8 มิ.ย. 2023 เวลา 04:48 • ประวัติศาสตร์

สาเหตุที่ชาวญี่ปุ่นนับถือ "ศาสนาคริสต์" เพียง 1% ของชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ

หากสังเกต ประเทศรอบๆ ไม่ไกลจากญี่ปุ่นนั้น มักจะมีผู้นับถือศาสนาคริสต์เป็นจำนวนมาก
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีชาวคริสต์สูงถึง 93% เกาหลี 29% และแม้แต่จีนก็มีชาวคริสต์กว่า 44 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 2.5% ในขณะที่ญี่ปุ่นมีชาวคริสต์ไม่ถึง 1% โดยมีชาวคริสต์เพียงประมาณ 1.9 ล้านคนเท่านั้น
1
ด้วยตัวเลขนี้จึงทำให้เกิดคำถาม
"ทำไมประเทศรอบๆ ญี่ปุ่นจึงมีผู้นับถือศาสนาคริสต์เป็นจำนวนมาก? ในขณะที่ศาสนาคริสต์กลับไม่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น"
อันที่จริง ศาสนาคริสต์นั้นมีประวัติความเกี่ยวพันกับญี่ปุ่นมาเป็นเวลายาวนาน โดยศาสนาคริสต์ถูกแบนในญี่ปุ่นเป็นเวลานานกว่า 250 ปี และชาวคริสต์ที่ถูกปกครองโดยรัฐบาลโชกุนต่างถูกประหารและเนรเทศเป็นจำนวนมาก
และจากการแบนนี้เอง ก็ได้ส่งผลต่อเนื่องยาวนานต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นเวลานานนับร้อยปีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
แรกเริ่มนั้น ศาสนาคริสต์ได้เข้ามายังแผ่นดินญี่ปุ่นโดยคณะมิชชันนารีที่เดินทางมากับเรือสัญชาติโปรตุเกส โดยหลวงพ่อ "ฟรังซิส เซเวียร์ (Francis Xavier)" ได้เข้ามาในญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์ที่จะตั้งโบสถ์และเผยแพร่ศาสนาคริสต์แก่ชาวญี่ปุ่น
ศาสนาคริสต์ได้เริ่มต้นแพร่หลายในญี่ปุ่นเมื่อปีค.ศ.1549 (พ.ศ.2092) และในช่วงแรก ผู้คนก็ให้ความสนใจศาสนาคริสต์ ศาสนาคริสต์ได้รับการต้อนรับอย่างดี โดยหลวงพ่อเซเวียร์ได้เริ่มสอนศาสนาคริสต์และเล่าเรื่องราวของ "พระเยซู (Jesus)" ให้ชาวญี่ปุ่น
พระเยซู (Jesus)
ภายในเวลาเพียง 30 ปี ศาสนาคริสต์ก็ได้แพร่กระจายไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น และภายในปีค.ศ.1580 (พ.ศ.2123) ก็มีชาวคริสต์ในญี่ปุ่นมากถึง 100,000 คน
1
หนึ่งในบุคคลสำคัญที่หันมานับถือศาสนาคริสต์ก็คือ "ฮาเซกุระ ทสึเนนางะ (Hasekura Tsunenaga)" และได้เดินทางไปยังกรุงโรมเมื่อปีค.ศ.1615 (พ.ศ.2158) ก่อนที่ในเวลาต่อมา ลมจะเริ่มเปลี่ยนทิศ
1
ผู้ปกครองอนุรักษ์นิยมในญี่ปุ่นมองว่าศาสนาคริสต์คืออิทธิพลที่จะเข้ามายึดครองประเทศของมหาอำนาจยุโรป มีการร่ำลือว่าศาสนาคริสต์คือเครื่องมือที่จะใช้ทำลายวัฒนธรรมญี่ปุ่นและยึดครองแผ่นดิน
1
เริ่มมีการกวาดล้างชาวคริสต์ในญี่ปุ่นเมื่อปีค.ศ.1587 (พ.ศ.2130) โดยมีการออกคำสั่งที่มีข้อสำคัญ 11 ข้อ ระบุว่าไดเมียวจะนับถือศาสนาคริสต์ได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าผู้ปกครอง และยังระบุอีกว่าญี่ปุ่นนั้นได้รับความคุ้มครองจากเทพเจ้า และกฎของศาสนาคริสต์ก็เป็นสิ่งชั่วร้าย
2
ฮาเซกุระ ทสึเนนางะ (Hasekura Tsunenaga)
ในคำสั่งยังโจมตีศาสนาคริสต์อีกว่าจะรื้อฟื้นระบอบทาส โดยในเวลานั้นก็มีข่าวลือว่ามิชชันนารีชาวคริสต์ได้เผยแพร่ศาสนาคริสต์แก่ชาวญี่ปุ่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อจับคนไปขายเป็นทาส
ต่อมา รัฐบาลเอโดะขึ้นสู่อำนาจ และศาสนาคริสต์ก็ถูกจัดให้เป็นสิ่งที่อันตราย ผู้ปกครองต่างๆ ได้รับคำสั่งให้ปราบปรามชาวคริสต์ที่พบ
1
ในปีค.ศ.1638 (พ.ศ.2181) ชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์กว่า 37,000 คนได้ถูกสังหาร และทำให้รัฐบาลสามารถปราบปรามกลุ่มชาวคริสต์ได้อย่างเด็ดขาด
1
ชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์ถูกกดขี่และบังคับให้ละจากความเชื่อ ใครที่ยังประกอบพิธีทางศาสนาอย่างเปิดเผยก็จะถูกขับไล่หรือไม่ก็ถูกสังหาร
ผลที่ได้ก็คือศาสนาคริสต์นั้นสูญสิ้นไปจากญี่ปุ่น และเป็นเช่นนั้นต่อเนื่องไปเกือบ 300 ปี
กว่าศาสนาคริสต์จะเป็นที่ยอมรับของกฎหมายอีกครั้งก็ในปีค.ศ.1871 (พ.ศ.2414) โดยรัฐบาลเมจิสามารถโค่นล้มรัฐบาลเอโดะ และก็ประกาศให้มีการนับถือศาสนาได้อย่างเสรี ทำให้มิชชันนารีจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามายังญี่ปุ่น หากแต่ศาสนาคริสต์ก็ยังไม่ได้รุ่งเรืองในญี่ปุ่นซะทีเดียว
1
ที่ญี่ปุ่น มุมมองต่อศาสนาคริสต์มักจะเป็นในเชิงว่าเป็นอิทธิพลจากต่างชาติ ความผูกพันกับศาสนาคริสต์นั้นมีน้อย และด้วยความที่ในอดีต ญี่ปุ่นเป็นชาติที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว ดังนั้นเมื่อมีการปราบปรามศาสนาคริสต์ออกไปจากญี่ปุ่น ก็ยากที่ศาสนาคริสต์จะกลับมารุ่งเรืองและเป็นที่นิยมได้อีก
เมื่อศาสนาคริสต์กลับมาอีกครั้ง ก็ต้องพบเจอกับกระแสชาตินิยม โดยกลุ่มชาตินิยมในญี่ปุ่นเมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ได้มีความรู้สึกที่ผูกพันกับวัฒนธรรมของตนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับนิกายชินโต
ดังนั้นการเป็นชาวคริสต์จึงถูกมองว่าไม่เป็นญี่ปุ่น ซึ่งก็อันตรายไม่แพ้ช่วงที่ญี่ปุ่นแบนศาสนาคริสต์
1
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็มองว่าศาสนาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่อันตราย ผู้คนจำนวนมากไม่นับถือศาสนา ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากไม่สนใจทั้งศาสนาพุทธหรือศาสนาคริสต์
จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ศาสนาคริสต์มาถึงญี่ปุ่น ศาสนาคริสต์ก็ถูกมองด้วยสายตาที่หวาดระแวง มีข่าวลือต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการเป็นแนวคิดจากต่างชาติที่จะแทรกซึมเข้ามาในสังคมญี่ปุ่น ซึ่งแนวคิดนี้ก็ไม่เคยหายไปจากสังคมญี่ปุ่น
ในทุกวันนี้ ชาวญี่ปุ่นยุคใหม่จำนวนมากต่างไม่ได้รู้สึกอินกับศาสนามากนัก ถึงแม้ว่าศาสนาคริสต์จะเบ่งบานในหลายๆ ประเทศ แต่ก็ไม่สามารถจะมีอิทธิพลในญี่ปุ่นได้ ผลที่ได้ก็คือมีเพียงชาวญี่ปุ่นแค่ 1% เท่านั้นที่นับถือศาสนาคริสต์
โฆษณา