14 มิ.ย. 2023 เวลา 16:21 • ความคิดเห็น

เมื่อคะแนน ESG ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง

สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ชอบเลยกับเรื่องของ ESG ที่ธุรกิจกำลังให้ความสนใจ ก็คือ เรื่องของการให้คะแนน ซึ่งผมได้เปรียบเปรยไปในตอนก่อนว่า มันช่างไม่ต่างกับการทำบุญ แล้วมาพยายามแข่งกันว่าใครได้แต้มบุญมากกว่ากัน ดูว่าตักบาตรพระ 1 รูป จะได้แต้มบุญมากกว่าส่งเสียเด็กนักเรียน 1 คน หรือไม่
การให้คะแนน ESG ก็ช่างไม่แตกต่างกันเลย เรามาพยายามดูกันว่า การลดค่าไฟฟ้า 10% จะทำให้ได้คะแนน ESG มากกว่าการปลูกป่า 10 ไร่หรือไม่ ซึ่งแน่นอนที่สุด มันไม่มีวิธีการให้คะแนนที่ยุติธรรมได้แน่นอน แถมยังโกงกันได้ง่ายผ่าน "การโม้" และ "พูดมากกว่าทำ" แต่กลไกการให้คะแนนนี้กำลังจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจูงใจให้ธุรกิจต้องเริ่มทำด้าน ESG จนทำให้การทำ ESG มันดูบิดเบี้ยว
ตัวอย่างที่เห็นชัดคงหนีไม่พ้นการที่บริษัทโรงงานยาสูบเจ้าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก British American Tobacco ได้คะแนน ESG จาก LSEG ไปมากถึง 94 ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดอันดับ 3 ของบริษัทที่ LSEG ให้คะแนนทั่วโลก
ในขณะที่บริษัท Tesla ผู้ผลิตรถไฟฟ้ารักษ์สิ่งแวดล้อม กลับได้คะแนนกลาง ๆ ที่ 65 คะแนนเท่านั้น ขัดสายตาผู้ชมไปพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเป็นไปได้อย่างไรบริษัทในอุตสาหกรรมที่ทำให้คนเสียชีวิตไปปีละกว่า 8 ล้านคน จะได้คะแนนมากกว่าบริษัทที่สร้างรถไฟฟ้า เพื่อลดปัญหาโลกร้อน?
1
และที่ peak กว่านั้น คือ ESG Book ของ Arabesque ให้คะแนนด้าน governance ของ STARK ที่ 54.39 คะแนน สูงกว่า SCC ที่ 38.96 คะแนน!
1
โฆษณา