เมื่อ AI อย่าง ChatGPT ไปสู่ขั้นเข้าใจภาษามนุษย์และโต้ตอบกลับมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดความกังวลว่า ความสามารถนี้อาจเข้ามาดิสรัปต์อาชีพที่ใช้ความรู้เฉพาะทางอย่าง “โปรแกรมเมอร์” หรือไม่
“โปรแกรมเมอร์” อาชีพในฝันของใครหลาย ๆ คน ที่ได้เงินเดือนสูงไปถึงหลักแสน กำลังเผชิญความท้าทายใหญ่ เมื่อเจนเซน หวง (Jensen Huang) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท Nvidia ซึ่งผลิตการ์ดจอสำหรับธุรกิจ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ กล่าวในงาน Computex Forum ในกรุงไทเปของไต้หวันเมื่อปลายเดือน พ.ค. 2566 ว่า ในอนาคต AI จะทำให้ “ทุกคนสามารถเป็นโปรแกรมเมอร์ได้” สะท้อนว่า AI อาจทำให้อาชีพที่ต้องใช้ “ความรู้เฉพาะทาง” อย่างโปรแกรมเมอร์ เป็นอาชีพที่เรียนรู้ตามได้ง่ายขึ้น
เจนเซน หวง ซีอีโอบริษัท Nvidia (เครดิต: AFP)
ขณะที่สำนักข่าว Business Insider ได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI หลายท่าน และจัดอันดับอาชีพที่อาจถูกดิสรัปต์จาก AI มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “โปรแกรมเมอร์”
นอกจากนี้ สำนักข่าว CNBC ยังรายงานว่า จากแหล่งข้อมูลภายในบริษัท Google ที่ทดลอง AI ระหว่าง LaMDA ของ Google กับ ChatGPT ของ OpenAI แม้จะไม่มีรายงานว่า LaMDA เป็นอย่างไร แต่ได้รายงานว่า ChatGPT “สอบผ่าน” ตำแหน่งวิศวกรโปรแกรมระดับเริ่มต้น ทำให้เกิดข้อกังวลว่า AI อาจจะเข้ามาแทนที่โปรแกรมเมอร์ในอนาคต
📌 ผู้เชี่ยวชาญเสียงแตกปม “AI แทนที่โปรแกรมเมอร์”
คำถามที่ว่า AI จะเข้ามาแทนที่โปรแกรมเมอร์ได้หรือไม่ มีความเห็นจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญออกเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งแรก มองว่า AI อาจเข้ามาแทนที่โปรแกรมเมอร์ได้ โดยอนุ แมดแกฟคาร์ (Anu Madgavkar) แห่งสถาบัน McKinsey Global Institute ด้านการวิจัยเศรษฐกิจ มีความเห็นว่า เหล่าโปรแกรมเมอร์มีโอกาสได้รับผลกระทบจาก AI ที่อาจเข้ามาแทนที่งานได้ เพราะว่า AI เก่งด้านการประมวลข้อมูลจำนวนมาก
มาร์ค มูโร (Mark Muro) แห่งสถาบัน Brookings ซึ่งทำการวิจัยผลกระทบ AI ต่อแรงงานอเมริกัน มองว่า AI อย่าง ChatGPT สามารถเขียนโค้ดเร็วกว่ามนุษย์ จึงหมายความว่าต่อไป งานเขียนโค้ดก็สามารถจ้างพนักงานน้อยลงได้ เพราะมี AI เข้ามาช่วย
กลับมาในยุคปัจจุบันหรือยุคแห่ง AI การที่ ChatGPT สามารถเข้าใจภาษามนุษย์ จากเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) ไม่ว่าจากการที่เราถาม ChatGPT ถึงความหมายของเนื้อหา ช่วยยกตัวอย่างคำที่มีความหมายใกล้เคียง ทาง ChatGPT ก็ตอบโจทย์ได้อย่างน่าทึ่ง และสื่อสารออกมาอย่างสละสลวย
ด้วยเหตุนี้ การที่ AI ไปถึงจุดที่เข้าใจภาษามนุษย์และโต้ตอบได้แล้ว จึงทำให้ในปัจจุบัน เราสามารถพิมพ์คำสั่งเป็นภาษามนุษย์อย่างง่าย เช่น “ช่วยสร้างพายุหิมะท่ามกลางพื้นหลังสีดำ” พิมพ์ลงใน AI ที่ชื่อ Codex และต่อจากนั้น AI นี้จะช่วยแปลงเป็นคำสั่งโค้ดอันยืดยาวโดยอัตโนมัติ แสดงเป็นภาพพายุหิมะท่ามกลางพื้นหลังสีดำให้เห็น
ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้ มนุษย์อาจไม่จำเป็นต้องเขียนภาษาโค้ดที่ซับซ้อน แต่เขียนเป็นภาษามนุษย์แทน ซึ่ง AI สามารถเข้าใจและแปลงเป็นโค้ดต่อ เพื่อสั่งการเครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์ต่อได้
เมื่อสั่งให้ AI ช่วยเขียนโค้ดสร้างอุกกาบาตเคลื่อนไหว (เครดิต: OpenAI Codex)
แม้ว่าในปัจจุบัน AI จะยังไม่สามารถเขียนโค้ดที่ซับซ้อนได้เท่าโปรแกรมเมอร์ แต่ด้วยฐานข้อมูล AI อันมหาศาลและความสามารถที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ อนาคตจึงเป็นสิ่งที่น่าจับตา
เปรียบได้กับปัจจุบัน สมัยก่อนการสร้างเว็บไซต์ทำได้ยาก และต้องใช้ความสามารถเฉพาะทาง แต่ในปัจจุบันมีโปรแกรมสำเร็จรูปมากมาย รวมถึงมี AI ที่สามารถสร้างเว็บไซต์พื้นฐานได้แล้วในเวลาอันรวดเร็ว
สำหรับปัจจุบัน AI สำหรับเป็นผู้ช่วยในการเขียนโค้ดที่โดดเด่น จะมี AlphaCode ของบริษัท DeepMind ในเครือบริษัท Google และ Codex ของบริษัท OpenAI
📌 เหล่าโปรแกรมเมอร์ควรเตรียมรับมือ AI อย่างไร
จากการจัดอันดับอาชีพดาวรุ่งแห่งอนาคตของสำนักข่าว The Economic Times ปี 2566 ระบุว่า ในยุคที่มีการใช้ AI อย่างแพร่หลาย อาชีพที่รุ่งเรืองอาจเป็น “นักฝึก AI” เนื่องจาก AI ต้องใช้ข้อมูลอันมหาศาล และความถูกต้องในการเรียนรู้ จึงจำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ด้านโปรแกรมขั้นสูงในการฝึกฝน AI ด้วย
ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายของโปรแกรมเมอร์ที่ต้องยกระดับฝีมือตัวเองให้สูงขึ้น เพราะ AI ในปัจจุบันสามารถเขียนโค้ดขั้นพื้นฐานได้แล้ว
นอกจากนี้ AI ยังมีระบบการทำงานที่เรียกว่ากล่องดำ (Black Box) ที่แม้แต่บางครั้ง ผู้สร้าง AI ก็ไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่า ทำไม AI ถึงให้คำตอบเช่นนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งเป็นเพราะความซับซ้อนของโครงข่ายข้อมูลมหาศาล ดังนั้น อาชีพที่ต้องทำความเข้าใจระบบความคิดของ AI จึงสำคัญมากในอนาคต
โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ปัจจุบัน ข้อมูลใหม่อันมหาศาลเกิดขึ้นทุกวินาที AI จึงกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการช่วยตัดสินใจ กำหนดหลักเกณฑ์ อัลกอริทึมต่าง ๆ แทนมนุษย์
โดยสรุป AI ในปัจจุบันช่วยมนุษย์เขียนโค้ดขั้นพื้นฐานได้แล้ว สำหรับโค้ดที่ซับซ้อนยังคงอาศัยโปรแกรมเมอร์ แต่ด้วยความที่ AI สามารถเรียนรู้ข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิด และอาจทำให้เหล่าโปรแกรมเมอร์ต้องเตรียมรับมือด้วยการยกระดับฝีมือตัวเอง พร้อมพัฒนาทักษะไปทางการควบคุม ฝึกสอน และทำความเข้าใจ AI มากขึ้น