กลุ่มฮูลิแกนเวสต์แฮม หรือที่รู้จักกันในนาม “Inter City Firm” หรือชื่อย่อ "ICF" มีชื่อเสียงโด่งดังในยุค 1970s-90s โดยที่มาของชื่อนี้มาจากการเดินทางด้วยรถไฟสายอินเตอร์ซิตี้ (InterCity-Express) เพื่อไปให้กำลังใจทีมรักสำหรับเกมเยือน แรกเริ่มกลุ่ม Inter City Firm ก่อตั้งจากการรวมกันของกลุ่มกองเชียร์ฮูลิแกนเวสต์แฮมระดับตำนาน ทั้งกลุ่มไมล์เอนด์บอยส์ (The Mile End Boys), กลุ่มเอสเซ็กซ์อีสต์ลอนดอน (Essex East London Firm) และกลุ่มอื่น ๆ ที่เป็นหัวรุนแรงเข้าด้วยกัน และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1976
ซึ่งในความเป็นจริงก่อนที่จะมีกลุ่ม Inter City Firm แฟนบอลเวสต์แฮมก็ขึ้นชื่อเรื่องการทะเลาะวิวาทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปในปี 1967 ในเกมที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รายละเอียดเหตุการณ์นอกจากการชกต่อยและทะเลาะวิวาทด้วยสิ่งของแล้ว มีหลายรายถูกทำร้ายด้วยมีด และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ถูกยึดเสื้อสโมสรที่ตนเองสวมใส่ โดย แกรนต์ เฟลมมิง อดีตหนึ่งในสมาชิกกลุ่มไมล์เอนด์บอยส์ ได้เอ่ยสั้น ๆ ถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่ตัวเขาเองก็อยู่ด้วย ในหนังสือ Congratulations You Have Just Met the ICF ว่า "มันเลวร้ายมาก และทุกคนหยาบคายกันสุด ๆ และผมก็ได้รู้ถึงสัจธรรมของโลกภายนอกว่ามันโหดร้ายแค่ไหน"
ความเดือดจากการปะทะกับลิเวอร์พูลยังไม่ทันจางหาย ต่อมาในปีเดียวกันในเกมที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด บุกไปเยือน เชลซี กลุ่มฮูลิแกนเวสต์แฮมที่เริ่มฟอร์มทีมเป็น Inter City Firm ได้ทำการเข้าบุกยึดโรงเก็บของแห่งหนึ่งภายในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งปกติแล้วเป็นจุดนัดรวมพลสำหรับกลุ่มแฟนบอลเชลซี
โดยทำการต่อสู้กันตั้งแต่ก่อนเริ่มยันไปถึงหลังเกมการแข่งขัน และนี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่สนามเหย้าของเชลซี ตามคำบอกเล่าของสมาชิกกลุ่ม Inter City Firm มีการเปิดเผยว่า ในยุค 1970s มีการบุกยึดโรงเก็บของที่สนามสแตมฟอร์ด บริจด์ มากกว่า 5 ครั้ง
หนึ่งปีให้หลังในเกมที่ มิดเดิลสโบรห์ เปิดบ้านพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กลุ่ม Inter City Firm ได้ทำการเคลื่อนพลจำนวน 300 คนไปยังสนามริเวอร์ไซต์ แต่ขณะเดียวกันทางฝั่งเจ้าบ้านก็เตรียมชายฉกรรจ์ชุดใหญ่ไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนกว่า 1,000 คน หลังจากเกมการแข่งขันจบ ทางฝั่ง Inter City Firm
เปิดงานด้วยการปาก้อนอิฐและพังที่กั้นระหว่างกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย พร้อมกับบุกเข้าไปหาแฟนบอลฝั่งตรงข้ามที่กำลังวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก ส่งผลให้แฟนบอลมิดเดิลสโบรห์ต้องวิ่งหนีไปไกลกว่า 2 ไมล์จนถึงสถานีรถไฟ เพราะไม่คาดคิดว่าจำนวนคนที่ต่างกันขนาดนี้แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับเป็นฝ่ายที่กล้าวิ่งเข้าใส่ ก่อนที่กลุ่ม Inter City Firm จะวิ่งไล่มาเก็บงานที่เหลือ เหตุการณ์ครั้งนี้ได้รับการขนานนามว่า “The Battle Of Boro”
ต่อเนื่องมาในเกมที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้องโคจรมาพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งในปี 1975 แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่าน ๆ มาเนื่องจากเป็นการทะเลาะวิวาทในบ้านของตัวเองจากที่ปกติมักเป็นผ่ายบุกไปหาเรื่อง โดยกลุ่ม Inter City Firm ได้ทำการปิดล้อมอัฒจันทร์ทางทิศใต้ซึ่งเป็นของกองเชียร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งผลให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนและเจ็บตัวจากสถานการณ์แออัดเป็นจำนวนมาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะใช้เวลากว่าชั่วโมงจึงจะสามารถเข้าควบคุมการวิวาทครั้งนี้ได้ทั้งหมด
นอกจากนี้สิ่งที่กลุ่ม Inter City Firm เพิ่มเข้ามาหลังจากมีเรื่องคือการทิ้งบัตรโทรศัพท์ที่มีข้อความเขียนว่า "Congratulations, You Have Just Met the I.C.F." ไว้ ณ สถานที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นการแจ้งให้ทราบว่าได้รับบาดแผลจากใคร
คนอื่นพอ … แต่ผมไม่
กระแสฮูลิแกนฟุตบอลในประเทศอังกฤษซบเซาลง ขณะเดียวกันประเทศอื่น ๆ ในยุโรปกลับมีกลุ่มแฟนบอลฮูลิแกนปรากฏอยู่บนหน้าข่าวเป็นประจำ แต่ไม่ว่าด้วยปัจจัยใดก็ตามกลุ่ม Inter City Firm กลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้งในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า คัพ(ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ปัจจุบัน) รอบแบ่งกลุ่ม
เมื่อปี 2006 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีคิวบุกไปเยือน ปาแลร์โม่ ซึ่งหลังจบเกมเกิดการขว้างขวดน้ำและเก้าอี้ใส่กันเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง อีกทั้งการทะเลาะวิวาทยังลุกลามไปยังรอบ ๆ สนาม มิหนำซ้ำตำรวจที่พยายามจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์ก็โดนกลุ่ม Inter City Firm ต่อสู้กลับเช่นเดียวกัน
มาในปี 2018 ดูเหมือนกลิ่นอายของกลุ่ม Inter City Firm จะหวนกลับมาอีกครั้ง เพราะมีการรียูเนียนกลุ่มฮูลิแกนเวสต์แฮมในนาม “Real West Ham Fans Action Group” เพื่อประท้วงการบริหารงานของบอร์ดสโมสรที่ไม่ได้เรื่อง แอนดรูว์ สวอลโลว์ อดีตสมาชิกกลุ่ม Inter City Firm เป็นตัวแทนเข้าพูดคุยหารือกับ เดวิด โกลด์ ประธานสโมสร ณ ขณะนั้น เพื่อที่จะยุติปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรง ก่อนที่สุดท้ายการเจรจาจะได้ขอสรุปไปในทิศทางบวกและนัดหมายการเดินประท้วงถูกยกเลิก