Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฮวงจุ้ยเพื่อชีวิต
•
ติดตาม
24 มิ.ย. 2023 เวลา 18:11 • ไลฟ์สไตล์
อาภรณ์เบญจธาตุ
การออกแบบเสื้อผ้า ในศาสตร์ตรีสัมพันธ์ เบื้องต้นจะใช้หลักการของ เบญจธาตสัมพันธ์ คือ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ และ ธาตุไฟ โดยอิงอาศัยวงจรบทบาททั้งสามของเบญจธาตุ กล่าวคือ 1.วงจรการก่อเกิด ประกอบด้วย ดินเกิดทอง ทองเกิดน้ำ น้ำเกิดไม้ ไม้เกิดไฟ และ ไฟเกิดดิน 2.วงจรการตัดทอน ประกอบด้วย ดินทอนไฟ ไฟทอนไม้ ไม้ทอนน้ำ น้ำทอนทอง และ ทองทอนดิน
3.วงจรการทำลาย ประกอบด้วย ดินพิฆาตน้ำ น้ำพิฆาตไฟ ไฟพิฆาตทอง ทองพิฆาตไม้ และ ไม้พิฆาตดิน โดยหลักการออกแบบเสื้อผ้า จะเน้นใช้วงจรการก่อเกิด และหลีกเลี่ยงวงจรการตัดทอน และ วงจรการทำลาย
รูปที่ 1 แสดงโทนสีที่ใช้ได้ในแต่ละธาตุ
ก่อนจะไปกันต่อ เนื่องจากเป็นการออกแบบเสื้อผ้าอาภรณ์ จึงต้องมาคุยกันถึงสีสัน ที่เกี่ยวข้องกับเบญจธาตุ โดยในรูปที่ 1 ได้แสดงช่วงของโทนสีที่สามารถ นำไปประยุกต์ใช้ได้ ในแต่ละธาตุ โดยสีที่จะใช้ได้ ให้อิงตามวงจรการก่อเกิด ที่บรรยายไว้ข้างต้น อาทิเช่น ต้องการใช้ธาตุน้ำ ก็เลือกสีในกลุ่มของธาตุน้ำ (Water) จากรูปข้างต้น ซึ่งเป็นโทนของสีน้ำเงิน ฟ้า คราม และดำ แต่ไม่รวมสีเทา เพราะจะเป็นโทนสีของธาตุทอง หรือ โลหะ (Metal)
ในขณะเดียวกัน หากต้องการเพิ่มสีสันเข้าไปในเสื้อผ้าที่จะออกแบบ ในกรณีธาตุน้ำ ก็สามารถใช้สีของธาตุทอง คือ โทนสีขาว สีเทา สีเงิน หรือ สีทอง ห้ามใช้โทนสีเขียวของธาตุไม้ (Wood) เป็นอันขาด เพราะจะทอนกำลังของธาตุน้ำ ส่วนเหตุผลที่ว่า เมื่อใดควรจะสีของธาตุอะไร คงต้องเก็บไว้พูดถึงกันต่อไป เพื่อป้องกันความสับสนของเนื้อหา จึงขอข้ามไปก่อน
รูปที่ 2 แสดงรูปทรงและวงจรบทบาทของเบญจธาตุ
หลักเกณฑ์ถัดไป ก็คือเรื่องของรูปทรง ที่เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของแต่ละธาตุ ดูได้จากรูปที่ 2 ซึ่งได้แสดงถึง รูปทรงของแต่ละธาตุ พร้อมทั้งวงจรบทบาททั้งสาม คือ วงจรก่อเกิด (Productive) วงจรตัดทอน (Weakening) และ วงจรทำลาย (Destroying) ดังได้บรรยายไปข้างต้น รูปทรงของเบญจธาตุ ประกอบด้วย ธาตุดิน จะแทนได้ด้วยรูปทรง สี่เหลี่ยมจตุรัส หรือ รูปลูกบาสก์จตุรัส ธาตุทอง แทนได้ด้วยรูปทรง วงกลม หรือ ทรงกลม รวมทั้งส่วนโค้งเดี่ยวต่างๆ
ธาตุน้ำ แทนได้ด้วยรูปทรง หยดน้ำ ริ้วคลื่น ที่ประกอบด้วย เส้นโค้งมากกว่าหนึ่งมาต่อติดกัน ธาตุไม้ แทนได้ด้วยรูปทรง สี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ ลูกบาสก์ผืนผ้า และท้ายสุด ธาตุไฟ แทนได้ด้วย รูป สามเหลี่ยม ปิรามิด หรือ รูปทรงที่มีปลายแหลม
รูปที่ 3 แสดงลวดลายตัวแทนของเบญจธาตุ
นอกจากรูปทรงแล้ว ยังมีลวดลายที่ใช้แทนสัญลักษณ์ของเบญจธาตุได้เช่นกัน โดยจะอิงอาศัยรูปแบบลวดลายของแต่ละธาตุที่ปรากฏอยู่ในธรรมชาติ ดังแสดงในรูปที่ 3 ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งลวดลายแบบประดิษฐ์ หรือ แบบเสมือนจริง จะเป็นภาพวาด หรือ ภาพถ่าย ก็ได้ทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องระวังอย่าให้เกิดการขัดแย้งธาตุ ในวงจรทำลาย ดังรูปที่ 3 ข้างต้น ภาพขวาล่างสุด เป็น ธาตุดินกับธาตุไม้
ลวดลายลักษณะนี้ ถือว่า เป็นสิ่งต้องห้าม ในหลักการออกแบบเชิงเบญจธาตุ เพราะเป็นวงจรการทำลาย คือ ไม้พิฆาตดิน หากต้องการลวดลายดังกล่าวนี้ ก็ต้องให้มีธาตุเชื่อมประสาน ซึ่งในกรณีนี้คือ ธาตุไฟ เพื่อสร้างวงจรการก่อเกิดขึ้นใหม่ คือ ไม้เกิดไฟ และ ไฟเกิดดิน โดยใส่ ดวงอาทิตย์สีแดงเข้าไป ก็จะยุติความขัดแย้งธาตุได้
รูปที่ 4 แสดงการใช้สีธาตุส่งเสริมบนล่าง
นอกจากนี้ หลักการเบญจธาตุดังกล่าว ยังสามารถประยุกต์ใช้ ในการเลือกเสื้อผ้าอาภรณ์มาแต่งตัวได้ด้วย เช่น ใส่กางเกงหรือกระโปรงดำ เสื้อขาว ก็จะได้วงจรก่อเกิดของ ทองเกิดน้ำ แต่วงจรลักษณะนี้ จะเป็นแบบส่งเสริมขาลง เพราะธาตุตัวบน คือ เสื้อ ต้องไปก่อเกิด ธาตุตัวล่าง คือ กางเกงหรือกระโปรง ทำให้พลังปราณไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
ในกรณีที่ต้องไปประกวดแข่งขัน จะทำให้หมดสง่าราศี ที่จะประชันขันแข่งกับผู้อื่น เพื่อที่จะเปลี่ยนเป็นแบบส่งเสริมขาขึ้น ก็อาจใช้ กางเกงหรือกระโปรงสีขาว ของธาตุทอง และเสื้อสีฟ้าอ่อน จะได้วงจรก่อเกิด ที่ธาตุตัวล่าง ส่งเสริมธาตุตัวบน ซึ่งจะทำให้พลังปราณตัวบนโดดเด่นและเรืองพลัง ดึงดูดสายตาและความสนใจของผู้อื่น ดังแสดงในรูปที่ 4
ราวนี้เราจะมาพูดถึง หลักการเลือกธาตุที่เหมาะกับแต่ละบุคคล เพื่อที่จะใช้เป็นธาตุหลัก ในการกำหนดสีเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ เกณฑ์การพิจารณาทั่วไป จะใช้การวิเคราะห์ผ่านดวงจีน โดยเฉพาะวิชา แปดราศีสี่อักษร หรือ โป้ยยี่ซี้เถียว (八字四柱) ในการพิจารณาหา ธาตุสำคัญ หรือ ย่งสิง (用行) (ที่ในภาษาแต้จิ๋ว เรียกกันว่า เอ่งซิ้ง) ของดวงชะตา
ซึ่งธาตุสำคัญดังกล่าว จะเป็นธาตุที่ช่วยปรับดุลยภาพของดวงชะตา ให้เข้าสู่ภาวะสมดุลย์ ซึ่งเป็นจุดที่จะทำให้คนผู้นั้น บรรเจิดศักยภาพสูงสุดของตนออกมาได้ ธาตุสำคัญนี้เอง ที่สามารถนำมาใช้เป็นธาตุหลัก ในการกำหนดสีหลักของเสื้อผ้า ที่บุคคลผู้นั้นจะใช้สวมใส่ได้ ในบางกรณีถ้าพบว่า ดวงชะตานั้น สามารถมีทั้ง ธาตุสำคัญ และ ธาตุให้คุณ ก็สามารถเลือกใช้สีธาตุได้สองสี โดยยังคงให้ สีของธาตุสำคัญ เป็นสีหลัก และ สีของธาตุให้คุณ เป็นสีรอง
โดยปกติแล้ว ทั้งธาตุสำคัญ และ ธาตุให้คุณ มักจะสอดคล้องกับวงจรธาตุก่อเกิดอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยมีปัญหา เพียงแต่ต้องจัดระดับบนล่างให้ดี คือต้องให้ธาตุสำคัญอยู่บน หรือ เป็นเสื้อ และ ธาตุให้คุณอยู่ล่าง หรือ เป็นกางเกง หรือกระโปรง ในกรณีที่เป็นชุดเดียวกัน ก็ต้องเลือกชุดที่มีสองสี และยังคงให้ธาตุสำคัญอยู่บน และธาตุให้คุณอยู่ล่างเช่นกัน
เพื่อให้ธาตุหลักและธาตุรองทั้งสอง มีกำลังสูงสุด จึงควรเป็นเพียงสีพื้น ที่ไม่มีลวดลาย หรือ รูปทรงใดๆ เข้าไปข้องเกี่ยว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าธาตุสำคัญเป็นธาตุทอง ใช้เสื้อสีขาว ก็ไม่ควรเป็นคอวี เพราะจะกลายเป็นธาตุไฟ ที่พิฆาตทอง เป็นคอเหลี่ยมจตุรัสได้ แม้แต่รูปทรงของกระเป๋า ก็ควรเป็นสีเหลี่ยมจตุรัส หรือ วงกลม แต่ไม่ควรเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าของธาตุไม้ เพราะจะสร้างวงจรการทำลาย คือ ทองพิฆาตไม้ เป็นการทอนกำลังของธาตุทอง ที่เป็นธาตุสำคัญอีกทอดหนึ่ง
กรณีต้องการเล่นโทนสีในธาตุเดียวกัน ก็สามารถกระทำได้ แต่ควรให้สีพื้นหลัก หรือสีที่มากที่สุด เป็นสีอ่อน เพื่อเป็นการเสริมพลังหยาง โดยสามารถใช้สีเข้มไปไว้ตามขอบ เช่น ชายแขนเสื้อ แถบติดกระดุม หรือชายเสื้อด้านล่างได้ โดยอาศัยหลัก “เยาว์วัยกระตุ้น ชราควบคุม” หรือ “หยางกระตุ้น หยินควบคุม” เพราะสีอ่อนจะเป็นพลังหยาง ขณะที่สีเข้มเป็นพลังหยิน จึงไม่ควรใช้มาก แค่มีไว้แค่ตามขอบของเสื้อผ้าเท่านั้น
นอกจากนี้ การเลือกเครื่องประดับมาตกแต่งเสื้อผ้า ก็ต้องระวังอย่าให้เกิดการขัดแย้งของพลังปราณธาตุได้ เช่น การติดกระดุม โดยกระดุมที่เป็นพลาสติก จะถือเป็นธาตุดิน สามารถใช้ได้ กับเสื้อโทนสีธาตุทอง หรือ ธาตุดินได้ แต่ก็ต้องระวังสีของกระดุมด้วย อย่าให้เกิดการขัดแย้งธาตุ ส่วนกระดุมโลหะ จะใช้กับเสื้อโทนสีธาตุน้ำ หรือ สีธาตุทองได้ การละเมิดวงจรธาตุพิฆาต หรือ ตัดทอน ล้วนมีผลให้เกิดความขัดแย้งทั้งสิ้น
ซึ่งจะทำให้พลังปราณที่เข้ามารายล้อมรอบอาภรณ์ที่สวมใส่ เกิดความสับสนอลหม่าน ซึ่งย่อมส่งผลต่อคนที่มาใกล้ชิดได้ โดยเฉพาะคนที่มีญาณสัมผัสพิเศษ หรือ ที่เรียกกันว่า สัมผัสที่หก (Sixth Sense) ก็จะรับรู้ได้ทันที และจะรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ ผลกระทบนี้จะมีต่อผู้สวมใส่โดยตรงเช่นกัน ไม่ว่าจะรับรู้ได้หรือไม่ก็ตาม ยิ่งใส่นาน ก็จะยิ่งปรากฏผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะความขัดแย้งธาตุ เป็นการขัดแย้งในระดับของพลังปราณ ซึ่งย่อมกระทบต่อปราณคนของผู้นั้น อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
หากเป็นเสื้อหรือช่วงบนลำตัว ผลกระทบก็จะเกิดกับอวัยวะช่วงบนทั้งหมด ทั้งทรวงอก ช่องท้อง และแขนทั้งสอง ยิ่งเนิ่นนาน อาการอึดอัดไม่สบาย หรือปวดเมื่อย ก็จะยิ่งปรากฏให้เห็นชัด ในกรณีที่การขัดแย้งธาตุรุนแรง อาจทำให้ผู้สวมใส่ เกิดอาการวิงเวียน หมดสิ้นเรี่ยวแรง จนอาจถึงขั้นหมดสติได้ในที่สุด
อาการดังกล่าวเหล่านี้ ส่งผลรวมไปถึงพวกเครื่องประดับ ที่สวมใส่กับตัวโดยตรง มิได้ติดกับเสื้อผ้าอาภรณ์ อาทิเช่น สร้อยคอ กำไล หรือ สร้อยข้อมือ แหวน หรือ นาฬิกาข้อมือ ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อธาตุสำคัญของบุคคลผู้นั้นได้ทั้งสิ้น สำหรับผู้ที่พิถีพิถัน หรือให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง การปรับพลังปราณ ก็จะต้องเลือกเฟ้นทุกสิ่งที่จะนำมาสวมใส่ ให้รอบครอบถี่ถ้วน
ในสมัยจีนโบราณ ที่เป็นแหล่งกำเนิดหลักการเบญจธาตุนี้ การแต่งกายของฮ่องเต้ เชื้อพระวงศ์ และ ขุนนาง ล้วนแล้วแต่ต้องให้ความพิถีพิถันกับเรื่องอาภรณ์ของประดับทั้งหลาย มีการเลือกเฟ้น ทั้งลวดลายและสีสัน รวมทั้งเครื่องประดับตกแต่งทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่า ในยุคปัจจุบัน คงมิอาจทำได้ในรายละเอียดถึงเพียงนั้น แต่ก็ควรให้ความเอาใจใส่เกี่ยวกับวงจรบทบาทของเบญจธาตุ
เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง อันอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย และจิตใจของผู้สวมใส่ และผู้พบเห็นได้ แม้จะไม่อาจส่งเสริมให้รุ่งเรือง แต่อย่างน้อยควรจะอยู่ในระดับราบรื่น ไม่เกิดผลกระทบด้านร้าย ตามหลักการที่ว่า “ดีไม่ได้ อย่าเสีย”
หลายท่านอาจจะมีคำถามในใจว่า ของประดับส่วนใหญ่ ล้วนเป็นธาตุทอง หรือ โลหะ เช่น เป็น เงิน สแตนเลส หรือแม้แต่ทองคำ เรื่องนี้ก็ต้องขอบอกว่า ต้องพิจารณาธาตุสำคัญเป็นหลักอยู่ดี การละเมิดธาตุสำคัญ มีแต่ผลกระทบด้านร้ายสถานเดียว ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้จาก เคมีชีวภาพของแต่ละบุคคล
บางคนนั้นไม่เหมาะจะใส่พวกสร้อยโลหะ ไม่ว่าจะเป็นโลหะอะไร โดยอาจเกิดอาการผื่นคัน ในกรณีนี้ แสดงว่า ธาตุหลักของร่างกายคนผู้นั้น เข้าสู่วงจรถูกธาตุทองพิฆาต ในทางตรงกันข้าม หากมีผลให้โลหะดังกล่าว ถูกกัดกร่อน อาจจะเกิดจากฤทธิ์ของเหงื่อ ก็จะเข้าสู่วงจรพิฆาตธาตุทองดังกล่าว ดังนั้น เรื่องของการเลือกของประดับ จึงต้องพิจารณาเคมีชีวภาพ ซึ่งล้วนมีพื้นฐานมาจากธาตุหลัก หรือ ธาตุสำคัญของคนผู้นั้น
หากท่านมีธาตุสำคัญเป็นธาตุน้ำ ของประดับที่จะเลือกใช้ได้ ก็คือ ไข่มุก หรือ พวกหินสี (color stone) หรือที่เรียกกันว่า หินรัตนชาติ (Gem stone) โดยเลือกสีที่เป็นโทนของธาตุน้ำ เช่น เทอร์ควอยซ์ หรือ อความารีน เรื่องของหินรัตนชาติ จะต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันสักเล็กน้อย ตัวหินเองเป็นธาตุดิน แต่ถ้ามีความใส จะกลายเป็นธาตุน้ำทันที
ดังนั้นหินสีธาตุน้ำที่ควรนำมาใช้ จึงต้องเลือกที่มีความใสด้วย ไม่ใช่เลือกเฉพาะสีเท่านั้น และการใช้หินสี ก็สามารถใช้ได้กับโลหะ เพราะเป็นวงจรก่อเกิด คือ ทองเกิดน้ำ เสริมให้พลังปราณของหินสีธาตุน้ำ มีกำลังแรงมากขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นคนที่มีธาตุสำคัญเป็นทอง ก็ไม่ควรเลือกหินสีธาตุน้ำที่มีความใส แต่ควรเลือกที่เป็นสีทึบ และเน้นไปที่โทนสีของธาตุดินแทน
กลับมาที่เสื้อผ้าอาภรณ์กันต่อ กรณีที่ต้องใช้เข็มขัด ก็ต้องเลือกให้ดี ถ้าเป็นเข็มขัดที่ทำจากใยสังเคราะห์ทั้งหลาย ก็จะถือเป็นธาตุดิน แต่ถ้าเป็นเข็มขัดหนัง จะต้องดูว่า เป็นหนังของสัตว์อะไร ถ้าเป็นหนังวัว ก็ยังถือเป็นธาตุดินอยู่ แต่ถ้าเป็นหนังจระเข้ จะกลายเป็นธาตุน้ำไปในทันที ถ้าเป็นหนังงูจะเป็นธาตุดินไฟ เพราะนักษัตงูสถิตอยู่ราศีจี๋ (巳) ที่เป็นธาตุไฟ
ในกรณีนี้ ถ้าเป็นคนมีธาตุสำคัญเป็นทองก็ไม่ควรใช้เข็มขัดหนังงู เพราะเป็นวงจรการทำลายของเบญจธาตุ คือ ไฟพิฆาตทอง จึงย่อมไม่เป็นผลดีต่อธาตุทอง ที่เป็นธาตุสำคัญ ให้เลี่ยงไปใช้หนังวัวแทน ไม่ควรใช้แม้แต่หนังจระเข้ เพราะจะเข้าสู่วงจรทอนธาตุ คือ ทองเกิดน้ำ ทำให้ธาตุสำคัญอ่อนกำลังลงได้ หลักการเดียวกันนี้ สามารถประยุกต์ใช้ได้กับ สายนาฬิกาข้อมือ หรือแม้แต่รองเท้า รวมไปทั้งเสื้อแจ้กเก็ตหนัง ที่จะใช้สวมใส่ด้วย แม้แต่กระเป๋าถือ หรือ กระเป๋าสะพาย
ถ้าเป็นหนังก็ต้องนำหลักการดังกล่าวนี้ มาร่วมพิจารณาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับสีสันและรูปทรงของกระเป๋าด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งธาตุโดยไม่จำเป็น การให้ความพิถีพิถันกับการเลือก เสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องประดับ และ ของใช้ที่ต้องติดตัวไป ล้วนอำนวยคุณประโยชน์ให้แก่ผู้สวมใส่และใช้งานทั้งสิ้น
กล่าวโดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเสื้อผ้า เครื่องประดับ และข้าวของเครื่องใช้ แบบพกติดตัว ล้วนแต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบบทบาท ที่อาจเกิดจากวงจรเบญจธาตุทั้งสาม เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งของพลังปราณธาตุ และเสริมส่งธาตุสำคัญ ในการสร้างดุลยภาพและศักยภาพให้แก่บุคคลผู้นั้น เนื่องจากพลังปราณ ที่มีห้าสภาวะ และถูกอุปมาด้วยธาตุที่มนุษย์พบเห็น และสัมผัสได้ คือ ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ ล้วนเป็นพลังมูลฐานของธรรมชาติ ที่มีกระจัดกระจายไปทั่วโลก
จนอาจกล่าวได้ว่า ทุกชีวิตในดาวโลกนี้ ล้วนดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางทะเลปราณ หรือ สนามปราณ ดังนั้นทุกหนแห่งที่เราดำรงอยู่ ล้วนเอิบอาบไปด้วยพลังปราณเหล่านี้ ดังนั้นการที่สามารถเหนี่ยวนำให้พลังปราณธาตุ ที่เป็นคุณประโยชน์ต่อตัวเรา ให้เข้ามารายล้อมรอบตัว ล้วนเป็นสิ่งที่ดี
เพราะนอกจากจะช่วยให้เราเกิดความรู้สึกกระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวา พร้อมจะปฏิบัติภารกิจทุกประการแล้ว ก็ยังสามารถช่วยลดความขัดแย้ง และความปั่นป่วนโกลาหน ของปฏิสัมพันธ์ปราณ ในทุกที่ที่เราไปถึง ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะรู้เรื่องหลักการของ เบญจธาตุสัมพันธ์ หรือไม่ ท่านก็ยังหนีไม่พ้นผลกระทบ จากปฏิสัมพันธ์ธาตุทั้งหลายนั้นอยู่ดี
(มิติทางผลิตภัณฑ์ ep.1 อาภรณ์เบญจธาตุ)
บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
มิติทางผลิตภัณฑ์
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย