2 มิ.ย. 2023 เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิดผลงาน 9 “กองทุน Clean Energy”

อนาคตแห่งโลกพลังงาน... “Megatrend”
ที่ตอบโจทย์ทั้ง “ผลตอบแทน” & “ดูแลโลก” !!!
สาระ Fund วันละนิด: วันนี้จะพามาส่องกลุ่ม “กองทุน Clean Energy” อีกหนึ่ง Megatrend ของโลกการลงทุนที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ และเป็นความจริงที่เกิดขึ้นบนโลกและทวีความสำคัญมากขึ้น เมื่อโลกให้ความสำคัญกับเรื่องของ “สิ่งแวดล้อม” มากขึ้น
เป็นตัวเร่งในการขับเคลื่อนสู่การเป็นส่วนหนึ่งของการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) สนับสนุนในเรื่องการใช้ “พลังงานสีเขียว” และ “การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ” ติดตามมาและกลายเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาวด้วยเช่นกัน
โดย “พลังงานสะอาด” จะมีการพูดถึงกันมากในช่วงที่ “ราคาพลังงาน” อยู่ในโซนแพง แต่พลันที่ราคาพลังงานโลกปรับตัวลงอยู่ในโซนต่ำ ก็ดูเสมือนเรื่องนี้จะเงียบไปเช่นกัน ทั้งที่พื้นฐานที่ผลักดันให้เติบโตยังคงแข็งแกร่ง
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ผลงานของกลุ่ม “กองทุน Clean Energy” ในปีนี้ดูไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก ตั้งแต่ต้นปีเฉลี่ยอยู่ที่ +2.43% เท่านั้น
ผลงานของกองทุนในกลุ่มนี้เป็นยังไงกันบ้างนั้น ทางทีมงาน ‘Wealthythai’ ได้รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว ตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลย
"กองทุน Clean Energy" ซบตาม "พลังงานโลก" ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง +2.43%...“KWI SENERGY-A” แชมป์กลุ่ม +10.31% !!!
ปัจจุบันมี “กองทุน Clean Energy” ในอุตสาหกรรม 9 กอง ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ไม่นับรวมชนิดหน่วยลงทุนที่มีกองทุนหลักเหมือนกัน) ทำผลตอบแทนเฉลี่ย +2.43% ในจำนวนนี้มีเพียง 3 กอง คิดเป็น 33% เท่านั้น ที่ผลตอบแทน ‘เป็นบวก’ ส่วนอีก 6 กองที่เหลือคิดเป็น 67% มีผลงาน ‘ติดลบ’
แม้จะเป็นกองทุนธีม “Clean Energy” เหมือนกัน แต่ผลงานค่อนข้างหลากหลายและแตกต่าง ขึ้นกับกองทุนปลายทางที่แต่ละกองทุนไปลงทุน ตลอดจนน้ำหนักการลงทุนที่แตกต่างกันนั่นเอง นำมาโดย
อันดับ1) “KWI SENERGY-A” ของบลจ.เคดับบลิวไอ ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีได้ +10.31% เป็น Feeder Fund ลงทุนผ่านกองทุนหลัก ‘Robeco Capital Growth Funds – RobecoSAM Smart Energy Equities Class I USD’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัททั่วโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเกี่ยวกับการจัดหาเทคโนโลยีสําหรับการผลิตพลังงานสะอาด การกระจายแหล่งพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการพลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
2) “MRENEW-A” ของบลจ.เอ็มเอฟซี +7.44% เป็น Feeder Fund ลงทุนผ่านกองทุนหลัก ‘BGF Sustainable Energy Fund’ ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน (sustainable energy companies) ทั่วโลก
3) “BCAP-CLEAN” ของบลจ.บางกอกแคปปิตอล +4.10% เป็น Fund of Funds ลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองขึ้นไป ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรมเพื่อช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน เช่น Clean energy, Electric Vehicles (EV), Circular Economy & Waste Management, Energy Storage เป็นต้น
4) “T-ES-GGREEN” ของบลจ.อีสท์สปริง ผลตอบแทนติดลบ -3.33% เป็น Feeder Fund ลงทุนผ่านกองทุนหลัก ‘Brookfield Global Renewables and Sustainable Infrastructure UCITS Fund’ ที่เน้นลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐานแบบยั่งยืน
อันดับ 5) “DAOL-TENERGY” ของบลจ.ดาโอ -3.43% และ 6) “SCBCLEANA” ของบลจ.ไทยพาณิชย์ -5.27% ซึ่งทั้ง 2 กองเป็น Feeder Fund ที่ลงทุนในกองทุนหลักเดียวกัน คือ ‘BNP Paribas Funds Energy Transition’ Class I CAP (EUR) ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานแนวใหม่ทั่วโลก (Energy Transition)
โดยแนวทางการลงทุนจะเน้นในกลุ่มที่สร้างการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานดังกล่าว รวมถึงกลุ่มพลังงานทางเลือก กลุ่มพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างความยั่งยืน เช่น การขนส่งและอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
7) “TNEWENGY” ของบลจ.ทิสโก้ -5.38% เป็น Feeder Fund ลงทุนผ่านกองทุนหลัก ‘Invesco WilderHill Clean Energy ETF’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี ‘WilderHill Clean Energy’ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีดังกล่าว ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงหุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับการพัฒนาพลังงานสะอาด (Cleaner Energy) การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมถึงบริษัทที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างสูงจากการเปลี่ยนผ่านสังคมไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
8) “P-CGREEN” ของบลจ.ฟิลลิป -7.08% เป็น Feeder Fund ลงทุนผ่านกองทุนหลัก ‘KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี ‘MSCI China IMI Environment 10/40’ ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทในประเทศจีนที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5 กลุ่มธุรกิจ
คือ กลุ่มพลังงานทางเลือก (Alternative Energy), การพัฒนาและการจัดการทรัพยากร น้ำอย่างยั่งยืน (Sustainable Water), การออกแบบอาคารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Green Building), การป้องกันมลพิษ (Pollution Prevention) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Efficiency)
ปิดท้ายด้วย อันดับ9) “PRINCIPAL GCLEAN-A” ของบลจ.พรินซิเพิล ผลตอบแทนติดลบ -11.14% เป็น Feeder Fund ลงทุนผ่านกองทุนหลัก ‘iShares Global Clean Energy UCITS ETF’ ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) USD (Dist) ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี ‘S&P Global Clean Energy’ ซึ่งเป็นดัชนีเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนนี้
ในระยะสั้นผลงานของ “กองทุน Clean Energy” อาจมีความหลากหลายแตกต่างกันไปบ้าง แต่นี่คือหนึ่งของ Megatrend ระยะยาวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั่วโลก ที่จะสร้างการเติบโตให้กับธีม “พลังงานสะอาด” และ “เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน” ได้ จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการกระจายความเสี่ยงในการจัดสรรสินทรัพย์ และเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวเป็นอย่างดี
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
โฆษณา