6 มิ.ย. 2023 เวลา 16:26 • ไลฟ์สไตล์

เราได้อะไรจากจิตที่สงบ..

ชีวิตของคนเรานั้น ช่างเต็มไปด้วยความสับสนและวุ่นวายเสียจริง ชุ้นลองมานั่งนึก ๆ ดู ความจริงในแต่ละวัน จิตใจของเราก็เหมือน "ฟองน้ำ" ดีๆ นี่เอง เที่ยวดูดซับเรื่องนั้นเรื่องนี้ คิดเรื่องนั่นเรื่องนี้ ไม่หยุดไม่หย่อนแม้แต่น้อย ขนาดนอนหลับบางทียังเก็บเอาไปฝันต่อ..
จากความข้างต้น ซึ่งชุ้นก็ได้ลองสังเกตดูจิตดูใจของตนเอง จริงเนอะ จริงด้วย มันไม่มีสักวินาทีเดียวเลยที่เราจะหยุดคิดจริง ๆ จัง ๆ สักวินาทีเรื่องที่คิดก็มีตั้งแต่ที่จำเป็น เช่น หน้าที่การงานครอบครัว เป็นต้น และเลยไปถึงเรื่องเล็กน้อย หรือจะให้ดีชุ้นจัดเข้าในประเภทจิปาถะ รวมถึงการคิดไปเองหนึ่งนะ และที่ยังไม่นับอีกหนึ่งคือประเภทที่เรียกว่าฟุ้งซ่าน คือ คิดมาก overthinking งัย จะพาลให้ประสาทจะกิน ...
ซึ่งการคิดอย่างหลังสุดนี้ มันทำให้ระบบประสาทของชุ้นนั้นร่วนได้หนักมากทีเดียว จนต้องมีการขอยาระงับประสาทกันทีเดียว ไม่น่สแปลกใจหรอกที่ว่า ความคิด "ฆ่า" เราได้ ดังนั้น เขาจึงเตือนว่า อยู่คนเดียวความคิดคือ ตัวอันตรายอย่างร้ายกาจ เพราะมันคือ "ศัตรูที่เงียบที่สุด" แต่นะแต่ "ดังที่สุด" ในหัวเรา.. 😅
ภาพ ที่มา (สรุปโลเท่าไร)
สมมติเล่น ๆ นะ หากวันหนึ่งที่เราต้องเผชิญความหายนะอะไรสักอย่างในชีวิต หรือเวลาที่เราจะล้ม หรือเวลาที่เรารู้สึกว่าพังอะ หรือเวลาที่เราต้องใช้ปัญญาในการขบคิดปัญหาบางอย่าง ๆ จริงจัง แต่ติดไม่ออก แก้ไม่ตรงจุด เกาไม่ถูกที่คัน เหตุการณืกลับเลวร้ายลงไป ใจควรจะดีขึ้น แต่กลับดิ่งนรกลงไปอีก ประคองใจตังเองก็ไม่ได้ ดูแลคนอื่นก็ยิ่งยาก..
โอ้ย.. ปัญหาเจ้าคะ ช่วยต่อแถวเข้าคิวให้มีมารยาทจักของคุณมากอะไรแบบนี้ มองปัญหาไหนก็ไม่ขาด ทางแก้อยู่หนใด..ก็หาไม่เจอ.. เอางัยดีเรา.. จะอยู่หรือจะไปดี.. ฟ้าถล่มลงมาแล้วก็วันนี้เอง..
ในความเป็นจริง เราทุกคนเคยเผชิญ และประสบปัญหานี้เหมือนกันหมด เพียงแต่ ๆ ละคนมีวิธีจัดการกับสถานการณ์ หรือเหตุการณ์นั่น ๆ อย่างไร
ภาพ ที่มา
แต่สำหรับแล้วชุ้นจะไม่ลงจัดการกับปัญหา แต่ชุ้นจะจัดการกับ "ใจ" ของตนเองก่อน.. ใจที่มันสบสันวุ่นวายนี่ละ ที่เป็นสาเหตุหลักของทุก ๆ เรื่องราว ที่กล่าวมา เพราะว่า มันไม่สงบ และไม่นิ่งเท่านั้นเอง เลยทำให้เรานั้น เกาไม่ถูกที่คัน อะไรที่ควรแก้ อะไรที่ควรปล่อย อะไรที่ควรต่อยอดอะไรที่ควรพัฒนา และ ฯลฯ
ด้วยประการฉะนี้ จิตที่สงบจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราไปต่อได้ดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของจิตใจของเราเอง เพราะจิตที่สงบจะทำให้เราคิดได้ในสเต็ปต่อ ๆ ไป มองการณ์ไกลได้ดีขึ้น และต่อยอดปัญญาได้ดี และละเอียดขึ้น กว่าจิตที่ฟุ้งซ่านแน่นอน เพราะซัดซ่ายไปมา ดังที่เกริ่นไว้ข้างต้น (ด้วยเหตุที่มันเหมือนฟองน้ำ ซึมซับเรื่องราวมากมาย ซึ่งรวมถึงปัญหาด้วยเช่นกัน)
ถามว่า จิตที่ฟุ้งซ่าน มันคิดได้ไหม? คำตอบคือ ได้เหมือนกัน แต่เป็นแบบสะดุดๆ ไม่ราบรื่น เพราะติดอดีต (ความเสียใจ ความรู้สึกผิด เสียดาย ฯลฯ) หรือกลัวกังวลอนาคต (ไม่สำเร็จ ความผิดหวัง ฯลฯ) มากเกินความจำเป็น..
ดังนั้นเมื่อเราต้อวเผชิญวันที่ฟ้าถล่ม วันที่เราล้ม ในวันที่เราเจ็บร้องควรญคราง วันที่มีแต่ตนเป็นที่พึ่ง เราจำเป็นที่ต้องเตรียมตัวเตรียมเสบียงกันไว้ เพราะวันที่หันซ้ายแลขวาไม่มีใครนั่นมีอยู่จริง ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาใด ๆ ชุ้นจะทำ.. คือ..
1. ทำใจให้สงบ เป็นอันดับแรก เป็นการดึงจิตของเรากลับมาอยู่ในปัจจุบันขณะโฟกัสแต่สิ่ง หรือเหตุที่เกิดขึ้นตรงหน้า เพื่อที่เราจะได้มีสติอยู่กับปัจจุบัน พร้อมที่จะแก้ไขรับมือกับปัญหาหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด ไม่มัวเสียใจกับอดีต หรือกังวลเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงมากเกินไป
2. วางแผน มองดูข้อบกพร่อง หรือสิ่งที่ต้องรีบแก้ไขปรับปรุอย่างเร่งด่วน หรือที่ต้องพัฒนา หรือต่อยอดในอนาคต การพิจารณาและมองปัญหารอบด้านนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นบทเรียนให้เราได้เรียนรู้ และไตร่ตรองได้ละเอียดยิ่งขึ้น
3. จัดเวลาเพิ่มศักยภาพให้จิต โดยการวางแผนนั่งสมาธิวันละ 10-15 นาที ในทุก ๆ วัน และเพิ่มไปเรื่อย ๆ ตามกำลังของเรา เป็นการเตรียมความพร้อมให้ใจเรานั้นสงบ และตั้งมั่นอยู่เสมอพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดา และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เพราะการจัดการทุกอย่างด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ไม่เคยเป็นผลดีกับใครเลยจริง ๆ เชื่อชุ้นนะ..
แต่เมื่อใดที่เราใจเย็นลง เมื่อนั้นสิ่งดี ๆ ย่อมตามมา ทางเลือกทางรอดเยอะแยะมากมายก่ายกอง แม้แต่คำพูดดีๆ ก็สรรหามาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
พอใจเย็นเท่านั่นพูดอะไรออกไปทำอะไรลงไป ก็กลายเป็นลูกรักพระเจ้าทันที
ไม่เช่นนั้น สิ่งที่เราจะได้รับจะมีแต่คำว่า "สูญเสีย" ทั้งสิ้น เอาจริงชุ้นเชื่อว่า.. ไม่มีใครอยากมีจุดจบไม่สวย ดังนั้น
**จงมีสติอยู่กับการกระทำของเราเสมอ ด้วยใจที่สงบ และนิ่ง**
เพราะใจดวงนี้มันไม่เคยสงบ.. เชื่อชุ้น...
#บันทึกของชุ้น
#MindAttitude
#ใจสงบดีกว่าใจที่ฟุ้ง
#การรับมือที่ดีกว่า
< ความวิจิตรของจิต >
การระวังสังวรจิต และมีความกล่าวถึง ลักษณะหรือสภาพของจิตด้วย มีดังนี้
ทูรงฺคมํ เอกจรํ อสริรํ คูหาสยํ
เย จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา ฯ
แปลความว่า ชนทั้งหลายใด จักระวังจิต ซึ่งไปไกล ไปเดี่ยว ไม่มีสรีระ (รูปร่าง) มีคูหาเป็นที่อาศัย ไว้ได้ ชนทั้งหลายจะพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร
อนึ่ง จิตเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้เกิดขึ้น ทำให้เป็นไปได้ คือทำให้วิจิตรได้ถึง ๖ ประการ
๑. วิจิตรในการกระทำ คือทำให้งดงาม แปลก น่าพิศวง พิลึกกึกกือ เช่น สิ่งของต่างๆที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ย่อมมีทั้งที่งดงาม แปลกตาน่าพิศวง ตลอดจนน่าเกลียด น่าสยดสยองสพรึงกลัว
๒. วิจิตรด้วยตนเอง คือ ตัวจิตเองก็แปลก น่าพิศวง มีประการต่างๆ นานา เช่น จิตดีก็มี ชั่วก็มี จิตที่ฟุ้งซ่าน จิตที่สงบ จิตเบาปัญญา จิตที่มากด้วยปัญญา จิตที่มีความจำเลอะเลือน จิตที่มีความจำเป็นเลิศ สุดที่จะพรรณนา
๓. วิจิตรในการสั่งสมกรรมและกิเลส ก็น่าแปลกที่จิตนั่นแหละเป็นตัวที่ก่อกรรมทำเข็ญ และก็จิตนั่นแหละเป็นตัวสะสมกรรมและกิเลสที่ตัวนั้นทำไว้เอง น่าแปลก น่าพิศวงยิ่งขึ้น ก็ตรงที่ว่า กรรมอะไรที่ไม่ดีที่ตัวทำ เอง ก็ไม่น่าจะเก็บสิ่งที่ไม่ดีนั้นไว้ แต่ก็จำต้องเก็บต้องสั่งสมไว้
ภาพ ที่มา
๔. วิจิตรในการรักษาไว้ ซึ่งวิบากที่กรรมและกิเลสได้สั่งสมไว้ หมายความว่ากรรมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมที่จิตเป็นตัวการก่อให้เกิดขึ้นนั้น จะไม่สูญหาย ไปไหนเลย แม้จะช้านานปานใด ก็ไม่มีการเสื่อมคลายไป เมื่อได้ช่องสบโอกาสเหมาะเมื่อใด เป็นต้องได้รับผลของกรรมเมื่อนั้นจนได้
๕. วิจิตรในการสั่งสมสันดานของตนเอง หมายถึงว่าการกระทำกรรมอย่างใดๆ ก็ตาม ถ้ากระทำอยู่บ่อยๆ ทำอยู่เสมอๆ เป็นเนืองนิจ ก็ติดฝังในนิสัยสันดานให้ชอบกระทำ ชอบพฤติกรรมอย่างนั้นไปเรื่อยๆ ไป
๖. วิจิตรด้วยอารมณ์ต่างๆ หมายถึงว่าจิตนี้รับอารมณ์ได้ต่างๆ นานาไม่มีที่จำกัดแต่น่าแปลก น่าพิศวงที่มักจะรับอารมณ์ที่ไม่ดี ที่ชั่วได้ง่ายดาย
คด.เจ้าของบทความ
#บันทึกของชุ้น
#MindAttitude
#ใจสงบดีกว่าใจที่ฟุ้ง
#การรับมือที่ดีกว่า
โฆษณา