28 มิ.ย. 2023 เวลา 15:10 • ความคิดเห็น

The Happiest Man on Earth

เอ็ดดี้ จาคู (Eddie Jaku) ได้รับฉายาว่าเป็นชายผู้ที่มีความสุขที่สุดในโลกเมื่อตอนที่เขาขึ้นพูดบนเวที Ted Talk ในวัย 99 ปี ในฐานะผู้ที่รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซีเยอรมันและรอดจากค่ายกักกันเอาช์สวิทซ์ (Auschwitz) อันโหดร้ายทารุณมาได้ และใช้ชีวิตได้คุ้มค่าที่สุดจากโอกาสอันน้อยนิดที่ได้รอดมา
เอ็ดดี้เป็นชาวยิวที่เกิดในเยอรมัน ในเมืองไลป์ซิกอันสวยงาม เขาคิดและภูมิใจในความเป็นคนเยอรมันมาตลอด เอ็ดดี้ถูกส่งไปเรียนทางด้านวิศวกรรมจนมีความรู้ทางด้านช่างเป็นอย่างดีซึ่งภายหลังได้ช่วยเขาให้เอาตัวรอดอยู่หลายครั้ง ก่อนที่เขาจะกลับมาบ้านแล้วถูกจับ ซ้อมจนแทบปางตายและส่งเข้าค่ายกักกัน
1
เอ็ดดี้ระเหเร่ร่อน ถูกส่งไปหลายที่ หนีออกมาก็ถูกจับได้บ้าง ถูกซ้อม ถูกทารุณกรรม จนท้ายสุดก็ถูกส่งเข้าค่ายกักกันที่หฤโหดและทารุณที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ ก็คือค่ายกักกัน Auschwitz ถูกทรมาน ถูกใช้แรงงาน มีเพียงเศษขนมปังประทังชีวิต จนน้ำหนักลดเหลือแค่ 28 กิโลกรัม จวนอยู่จวนไป ถูกทำร้าย ป่วยหนัก อาศัยความหวังเพียงน้อยนิดและเพื่อนคนเดียวที่เหลือรอดเป็นกำลังใจให้กันและกัน
ท้ายสุดก็รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ แม้สุดท้ายก็รอดจากการเดินทางไกลที่นาซีบังคับให้เดินหนีเพื่อทำลายหลักฐานโดยปราศจากอาหารและน้ำ ระหว่างทางมีคนตายเป็นหมื่น เอ็ดดี้รอดมาได้ แต่ครอบครัวที่มีทั้งหมด พ่อ แม่ เพื่อนฝูง ไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว
หลังจากสงครามสงบ เอ็ดดี้พยายามใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากและทุกข์ระทมจากแผลในใจ จนมาเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนความคิดตอนมีลูกคนแรก หลังจากนั้นเขาก็ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาย้ายครอบครัวมาที่ออสเตรเลีย ลงหลักปักฐานมีครอบครัวใหญ่ จนเขารู้สึกตัวเองว่าเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกในชีวิตบั้นปลาย
บทเรียนที่เอ็ดดี้เล่าไว้ในหนังสือ The Happiest Man on Earth มีหลายประเด็น จากคนที่อยู่ต่ำสุดในขุมนรกเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะเจอได้จนมีความสุขที่สุดในโลก จากคนที่ร่างกายถูกทรมานจนไม่น่าจะมีชีวิตรอด แต่กลับอยู่ได้ถึง 101 ปี ปัญญา (Wisdom) ของเอ็ดดี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
1
เอ็ดดี้บอกว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกินที่มีค่ามากกว่าเงินทอง ความสุขของการที่ได้อยู่ร่วมกันของครอบครัวแม้แต่ในเวลาที่ยากลำบากที่สุดนั้น ต่อให้มีเงินทองก็หามาไม่ได้ เอ็ดดี้ถูกพรากจากครอบครัวและในที่สุดก็เสียพ่อแม่ไปจากการที่ถูกแยกแถวให้เขาไปซ้ายเพราะยังทำงานกรรมกรได้
ส่วนพ่อเขาไปขวาเพื่อถูกรมแก๊สที่ค่ายกักกันอย่างกะทันหัน ไม่มีแม้แต่โอกาสได้บอกลา เอ็ดดี้บอกว่ายอมเสียทุกอย่างเพื่อที่จะได้กอดพ่อกอดแม่อีกครั้ง และเตือนให้ทุกคนทำทันทีกับคนที่เรารักเมื่อมีโอกาส
1
เอ็ดดี้ได้เห็นคนปกติ เพื่อนฝูงที่เห็นกันมา ผู้คนที่รู้จักที่ทักทายกัน ยิ้มแย้มแจ่มใส พอถูกปั่นหัว ชักจูง ด้วยความอ่อนแอในใจนั้นสามารถถูกเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังได้โดยง่าย จากคนปกติก็กลายเป็นฝูงชนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างไร้เหตุผลถึงกับจะล้างเผ่าพันธุ์ ทำร้ายคนที่เคยรู้จักมาหลายปีเพราะความเชื่อผิดๆ ความเกลียดชังเป็นเหมือนโรคติดต่อที่ทำลายทั้งตัวเองและผู้อื่นได้อย่างน่ากลัว
1
พรุ่งนี้จะมาถึงเสมอ ถ้าเราเอาตัวรอดวันนี้ไปให้ได้ ใช้ชีวิตไปทีละวัน เอ็ดดี้เห็นคนที่ยอมแพ้ ฆ่าตัวตาย สิ้นหวังเพราะมองไม่เห็นว่าความทุกข์ทรมานจะจบเมื่อไหร่ สำหรับตัวเขาเองคือการใช้ชีวิตให้รอดไปทีละวันและมีความหวังแม้เพียงจะน้อยนิด จนทำให้เขาเอาตัวรอดมาได้
1
แม้แต่ในช่วงที่ต้องหนี ต้องดิ้นรน ทุกข์ทรมาน เอ็ดดี้ก็มักจะได้รับความช่วยเหลือเล็กๆน้อยจากคนที่ไม่รู้จัก ที่มีน้ำใจให้เสมอ ชาวบ้านที่แทบไม่มีอะไรกินก็ยังแบ่งปันอาหารให้ หมอที่แอบมาช่วยผ่าตัดเอาลูกกระสุนออก ฯลฯ เอ็ดดี้จึงมีความหวังกับผู้คนเสมอ เขาบอกว่าเราสามารถเจอ kindness ได้ในทุกที่แม้กระทั่งคนแปลกหน้าก็ตาม
3
เอ็ดดี้เหลือเพื่อนคนเดียวที่รอดชีวิตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือ ให้กำลังใจ เป็นคนเดียวในโลกที่รู้จักเอ็ดดี้ว่าเป็นใครมาจากไหน เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจตลอดช่วงเวลาในค่ายกักกัน เอ็ดดี้บอกว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการที่ถูกรักโดยคนอื่น และความรักความปรารถนาดี มิตรภาพที่มีคนคอยแชร์ทั้งสุขและทุกข์นั้นเป็นยาวิเศษที่ดีที่สุดในโลก
4
ความรู้ที่ได้จากการเล่าเรียนเป็นเครื่องช่วยชีวิตที่สุดยอด จากการที่พ่อบังคับเคี่ยวเข็ญเขา ผ่านกระบวนการยากลำบากต่างๆมากมายเพื่อให้เขาได้เรียนวิศวกรรม ทำให้เขารู้จักใช้เครื่องมือ เข้าใจเครื่องจักรต่างๆ ทำให้เขามีประโยชน์พอที่จะไม่ถูกสังหารทิ้ง พาเขาไปในโอกาสที่ทำให้เขารอดชีวิตมาหลายต่อหลายครั้ง เวลาเอ็ดดี้เจอสถานการณ์คับขันแล้วเอาตัวรอดจากวิชาความรู้ที่มี เขาจะนึกขอบคุณพ่อเขาทุกครั้ง
4
ร่างกายมนุษย์นั้นเป็นเครื่องจักรที่ดีที่สุดในโลก เอ็ดดี้ถูกทรมานทรกรรม อดข้าว อดน้ำ ใช้ชีวิตขาดสารอาหาร น้ำหนักลดเหลือ 28 กิโลกรรม ถูกทุบตี โดนทุบหัวจนสมองกระทบกระเทือนไม่รู้กี่ครั้ง ถูกยิงต้องผ่ากระสุนออก ถูกทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัส ร่างกายดูน่าจะพังพินาศยากจะฟื้นฟู แต่เอ็ดดี้ก็รอดและฟื้นตัวจนแข็งแรง
2
พร้อมพลังใจที่เข้มแข็ง ความสุขที่มี ทำให้ร่างที่บอบช้ำนั้นอยู่มาได้ร้อยปี เอ็ดดี้ถึงไม่ค่อยชอบใจนักเวลาเห็นเด็กรุ่นใหม่ไม่ดูแลตัวเอง ใช้สารเสพติดที่ทำร้ายร่างกายที่ควรจะดูแลให้ดีที่สุด เพราะเป็นเครื่องจักรที่ทำให้ให้เอ็ดดี้ซ่อมตัวเองจนรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
2
เอ็ดดี้เล่าใน Ted Talk ว่า เขาไม่เคยที่คิดจะเกลียดใครเลย แม้แต่คนที่ทำร้ายเขาขนาดนั้น เขาบอกว่าความเกลียดชังเหมือนโรคร้ายที่อาจจะทำลายศัตรูได้ก็จริงแต่ก็ทำลายตัวเราไปด้วยระหว่างทาง วันที่เขามีลูกคนแรกและคิดได้ว่าเขาควรจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่า ให้สมกับที่รอดชีวิตมาได้ เขาสัญญากับตัวเองว่าจะเป็นคนที่มีความสุข
4
ยิ้มแย้ม สุภาพกับทุกคน ช่วยเหลือผู้อื่นและมีเมตตากับทุกชีวิต ซึ่งเขาก็ทำได้จนอายุร้อยปี เขาบอกว่าความสุขและสงบในใจ ครอบครัวใหญ่ที่น่ารักของเขานั้นนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีที่ทำให้เขาอายุยืนและแข็งแรงอย่างน่ามหัศจรรย์
2
เอ็ดดี้บอกว่าพรุ่งนี้นั้นมาถึงแน่ๆ แต่ที่สำคัญคือต้องมีความสุขกับวันนี้ก่อน เป็นบทเรียนที่เขาได้รับจากการอยู่รอดแบบวันต่อวัน เอ็ดดี้บอกว่าเขาโกงความตายมาได้ รอดมาอย่างปาฏิหารย์ ถ้าเขาสามารถช่วยคนที่ทุกข์ระทมได้ยิ้มอีกครั้ง นั่นก็คือความสุขที่สุดของเขาแล้ว
2
เอ็ดดี้ จาคู บุรุษผู้มีความสุขที่สุดในโลก เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน
สิริอายุได้ 101 ปี…
โฆษณา