30 มิ.ย. 2023 เวลา 04:47 • ท่องเที่ยว

Cape Shark Villas เกาะเต่า ไม่รอดหลังถูกร้องเรียนรุกล้ำพื้นที่ราชพัสดุ

จากที่กระแสโซเชียลมีการแชร์ภาพรีวิวรีสอร์ทสุดหรูที่นักท่องเที่ยวและเหล่า influencer ชอบไปท่องเที่ยวพักผ่อนโดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมาภายหลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากคนในพื้นที่ว่ารีสอร์ทนี้สร้างในพื้นที่รุกล้ำธรรมชาติสร้างไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก โดยภายหลังจากที่ทางด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ สั่งการเร่งด่วน
มอบหมายให้ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำกำลังเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเคปชาร์ค พูล วิลล่า ทันที
โดยภายหลังจากที่ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่ตรวจสอบก็ได้รับข้อเท็จจริงว่าพื้นที่เกาะเต่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุทั้งเกาะ มีกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล และ บริษัท เคปชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นผู้ครอบครองและประเด็นสำคัญในความผิดนี้คือ Cape Shark Villas รีสอร์ทไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลตำบลเกาะเต่าอย่างถูกต้องและ พื้นที่ครอบครองก็ยังไม่ได้ดำเนินการเช่าที่ดินจากธนารักษ์ และอาคารที่พักไม่ได้มีการขออนุญาตให้ก่อสร้างอาคาร
รวมถึงยังไม่ได้มีการจดแจ้งหรือได้รับใบอนุญาตแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สั่งห้ามมิให้บุคคลใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคาร ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไปอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า บริเวณอาคารที่พัก มีท่อน้ำทิ้งปล่อยลงทะเล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะในแผ่นดิน โดยไม่มีการบำบัดตามมาตรฐานของทางราชการอีกด้วย ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันประชุมพิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของ บริษัท เคป ชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นการกระทำการผิดกฎหมาย ดังต่อไปนี้
พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ฐาน ยึดถือหรือครอบครองทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ โดยปกติสุข หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ที่ราชพัสดุ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 45
- พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือแจ้งต่อพนักงานท้องถิ่นและดำเนินการตามมาตรา 39 ทวิ ตามมาตรา 21 ประกอบมาตรา 65
- พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มาตรา 15 ประกอบมาตรา 59
- พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ฐาน ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 44 หรือตามประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา 45 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าหน้าที่ ได้จัดทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องราวส่งพนักงานสอบสอนสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยภายหลัง ดร.ยุทธพล ได้เปิดเผยว่า จากการพูดคุย กับ นางสุนิสา ลาพอร์ท เจ้าของรีสอร์ท พร้อมยอมรับทุกข้อกล่าวหาและอีกทั้งยัง ยืนยันทำไปด้วยไม่รู้ข้อกฎหมาย จากนี้ยินดีรื้อถอนอาคาร พร้อมรับผิดชอบฟื้นฟูพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุดต่อไป
โดยสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมและขอบคุณที่มาของเนื้อหาได้ที่ ทส. ลุย เกาะเต่า ตรวจสอบ รีสอร์ทบนโขดหิน ด้าน เจ้าของยอมรับ พร้อมรื้อหากผิดจริง (citizenblox.com)
โฆษณา