Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วินทร์ เลียววาริณ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 ก.ค. 2023 เวลา 00:00 • หนังสือ
เซนคืออะไรกันแน่? | The Zen Moment
ลงเรื่องเซนมาสิบกว่าบท มาถึงบทนี้ หลายคนก็คงยังไม่รู้ว่าเซนคืออะไร
เซน / Zen / 禪 (ฉาน) ถือกำเนิดที่เมืองจีน แต่สืบรากเหง้ามาจากพุทธศาสนา บุคคลแรกที่เป็นผู้สร้างสะพานเชื่อมพุทธศาสนากับเซนก็คือพระโพธิธรรม ผู้เดินทางจากอินเดียไปเมืองจีนในราว ค.ศ. 520
ชื่อจีนของพระโพธิธรรมก็คือ ตั๊กม้อ เจ้าสำนักวัดเส้าหลินอันเลื่องลือ หลายร้อยปีต่อมา ลัทธิฉานก็เข้าสู่ญี่ปุ่น ออกเสียงตามสำเนียงญี่ปุ่นว่า เซน แตกออกเป็นสาขาย่อย เช่น รินไซ เซน (Rinzai Zen) โซโต เซน (Soto Zen) เป็นต้น
แต่ไม่ว่าเป็นสายใด หัวใจของมันก็ไม่ได้ต่างกัน เน้นการใช้สมาธิและเข้าถึงธรรมด้วยปัญญา
ท่านพุทธทาสภิกขุบอกว่า เราต้องเข้าใจก่อนว่า เซนไม่มีรูปธรรม เช่น คำว่าพระโพธิสัตว์ไม่ได้หมายถึงคน แต่หมายถึงคุณธรรมอย่างหนึ่ง เช่น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหมายถึงความเมตตากรุณา พระโพธิสัตว์มัญชุศรีหมายถึงกฎแห่งเหตุผลที่ว่าสัตว์เป็นพุทธะอยู่แล้ว เป็นต้น
ถ้าไม่ใช่ทั้งเถรวาทและมหายาน ควรเรียกเซนว่าอะไร พุทธทาสภิกขุบอกว่า "ไม่ควรจะเรียกว่าอะไรนอกจาก 'เซน' ตามสำเนียงญี่ปุ่น หรือ 'ฌาน' ตามสำเนียงจีน หรือ 'ธยาน' ตามสำเนียงสันสกฤต เป็นต้น หรือถ้าจะถือตามหลักของอาจารย์ฮวงโปแล้ว ก็ควรจะถือว่า 'มันว่างเสียจนไม่มีชื่อที่จะเรียกว่าอะไรเสียมากกว่า' มันคือ'ว่างจากความว่าง' อีกต่อหนึ่ง"
แม้เซนจะเป็นเรื่องของความว่าง แต่ ดี. ที. ซูซุกิ เขียนว่า เซนกลับไม่ใช่สุญนิยม (Nihilism) ซึ่งเป็นความเชื่อว่าตัวตนไม่มีความหมายหรือจุดประสงค์ที่แน่นอน
ทว่าเพื่อประโยชน์ของการศึกษาเรื่องเซน เราอาจกล่าวได้ว่า เซนก็คือวิวิฒนาการสายหนึ่งของศาสนา เพราะศาสนานั้นเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการได้ ผ่านกาลเวลา ภูมิศาสตร์ และวัฒนธรรม และในกรณีนี้หากไม่มีพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า โลกก็ไม่มีเซนแน่นอน และในมุมแคบลง หากโลกนี้ไม่มีเซน ก็คงไม่มีญี่ปุ่นเช่นที่เป็นอยู่ในวันนี้
นักปรัชญาอังกฤษ อลัน วัตต์ส เขียนว่า การเข้าใจเซนต้องมองออกจากวิธีคิดตรรกะแบบเดิม ความรู้แบบตะวันตกนั้นได้มาจากการคิดแบบตรรกะ เหตุผล การสอนเป็นระบบ การชำแหละทุกอย่างออกมาเป็นระบบ เป็นความรู้แบบมาตรฐานดั้งเดิม (conventional knowledge)
2
ยกตัวอย่างเช่น เราใช้ตัวโน้ตดนตรีแทนค่าเสียง ใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์แทนค่าคณิตศาสตร์บางโมเดล ทุกอย่างเป็นภาษาเป็นระบบไปหมด ระบบการศึกษาจึงสอนให้เด็กคิดตามกรอบที่ถูกสร้างไปโดยปริยาย เพื่อให้อยู่รอดในระบบที่เราสร้างขึ้นมาใช้นี้ได้
2
ระบบภาษาจะบอกว่า เมื่อใช้คำว่า ต้นไม้ มันหมายถึงสิ่งมีชีวิตแบบนี้ เมื่อใช้คำว่า ปลาช่อน มันคือสัตว์แบบนั้น ระบบยังเป็นตัวกำหนดว่าปลาไหลจัดเป็นปลาหรือสัตว์เลื้อยคลาน ทุกเรื่องมีกฎเกณฑ์กติกาของมันมากมายไปหมด
2
นอกจากระบบภาษาแล้ว ยังมีระบบอื่น ๆ ที่เราสร้างขึ้นมา เรามีกฎเกณฑ์กติกา จารีต ประเพณี มารยาท กฎหมาย ไปจนถึงบทบาทของมนุษย์แต่ละคน เราแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่า เราเป็นพ่อหรือแม่หรือลูก หรือช่างประปา หรือนักธุรกิจ เมื่อแบ่งแยกแล้ว เราก็รับเอากฎเกณฑ์ค่านิยมเกี่ยวกับบทบาทหรือสถานะนั้น ๆ มาปะไว้บนหน้าผากของเรา
ทว่าเซนไม่มีกติกาใด ๆ มาเป็นกรอบ ตรงกันข้าม มันก้าวไปกว่ากรอบทางศาสนาและความเชื่อใด ๆ ที่มนุษยชาติเคยรู้จัก
2
การจะเข้าใจเซนต้องหลุดออกไปจากกรอบความคิดทวินิยมก่อน อาจต้องเปลี่ยนมุมมอง ไม่เช่นนั้นก็เช่นการสื่อสารกันคนละคลื่นความถี่ ยกตัวอย่างเช่น โลกตะวันตกมองว่าต้นไม้ประกอบด้วยราก ลำต้น กิ่ง ใบ ดอก ผล ส่วนเซนมองว่า ไม่มีต้นไม้ ต้นไม้เป็นเพียงมายาของความคิด!
4
พูดอีกอย่างก็คือ โลกตะวันตกมักมองทุกอย่างเป็นขาวกับดำ มองว่าสิ่งนี้เป็นความจริง สิ่งนั้นเป็นความเท็จ ทว่าในมุมมองของเซน ความจริง (truth) อาจไม่มีตัวตนดำรงอยู่ ความจริงเป็นเพียงความสัมพัทธ์ของมุมมองเท่านั้น!
1
อีกตัวอย่างหนึ่งคือความจริงที่ว่าไฟคือความร้อน นี่เป็น 'ความจริง' ในมุมมองของคนทั่วไป แต่ 'ความร้อน' นี้เป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์ 'รับรู้' ผ่านประสาทสัมผัสของเราที่เชื่อมกับสมอง ในมุมมองของแมงเม่า มันก็อาจมองต่างจากเรา เช่นกันขณะที่เราเห็นดอกไม้เป็นสีแดง ผึ้งกลับมองเห็นเป็นสีดำ! ฉะนั้น 'ความจริง' ว่าดอกไม้มีสีแดงจึงเป็นเพียงมายาของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนเท่านั้น
จาก มังกรเซน ฉบับปรับปรุง ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ + ของแถม limited edition Zen Book สั่งได้ที่เว็บ
winbookclub.com
หรือ Shopee (ค้นคำ namol113)
นิทานเซน
11 บันทึก
43
13
11
43
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย