26 มิ.ย. 2023 เวลา 05:39 • ครอบครัว & เด็ก
Bangkok Meditation

"การบูลลี่ (Bullying) มันเหมือนระเบิดเวลาจริงๆนะครับ"

การบูลลี่ (Bullying) คือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงและไม่เป็นธรรมชาติที่ผู้คนใช้ในการก่อกวนหรือทำร้ายบุคคลอื่น โดยทั่วไปเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และมีการใช้ความเข้าใจผิดในการตีความความรู้สึกของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งบูลลี่สามารถเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ เช่น
1. การแสดงอาการก่อกวนทางกาย: เช่น การท่านตีหรือทำร้ายทางร่างกาย การจับผม การแทงด้วยวัตถุที่ทำร้าย หรือการใช้ความรุนแรงในการเล่นเกมกีฬาหรือกิจกรรมต่างๆ
2. การแสดงอาการก่อกวนทางความคิด: เช่น การหลอกลวง การแฉความลับ การล้อเลียน การแซงกันในการพูดหรือแสดงออก การเล่นตลกหรือเกียจคุณค่าของผู้อื่น
3. การแสดงอาการก่อกวนทางอารมณ์: เช่น การทำให้เสียใจ การเหยียดหยาม การกล่าวหาให้ผิด เสียดสีหรือล่วงรูปแบบการแสดงอารมณ์ของผู้อื่น
การบูลลี่สามารถเกิดขึ้นทั้งในชีวิตประจำวัน หรือในสถานที่ต่างๆ เช่น ที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือในช่วงเวลาที่ใช้ในการออนไลน์ และส่งผลต่อผู้ถูกกล่าวหาได้ทั้งทางกายภาพและทางจิตใจ ซึ่งอาจมีผลกระทบที่รุนแรงต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ถูกกล่าวหาได้
การบูลลี่สามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะการก่อกวนหรือทำร้ายผู้อื่น ดังนี้:
1. การบูลลี่ทางกาย (Physical Bullying): เป็นการใช้ความรุนแรงทางกายในการก่อกวนหรือทำร้ายผู้อื่น เช่น การท่านตี, การแทงด้วยวัตถุที่ทำร้าย, การข่มขืนทางกายภาพ เป็นต้น.
2. การบูลลี่ทางอารมณ์ (Verbal Bullying): เป็นการใช้คำพูดหรือภาษาในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือความเสียหายทางอารมณ์ของผู้อื่น เช่น การหยาบคาย, การเยาะเย้ย, การล้อเลียน, การเล่าร้าย เป็นต้น.
3. การบูลลี่ทางสังคม (Social Bullying): เป็นการก่อกวนหรือละเมิดทางสังคม โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว, การเล่นเพื่อนร่วมกัน, การลักพาตัวออกจากกลุ่ม เป็นต้น.
4. การบูลลี่ทางอินเทอร์เน็ต (Cyber Bullying): เป็นการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพื่อก่อกวนหรือทำร้ายผู้อื่น โดยการโพสต์ข้อความหรือภาพที่สารเสริมการเลียนแบบ, การเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว, การแฉความลับ, การเขียนความคิดเห็นที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ร้ายแรง เป็นต้น.
5. การบูลลี่ทางเพศ (Sexual Bullying): เป็นการใช้ความเป็นเพศเป็นกลไกในการก่อกวนหรือทำร้ายผู้อื่น เช่น การลักพาตัวทางเพศ, การแสดงพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม, การแฉความลับทางเพศ เป็นต้น.
การบูลลี่อาจมีลักษณะผสมขึ้นกันได้ และมักเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่มีความเป็นอิสระน้อยและขาดการคุ้มครองต่อผู้ถูกกล่าวหา
การบูลลี่สามารถเกิดขึ้นได้ในสถานที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม มีบางสถานที่ที่มักจะมีการบูลลี่เกิดขึ้นบ่อยมาก ดังนี้:
1. โรงเรียน: การบูลลี่ในโรงเรียนเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาเด็กๆ และวัยรุ่น สถานการณ์เช่นนี้สามารถเกิดขึ้นในที่สอน ทางเดิน ห้องน้ำ หรือพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ถูกกล่าวหารู้สึกไม่ปลอดภัยในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
2. ที่ทำงาน: บูลลี่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน เช่น การกลั่นแกล้งผู้ลงทั้งหมด การแบ่งกลุ่มและการยึดอำนาจ การลดค่าลดเหลื่อน หรือการล่วงละเมิดสิทธิและอำนาจของผู้อื่น
3. ชุมชนหรือย่านที่อาศัย: บูลลี่อาจเกิดขึ้นในชุมชนหรือย่านที่อาศัย เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว, การลักพาตัวทางกายหรือคำพูด, การแสดงอาการกำลังใจที่ไม่เหมาะสมต่อผู้อื่น การกดดันหรือการละเมิดทางเพศ เป็นต้น
4. ออนไลน์: ในยุคที่เทคโนโลยีออนไลน์เป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน บูลลี่ออนไลน์หรือการบูลลี่ทางเทคโนโลยี (Cyber Bullying) สามารถเกิดขึ้นในโพลช็อกสังคมออนไลน์ เว็บไซต์สังคมออนไลน์ แชทหรือแพลตฟอร์มสื่อสังคม อีเมล และห้องสนทนาออนไลน์อื่นๆ โดยผู้บูลลี่สามารถใช้สื่อดิจิทัลและเทคโนโลยีในการก่อกวนหรือละเมิดผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม การบูลลี่อาจเกิดขึ้นทุกที่ที่มีกลุ่มคนรวมตัวกัน และขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
การแก้ไขและจัดการกับการถูกบูลลี่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อความรู้สึกปลอดภัยและสุขภาพทางกายและจิตใจของคุณ นี่คือขั้นตอนที่สามารถทำได้เพื่อแก้ไขสถานการณ์การถูกบูลลี่:
1. ป้องกันและลดโอกาสให้เกิดการบูลลี่: อย่างเดียวกันกับการป้องกันก่อนเกิดความเสียหาย การเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง และการฝึกทักษะสังคมที่จำเป็นสามารถช่วยลดโอกาสให้เกิดการบูลลี่ได้ เช่น การเรียนรู้ทักษะการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ การเตรียมตัวกับสถานการณ์ที่อาจเกิดการบูลลี่ได้ เป็นต้น
2. ระบุและรายงานการบูลลี่: หากคุณถูกบูลลี่ ระบุและรับรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้องและไม่ยอมรับ คุณสามารถรายงานปัญหาได้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ครู หัวหน้างาน หรือผู้ปกครอง และสามารถรายงานการบูลลี่ออนไลน์กับผู้ดูแลแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องได้ การรายงานจะช่วยให้มีการแก้ไขและป้องกันการบูลลี่เกิดขึ้น
3. ค้นหาความช่วยเหลือและสนับสนุน: หากคุณถูกบูลลี่ ไม่เพียงพอที่จะต้องเผชิญอยู่คนเดียว ค้นหาความช่วยเหลือและสนับสนุนจากบุคคล ที่เชื่อถือได้ เช่น ครอบครัว เพื่อน ครู หรือผู้ปกครอง บทความ หนังสือ หรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการจัดการกับการบูลลี่อาจช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้มากขึ้น
4. รักษาสุขภาพทางกายและจิตใจ: การถูกบูลลี่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพทางกายและจิตใจของคุณ ดังนั้นคุณควรดูแลตนเองอย่างเหมาะสม โดยการออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่ชอบ พักผ่อนให้เพียงพอ และค้นหาวิธีการจัดการกับความเครียดและความกังวล
5. ค้นหาชุมชนและทรัพยากรที่สนับสนุน: มีองค์กรและชุมชนที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการบูลลี่ ค้นหาแหล่งข้อมูลและทรัพยากรที่สามารถให้คำปรึกษาและการสนับสนุนให้คุณได้รับรู้ และสามารถแก้ไขสถานการณ์ในทางที่ดีกว่า
การแก้ไขการถูกบูลลี่อาจเป็นกระบวนการที่ใช้เวลา และอาจต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอน สำหรับสถานการณ์ที่รุนแรงและต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณควรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม
คุณควรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม คนรอบตัวเด็ก ครอบครัว ครู มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่สามารถสร้างกำลังใจ และอยู่เคียงข้างเด็กเมื่อถูกบูลลี่
การรับมือการบูลลี่อย่างมีสติ เงียบเฉย ตอบโต้ ชี้แจงให้ถูกจังหวะ ไม่คิดแค้น เครียด หรือวิตกกังวลเกินไป รวมถึงเลือกที่จะใช้ชีวิตในสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดี ปิดรับเรื่องราวทางโซเชียลบ้าง
โฆษณา