[A Advisory] == ค่าแรง แรงนะ == จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีนายจ้างจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกกังวลใจกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำจากนโยบายรัฐบาลใหม่

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

1 มิ.ย. 2023 เวลา 15:32 • ธุรกิจ

== ค่าแรง แรงนะ ==

จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีนายจ้างจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกกังวลใจกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำจากนโยบายรัฐบาลใหม่

ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะค่าแรงน่าจะเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจส่วนใหญ่ในบ้านเรา

แต่รู้มั้ยครับว่า ค่าแรงที่แท้จริงน่ะ มันมากกว่าค่าแรงที่เราเห็นตรงๆอีกหลายระดับ

เพราะค่าสวัสดิการต่างๆ รวมถึงโอทีและโบนัสของพนักงานก็มักจะขึ้นกับค่าแรง

เงินชดเชยกรณีจ้างออกหรือเกษียณ ก็ขึ้นกับค่าแรง

วันหยุดวันลาของพนักงาน สำหรับพนักงานประจำ ที่ไม่ใช่รายวัน นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าแรงให้

และพนักงานก็ไม่ได้ทำงานเต็มเวลาทุกวันที่มาทำงาน ทุกคนต้องมีเวลาพัก เวลาประชุม เวลาเดินทาง มีการฝึกอบรม ฯลฯ เวลาที่ทำตัวเนื้องานจริงๆอาจจะมีเพียง 60-80% ของเวลาทำงานเท่านั้น

และยังต้องมีสถานที่ทำงาน อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือให้พนักงาน และยังต้องมีหัวหน้างานคอยดูแลบริหารงานพนักงานด้วย และเมื่อค่าแรงพนักงานสูงขึ้น ค่าแรงหัวหน้างานก็ต้องสูงขึ้นตาม ไม่งั้นการบริหารจะมีปัญหามาก

และเนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่ต้องการความก้าวหน้า คาดหวังว่าจะมีการปรับเงินเดือน และหากมีโอที หรือโบนัสที่จ่ายอยู่ก่อนแล้ว โอกาสที่จะตัดออกไปโดยไม่ทำให้เสียกำลังใจหรือเสียประสิทธิภาพในการทำงานไปด้วยนั้น แทบจะไม่มี ดังนั้นตราบใดที่พนักงานยังไม่ได้ลาออกไปเอง หรือถูกจ้างออก นายจ้างก็จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่างนี้ให้กับพนักงานแต่ละคนจนกว่าเขาจะเกษียณ และต้องจ่ายในอัตราที่ปรับขึ้นทุกปีด้วย

และสำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือ เอกชนบางรายที่มีบำเหน็จ บำนาญ และสวัสดิการหลังเกษียณ แม้พนักงานจะไม่ได้อยู่กับองค์กรนานแล้วค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็ยังคงมีอยู่ แถมส่วนใหญ่จะมีการปรับขึ้นเรื่อยๆตามเงินเฟ้ออีก และบ่อยครั้งสวัสดิการตรงนี้ก็ครอบคลุมถึงภรรยา/สามีของพนักงานด้วย ค่าใช้จ่ายตรงนี้ บางที คุณอาจจะลืมคิดให้ครบ

ยิ่งไปกว่านั้น บางที่บางแห่ง ยังเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่จะขึ้นตำแหน่งให้กับคนทำงานก่อนจะเกษียณ เพื่อให้ได้ตัวเงินเดือนและตัวคูณที่จะใช้ในการคำนวนเงินสวัสดิการหลังเกษียณให้ได้สูงๆ ซึ่งตัวเงินนั้น อาจจะดูเล็กน้อยในปีที่เกษียณ แต่ถ้าคำนวนตลอดจนกว่าจะเสียชีวิต จำนวนนั้นจะไม่ใช่น้อยๆเลย บางทีองค์กรคุณก็อาจจะคำนวนตรงนี้ไม่ครบเหมือนกัน

และถ้าหากทำกันจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว (เช่นเกือบทุกคนจะเกษียณที่ตำแหน่งระดับ 8 เป็นอย่างน้อย) ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนธรรมเนียมนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายลงมานอกจากจะมีเหตุวิกฤติจริงๆ เพราะฉะนั้น คุณสามารถคิดคำนวนล่วงหน้าได้เลย ว่าทีมงานคุณในปัจจุบัน ซึ่งเฉลี่ยแล้วอาจจะอยู่ในระดับ 4 คุณจะต้องมีค่าใช้จ่ายของเขาหลังจากที่เขาเกษียณในระดับ 8 และจ่ายไปจนกว่าเขาจะเสียชีวิต

แถมคนไทยส่วนใหญ่ยังอายุยืนขึ้นทุกปี จึงอาจไม่แปลกอะไรเลยที่ทีมงานของคุณที่อายุ 30 ปีในปัจจุบัน จะเสียชีวิตที่เฉลี่ยอายุ 95 ปี ในอีก 60 กว่าปีข้างหน้า ค่าใช้จ่ายสวัสดิการหลังเกษียณของเขาเหล่านี้ที่ยังจะคงต้องจ่ายในอนาคตพวกนี้ คุณคิดครบแล้วหรือยัง

ขอโทษด้วยนะครับ ว่าแทนที่จะปลอบใจ ผมกลับให้ข้อคิดที่อาจจะซ้ำเติมความปวดหัวของคุณเข้าไปอีก แต่นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก และผมคิดว่าผู้บริหารส่วนใหญ่ประเมินกันผิด หรือไม่ก็ไม่อยากจะคิด แต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง

ค่าใช้จ่ายของการจ้างพนักงานแพงมากครับ คุณควรคิดให้ดีมากๆเวลาจะจ้างใครสักคนเพิ่มเข้ามา เพียงเพราะมีงานที่ต้องทำในวันนี้ และควรทำโมเดลที่มีข้อสังเกตต่างๆเหล่านี้ให้ครอบคลุมครบถ้วนและเป็นความจริงแบบที่ไม่หลอกตัวเอง เอามาดูกันก่อน

แล้วผมเชื่อว่าคุณ (ส่วนใหญ่) จะตกใจ

แต่ในทางกลับกัน ทีมงานของคุณ เป็นสมบัติไม่กี่อย่างในองค์กรของคุณที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา "ถ้า" คุณมีระบบบริหารที่เหมาะสม

องค์กรคุณ ไม่มีทีมงานไม่ได้หรอกครับ

ดังนั้น จะดีกว่ามาก ถ้าคุณมีวิธีการบริหารจนทีมงานคุณสามารถทำงานได้มากกว่าเดิมและดีกว่าเดิมได้โดยใช้คนเท่าเดิมหรือน้อยกว่า และทั้งนี้ พวกเขาต้องทำงานได้อย่างมีความสุขด้วย มิฉะนั้นก็ยากที่จะยั่งยืน

และมีระบบบริหารที่ทำให้พนักงานที่ตั้งใจพัฒนาตัวเอง สามารถอยู่กับองค์กรได้อย่างมีความสุขและไม่คิดจะลาออกไปไหน ส่วนพนักงานที่เก่งมากๆจนคุณก็ไม่สามารถให้โอกาสความก้าวหน้าให้ทันใจเขาได้ เวลาเขาลาออกไปทำตามความฝันเขาเอง ก็ทำให้นั่นเป็นการจากกันด้วยดี โดยคุณก็ได้พัฒนาคนใหม่ๆที่พร้อมมาทำแทนคนที่ลาออกไปได้ตลอด

นั่นคือทิศทางที่คุณควรจะไป

คุณควบคุมสิ่งที่ภาครัฐจะทำไม่ได้ครับ สิ่งที่คุณควบคุมได้คือวิธีการบริหารองค์กรของคุณเอง เอาพลังของคุณและทีมงานมาจัดการตรงนี้เถอะ

เริ่มจากทำตัวเลขและโมเดลที่เป็นจริง แล้วค่อยมาปรึกษาหารือกันว่าจะเอายังไงกันดี

ส่วนวิธีการจะทำอย่างไร ขอโทษที่บอกไม่ได้จริงๆ เพราะไม่มีสูตรตายตัวครับ คุณต้องหาแบบที่เหมาะที่สุดสำหรับองค์กรคุณเอง และคงจะต้องปรับไปเรื่อยๆตามสถานการณ์และสิ่งที่คุณเรียนรู้จากการลงมือทำจริงๆด้วย

ขอให้โชคดีนะครับ

อาทิตย์ กริชพิพรรธ

#AAdvisory

หากสนใจ คุณสามารถเพิ่มเป็นเพื่อนเราในทาง Line เพื่อรับ update โดยตรง หรือสอบถามข้อมูลต่างๆของเราได้ที่ https://lin.ee/Q1V9omr ครับ

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

== ค่าแรง แรงนะ ==

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน