16 มิ.ย. 2023 เวลา 13:00 • หนังสือ

สรุปหนังสือแห่งปี Atomic Habits

ก่อนอื่นเราต้องมาดูที่ชื่อหนังสือกันก่อน เราเชื่อว่าชื่อหนังสือทุกเล่มมีความหมายที่ลึกซึ้ง
Atomic แปลว่า เล็ก
Habits แปลว่า นิสัย
เมื่อเอาสองคำนี้มารวมกัน “นิสัยเล็กๆ” อ่านแล้วอาจจะงง มันหมายความว่าอย่างไร
ในหนังสือเล่มนี้หัวใจหลักคือ การทำนิสัยที่ “ดี” ไม่ว่าจะเล็กน้อยสักแค่ไหนก็ตาม การเก็บที่นอน การดื่มน้ำ การกินอาหารที่ดี การออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ (2 นาทีก็นับ) และอีกมากมายที่ส่งผลดีต่อตัวเรา
“นิสัยที่ดี” เหล่านี้เมื่อนำมารวมกันแล้วหักลบกับ “นิสัยที่ไม่ดี” ที่เราทำในแต่ละวัน ถ้า ดี มากกว่า ไม่ดี นั่นหมายความว่า อย่างน้อยวันนี้เราได้พัฒนาตัวเองมากขึ้นแล้ว แต่ถ้าไม่ดีมากกว่า ดี เราต้องมาปรับปรุงแก้ไขและทำให้ "สมดุล" ของนิสัยที่ดีกลับมามากกว่าให้ได้ ภายใต้หลักการที่ว่า “ถ้าเราเก่งขึ้นวันละ 1% ภายใน 1 ปีเราจะเก่งขึ้น 3.65 เท่า จากตัวเราในวันนี้”
ต่อจากนี้คือ 5 ข้อที่จะนำเราไปสู่การเป็นคนที่ดีขึ้นด้วย Atomic Habits
1. สิ่งแรกที่เรามักจะเริ่ม คือ การตั้งเป้าหมาย ---
อยากผอมลง 10 โล
อยากมีซิกแพ็ค
อยากเรียนภาษาใหม่
อยากเลิกบุหรี่ ฯลฯ
แต่ปัญหาที่มักเกิดขึ้นหลังจากเราบรรลุเป้าหมายนั้นคือ “แล้วยังไงต่อ?”
เราไม่ได้สานต่อพฤติกรรมของเราก่อนที่เราจะบรรลุเป้าหมาย นั่นจึงทำให้หลายๆคนพอผอมลง 10 โลแล้วกลับมาอ้วนอีก หลังจากมีซิกแพ็คแล้วกลับมาอ้วนอีก หลังจากเรียนภาษาใหม่แล้วสอบวัดระดับได้แล้ว ไม่ได้ใช้ สุดท้ายก็หลงลืมสิ่งเหล่านั้นไป
ดังนั้นการตั้งเป้าหมายต้องไม่ใช่เป้าหมายระยะสั้น แต่เป็นเป้าหมายที่เราสามารถทำได้ไป "ตลอดชีวิต" เช่น
เราจะเป็นคนที่ออกกำลังให้ได้สัปดาห์ละ 5 วัน
เราจะดื่มแอลดอฮอลล์แค่เดือนละครั้ง
เราจะหักเงินไปเก็ยไว้ในบัญชีออมอัตโนมัติเดือนละ 2000 บาท
เราจะเรียนภาษาสเปนทุกๆวันเสาร์เช้า
แน่นอนช่วงแรกๆมันต้องยากลำบากแน่ๆ แต่เมื่อเราสร้าง ”นิสัย” เหล่านี้ขึ้นมาได้แล้ว ความสำเร็จเล็กๆที่คอยหล่อเลี่ยงหัวใจเราจะตามมาเอง
2. แล้วเราต้องทำอย่างไรล่ะ ถึงจะสร้างนิสัยเหล่านั้นขึ้นมาได้ --- หัวใจสำคัญที่เราจะสร้างนิสัยที่ดีนั้นคือ
“สร้างสิ่งแวดล้อม ให้นิสัยดีนั้นทำได้ง่าย ส่วนนิสัยที่ไม่ดีนั้นทำได้ยาก”
กว่า 1 ใน 3 ของหนังสือเขียนถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรมต่างๆ สิ่งแวดล้อมในที่นี้ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ แต่รวมไปถึง คน, อุปกรณ์, ช่วงเวลา
อยากไปวิ่งตอนเช้า --- ตั้งนาฬิกาปลุก และ เตรียมชุดออกำลังกายให้พร้อม วางไว้ที่ปลายหัวเตียง
อยากเรียนภาษาใหม่ --- เตรียมอุปกรณ์ เครื่องเขียน, สมุด และเปิดหน้า website ที่เราตั้งใจจะเข้าไปเรียนเป็นหน้าแรกหลังจากเรา log in
อยากนอนเร็ว --- ให้ชาร์จมือถือไว้อีกห้อง ทำให้ห้องนอนเป็นเพียงแค่ห้องเอาไว้นอนเท่านั้น อย่าลืมซื้อนาฬิกาปลุกด้วยล่ะ
อยากลดการดูทีวี --- ให้ดึงปลั๊กทีวีออกหลังจากที่ดูเสร็จ
อยากลดการเล่น Social --- ลบ app social ออกจากหน้า home page
3. กฎ 2 นาที --- เตรียมตัวก็แล้ว เตรียมใจก็แล้ว แต่ยังเริ่มทำไม่ได้สักที ให้ลองใช้กฎ 2 นาที คือ การมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำกิจกรรมนั้นๆเพียงแค่ 2 นาที หลายคนคงตั้งคำถามว่า 2 นาทีทำแล้วได้อะไร
“ได้เริ่มทำ” ใช่แล้วครับ ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือการ "ไม่ได้เริ่ม" เมื่อเราได้เริ่มทำแล้ว ผ่านไป 2 นาทีเราหยุดทำ วันต่อมาเอาใหม่ ทำอีก 2 นาทีแล้วหยุด วนไปเรื่อยๆ นอกจากจะเป็นความสำเร็จเล็กๆ ให้เราแอบดีใจแล้ว เราจะสร้างนิสัยขึ้นมาใหม่ในการที่จะเริ่มทำสิ่งนี้ และเมื่อมันเป็นนิสัยแล้ว 2 นาทีมันจะไม่พอด้วยตัวมันเอง
4. ความสำเร็จเล็กๆ จะหล่อเลี้ยงหัวใจให้เราเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ --- เมื่อเราสร้างนิสัยขึ้นมาได้แล้ว แน่นอนการทำงานก็ต้องมีการวัดผล สิ่งที่หนังสือแนะนำคือ การทำ Habit Tracker หรือคอยติดตามนิสัยเหล่านั้นให้สามารถวัดผลได้และเป็นรูปธรรม นอกจากจะคอยตรวจสอบตัวเราเองแล้ว ความสำเร็จในแต่ละวันยังเป็นกำลังใจให้เราเดินหน้าต่อไปด้วย ถามว่าทำยังไงหว่า สมัยก่อนอาจจะเป็นการจดลงกระดาษหรือปฏิทิน พอไปออกกำลังกายกลับมา ก็มากากบาทว่าเราทำสำเร็จแล้ว
แต่ในโลกยุคนี้กากบาทด้วยปากกาคงไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ app habit tracker มีให้โหลดเยอะแยะเต็มไปหมด สวยงาม ใช้งานง่าย แถมฟรีด้วย ดังนั้นเทคโนโลยีก็เป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยให้เราสร้างนิสัยที่ดีได้เช่นกัน
5. ทำมาตั้งนาน เริ่มเบื่อแล้วอ่ะ --- เวลาเราทำอะไรซ้ำๆนานๆ ความเบื่อหน่ายย่อมตามมา ลองนึกถึงนักกีฬาที่ต้องฝึกซ้อมซ้ำๆเดิมๆทุกวัน เพื่อทำให้ Performance ดีขึ้นแค่ 1 วินาที มันคงน่าเบื่อไม่น้อย แต่นั่นแหละคือจุดตัดสินระหว่าง มืออาชีพ หรือ คนทั่วไป ดังนั้นหาทางรับมือกับความเบื่อหน่ายให้ได้ เช่น การออกกำลังกายที่หลากหลายขึ้น, ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศ สถานที่ทำงาน ฯลฯ เพราะความเบื่อหน่ายคือศัตรูของการพัฒนาตัวเองอย่างแท้จริง
สิ่งที่เรานำมาใช้จริง
1. เมื่อก่อนเราเป็นคนชอบเล่นเกมมาก พออยากลดหรือเลิกการเล่นเกมเพื่อจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น เลยขาย PS5 ทิ้งไปเลยจะได้ไม่ต้องเล่นอีก 5555
2. ตั้งเป้าไว้ว่า จะอ่านหนังสือให้ได้อย่างน้อยปัละ 24 เล่ม = เดือนละ 2 เล่ม เลยพยายามจัดห้องที่เต็มไปด้วย Figure Model ให้กลายเป็นห้องอ่านหนังสือ เป็นคนชอบกลิ่นหนังสือมาก เลยซื้อหนังสือที่จะอ่านมาไว้ในห้อง โดยเอาน้องๆ Figure มาเป็นของประดับ
3. เนื่องจากเราต้อง WFH แล้วไม่อยากให้มือถือมารบกวนตอนทำงาน เลยจะเอามือถือไปซ่อนไว้อีกห้อง ให้ได้ยินแค่เฉพาะตอนคนโทรมา
4. ลบแอป Social Media ออกจาก Home Page แต่ตอนนี้มือมันยังเลื่อนไปหาเองอี๊ก ยังต้องปรับอีกเยอะ
5. วันไหนที่เจอสิ่งที่อยากได้มาก แต่ตัดใจไม่ซื้อได้จะโอนเงินเท่ากับมูลค่าของกลับเข้าไปในบัญชีออมทรัพย์ เช่น ของ 1000 บาท ถ้าตัดใจได้ก็โอน 1000 เข้าบัญชี แต่ถ้าตัดใจไม่ได้...😂
6. โหลดแอปชื่อ Habit Tracker มาใช้โดยตั้งไว้ให้ออกกำลังสัปดาห์ละ 300 นาทีกับอ่านหนังสือวันละ 30 นาที ยังสนุกกับการใช้แอปอยู่ ไว้จะคอยมาอัพเดทกันเรื่อยๆครับ
“Habits are the compound interest of self-improvement.” — James Clear
โฆษณา