5 มิ.ย. 2023 เวลา 13:30 • กีฬา

ที่สุดของฤดูกาล : รวมเหตุการณ์เด่น พรีเมียร์ลีก 2022/23

บทสรุปของศึกพรีเมียร์ลีก 2022/23 แน่นอนว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งเกิดขึ้นกับทั้งบรรดาสโมสรกลุ่มหัวตาราง กลางตาราง ไปจนถึงท้ายตาราง โดยแต่ละเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงนั้นปรากฏให้เห็นตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่นในเดือนสิงหาคม มาจนถึงเกมส่งท้าย หรือแมตช์เดย์ที่ 38
Main Stand ได้รวบรวมเหตุการณ์สำคัญมาฝากแฟน ๆ ให้ได้ร่วมย้อนเรื่องราวอันโดดเด่นนี้ไปพร้อม ๆ กันอีกครั้งหนึ่ง
[มหัศจรรย์ฮาลันด์]
หนึ่งในฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2022/23 ซึ่งถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยที่สามติดต่อกันของสโมสร คือการได้ เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาลันด์ มาร่วมก๊วนในซัมเมอร์ 2022 โดยกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีและแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวตั้งแต่ฤดูกาลแรก เห็นได้จากสถิติกระหน่ำ 36 ประตู คว้าดาวซัลโวสูงสุด พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ยิงมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก 1 ซีซั่น พ่วงด้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล รวมถึงดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลมาครองอย่างยิ่งใหญ่
[การผงาดขึ้นมาลุ้นแชมป์เต็มตัวของอาร์เซนอล]
อาร์เซนอล เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการลุ้นแย่งแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบเต็มตัวในขวบปีที่ผ่านมา โดยทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เคยมีช่วงเวลาที่ครองจ่าฝูงของตารางแบบติด ๆ กันนานอยู่หลายเดือน เรียกได้ว่ามีโอกาสที่ดีที่จะเข้าป้ายสู่แชมป์ลีกต่อจากฤดูกาลแชมป์ไร้พ่าย 2003/04 แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น พลพรรคปืนใหญ่กลับทำผลงานสะดุดอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็มาเสียท่าให้เรือใบสีฟ้าที่ผลงานคงเส้นคงวากว่า
[นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปแชมเปี้ยนส์ลีก]
ปฏิเสธไม่ได้ว่านับแต่ที่กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียเข้ามาเทคโอเวอร์ในปี 2021 ดูเหมือนว่าทีม “สาลิกาดง” จะมีกราฟความสำเร็จที่ไต่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฤดูกาล 2022/23 ที่เพิ่งจบไปภายใต้การทำทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว เขาพานิวคาสเซิลทำในสิ่งที่เคยทำได้ในช่วง 20 ปีที่แล้วอีกครั้ง ด้วยสถิติลงเตะ 38 นัด เก็บได้ 71 คะแนน ดีพอที่จะทำให้เหล่า “ทูน อาร์มี่” ยิ้มระรื่นตาม ๆ กัน เพราะทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 คว้าสิทธิ์ไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกแบบอัตโนมัติ
[โธมัส ทูเคิ่ล vs อันโตนิโอ คอนเต้]
การดวลกันยกแรกของฤดูกาลระหว่าง เชลซี กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นอกจากผลการแข่งขันจะออกมาเสมอกันแบบสุดมัน 2-2 ชนิดที่ โธมัส ทูเคิ่ล และ อันโตนิโอ คอนเต้ ต่างก็งัดแทคติกมาสู้กันตลอด 90 นาทีแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงแบบไม่น้อยหน้าเกมการแข่งขันคือสีสันจากบริเวณข้างสนามของทั้งคู่ ซึ่งออกรสชาติให้เห็นตั้งแต่การผลัดกันดีใจเวลาที่ทีมได้ประตู ลามมาถึงช่วงจบเกมในจังหวะจับมือของสองกุนซือ
1
ภาพหลังจบเกมที่สื่อจับไว้ได้เป็นโมเมนต์ที่ทั้งคู่บีบมือใส่กันชนิดไม่ยอมปล่อย ร้อนถึงสตาฟของทั้งสองทีมต้องรีบเข้ามาปราม สุดท้าย แอนโธนี เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินก็แจกใบแดงให้กับทั้งคู่
[โรนัลโด้เปิดหมดเปลือกกับ เพียร์ส มอร์แกน]
ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญของวงการลูกหนังพรีเมียร์ลีกและโลก หลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปออกรายการ Talk TV ของ เพียร์ส มอร์แกน ผู้ประกาศชื่อดังชาวอังกฤษที่สนิทสนมกันมานาน โดยประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งที่ CR7 เลือกไปเปิดใจคือเรื่องการร่วมงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนที่สอง
ซึ่งเรื่องราวที่เป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายคือการออกมาโจมตีสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งเรื่องการบริหารทีม รวมถึงกุนซือคนปัจจุบันอย่าง เอริก เทน ฮาก ที่มีความสัมพันธ์ต่อกันไม่ดีนัก และบอกด้วยว่าเขารู้สึกเหมือนถูกสโมสร "ทรยศ" เป็นเหตุให้ในเดือนเดียวกันนี้ทีมปีศาจแดงแถลงการณ์ยกเลิกสัญญาดาวเตะรายนี้ โดยแถลงการณ์ยืนยันว่านี่เป็นการแยกทางด้วยความเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย
[ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด เลขที่ออก 7-0]
เป็นเวลากว่า 92 ปีแล้วที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยแพ้คู่แข่งด้วยสกอร์ขาดลอยที่มี “ผลต่าง” ถึง 7 ประตู ทว่าสถิติย่อมมีวันถูกทำลายลงในวันใดวันหนึ่ง และมาเกิดขึ้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนได้ ในช่วงเดือนมีนาคม 2023 โดยทีมที่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจคราวนี้คือหนึ่งในคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล
สองประตูจาก โคดี้ กัคโป, ดาวิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และอีกหนึ่งลูกโดย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กลายเป็นเครื่องจักรสังหารตาข่ายปีศาจแดง ทำเอา เดอะ ค็อป ทั้งในแอนฟิลด์และที่ดูอยู่หน้าจอจากทั่วมุมโลกเฮไปตาม ๆ กัน เพราะนี่คือสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดในรอบ 128 ปี ของศึกแดงเดือด
[คอนเต้ทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ใส่สเปอร์ส]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พลาดเก็บสามแต้มในมือตัวเองในการดวลกับทีมท้ายตารางอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน หลังเป็นฝ่ายนำ 3-1 แต่ยันไม่อยู่โดนตีเจ๊าจนผลการแข่งขันออกมาที่ 3-3 อย่างไรก็ตาม หลังเกมกลับมีประเด็นชวนให้ติดตามยิ่งกว่าเมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ เกิดน็อตหลุดระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจบเกม โดยวิจารณ์ผ่านสื่อว่านักเตะเห็นแก่ตัว เคยชินกับการที่ไม่ต้องกดดันอะไร เช่นเดียวกับทิศทางของสโมสรที่ต่อให้จะเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปกี่คนก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
และนั่นคือเกมสุดท้ายในการคุมทีมไก่เดือยทองของกุนซืออิตาเลียน ราว ๆ หนึ่งสัปดาห์เศษหลังจากนั้นสเปอร์สประกาศแยกทางกับคอนเต้ด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย
[เชลซี 4 โค้ช]
สิงโตน้ำเงินครามถึงคราวเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่ในฤดูกาลล่าสุด ภายใต้เจ้าของใหม่จากสหรัฐอเมริกา นำโดย ท็อดด์ โบห์ลี่ ซึ่งภาพรวมในขวบปีแรกของเชลซียุคเศรษฐีมะกันกลับไม่ได้มีเรื่องน่าชื่นชมมากเท่าเสียงวิจารณ์ กับการจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 12 เป็นอันดับต่ำที่สุดของสโมสรในรอบเกือบสามทศวรรษ ตั้งแต่ฤดูกาล 1993/94
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคงหนีไม่พ้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนถึง 4 รายภายในซีซั่นเดียว ไล่มาตั้งแต่การปลด โธมัส ทูเคิ่ล จากที่มีการวิเคราะห์กันว่าแนวทางการทำงานไม่ตรงกับผู้บริหาร นำมาสู่การแต่งตั้ง แกรห์ม พอตเตอร์ แต่ผลงานก็ยังไม่ดีจนโดนปลดเป็นคนที่สอง ตามมาด้วยการขัดตาทัพหนึ่งนัดของ บรูโน่ ซัลตอร์ ปิดท้ายที่กุนซือคนที่สี่ซึ่งทำหน้าที่รักษาการไปจนจบซีซั่นอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด
[ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส : เฮทีหลังดังกว่า]
อีกหนึ่งแมตช์ระดับ “ห้าดาว” ในฤดูกาลที่ผ่านมา ต้องยกให้เกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไฮไลต์สำคัญของเกมนี้มาเกิดขึ้นในช่วงท้าย เริ่มจากนาทีที่ 90+4 เมื่อ ซน ฮึง-มิน เปิดฟรีคิกให้ ริชาร์ลิซอน กองหน้าตัวสำรองโขกประตูให้สเปอร์สตามตีเสมอเป็น 3-3 พร้อมแสดงท่าดีใจสุดเหวี่ยง
แต่กระนั้นท้ายสุดฝ่ายที่ได้เฮสุดเสียงกลับเป็นหงส์แดง เมื่อ ดิโอโก้ โชต้า ฉวยโอกาสยิงประตูชัยให้ทีมชนะไปแบบระทึก 4-3 ถึงขั้นที่ เยอร์เกน คล็อปป์ เฮสนั่นจนถึงขั้นจับไปที่บริเวณแฮมสตริง ซึ่งช็อตดังกล่าวก็ได้กลายเป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตและถูกพูดถึงในวงกว้าง
[ปิดฉากเทพนิยายเลสเตอร์]
2015/16 เป็นฤดูกาลที่ชื่นมื่นที่สุดของทีมฉายา “เดอะ ฟ็อกซ์” เพราะมันคือปีที่สโมสรคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ แต่อีก 7 ฤดูกาลต่อมา ผลงานของทีมกลับตาลปัตรจากการจบพรีเมียร์ลีก 2022/23 ด้วยอันดับที่ 18 ชนิดที่ต้องลุ้นไปจนถึงแมตช์เดย์สุดท้ายของซีซั่น และในท้ายที่สุดสโมสรก็ต้องตกชั้นกลับไปว่ากันใหม่ในเวทีลีกรอง
โฆษณา