแบบการก่อสร้างและออกแบบมาด้วย อาทิเช่น มีการใช้กระจกใส กระจกฝ้า และกระจกสีกับช่องแสงและช่องหน้าต่าง
📌 สถาปัตยกรรม
หากจะกล่าวว่าวังบางขุนพรหมนั้นงามวิจิตรไปเสียทุกภาคส่วนก็คงไม่เกินจริง โดยตัวพระราชวังมีการผสมผสานกันของรูปแบบศิลปะตะวันตกและลวดลายการตกแต่งแบบนีโอ-บาโรก โดยถือว่าเป็นการผสมผสานกันของรูปแบบศิลปกรรมโบราณที่สง่างามและสมบูรณ์ที่สุด อีกทั้งยังสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพอากาศประเทศไทยที่มีความร้อนชื้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
📍 ตำหนักใหญ่
ณ ตำหนักใหญ่ จะเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ซึ่งมีความสูงมากเป็นพิเศษเทียบเท่าได้กับอาคาร 4 ชั้นในปัจจุบัน จึงทำให้ภายในอาคารมีความปลอดโปร่งให้ความรู้สึกสบาย แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นถึงความโอ่อ่าของตัวอาคารอีกด้วย ความวิจิตรส่วนใหญ่ของตำหนักนี้สะท้อนให้เห็นผ่านเสาชนิดต่างๆ ทั้งเสากลม เสาเหลี่ยม เสาแบน และเสาเกลียว โดยจะมีลวดลายปูนปั้นอันงดงามประณีตประดับบนหัวเสาชวนให้น่ามอง
นอกจากนี้ ไฮไลท์สำคัญของตำหนักใหญ่อยู่ที่บันไดหลัก ณ ห้องโถง ซึ่งเป็นเป็นบันไดหินอ่อนขนาดใหญ่ที่สง่างามมาก แผนผังของบันไดเป็นเส้นโค้ง ลูกนอนของบันไดหากมองดีๆ จะมีความคล้ายกับคลื่นน้ำที่ไหลลงสู่ฐานด้านล่างเลยทีเดียว
📍 ตำหนักสมเด็จ
ตำหนักสมเด็จเป็นอาคารที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับคฤหาสน์ชนบทของเยอรมนีในสมัยนั้น ทั้งภายนอกและภายในตัวอาคารถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโวและอาร์ตเดโค จุดเด่นอยู่ที่หลังคาที่เป็นแบบจั่วสูงหัวตัด ตัวตำหนักหันหน้าออกไปทางแม่น้ำ จึงถือเป็นตำหนักที่เจ้านายฝ่ายในมักมาประทับพักผ่อนกัน
📍 กระโจมแตร
เป็นศาลาสำหรับการตั้งวงดนตรีแตรวงยามมีงานเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ตัวศาลามีลักษณะเป็นทรงกลมที่สร้างแบบยุโรป ก่อด้วยอิฐ และประดับไปด้วยลวดลายปูนปั้นอันงดงามอ่อนช้อย
🏰 วังบางขุนพรหมมีความสำคัญทั้งในแง่ของศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า มีการนำแนวความคิดจากตะวันตกมาผสมผสานกับรูปแบบศิลปกรรมตะวันออกได้เป็นอย่างดี และด้วยประการนี้ “วังบางขุนพรหม” จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวังที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย
🚘 ปัจจุบัน “วังบางขุนพรหม” เปิดให้นักท่องเที่ยวให้เข้าชมฟรีทุกวันเสาร์-อาทิตย์ วันละ 3 รอบ รอบละ 40 คน พร้อมทั้งมีวิทยากรนำชมสถานที่ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องสำรองเข้าเยี่ยมชมทางออนไลน์เท่านั้น ซึ่งสามารถจองเข้าชมได้ภายใน 7 วัน
#วังบางขุนพรหม #บ้านโบราณ #ที่โปรด #ผู้กำกับน้อย
ที่มา: หนังสือ ชมบ้านโบราณ ชิมของอร่อย
เครดิตภาพ:
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
