Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
4 ก.ค. 2023 เวลา 06:24 • ประวัติศาสตร์
"ไททานิก (Titanic)" เป็นเรือต้องคำสาปหรือไม่?
ในช่วงเวลานี้ ข่าวเรื่องเรือดำน้ำ "ไททัน (Titan)" ยังคงเป็นข่าวดังที่โลกให้ความสนใจ
และด้วยเรื่องของไททันที่โด่งดัง ทำให้เรื่องราวของเรือในตำนานอย่าง "ไททานิก (Titanic)" กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
"ไททานิก (Titanic)" เป็นเรือที่ทันสมัยที่สุดลำหนึ่งในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าทางทะเล เป็นสิ่งที่แสดงถึงความล้ำหน้าของมนุษย์
แต่ในค่ำคืนของเดือนเมษายน ค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) ไททานิกซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "เรือที่ไม่มีวันจม" ก็ได้ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งและจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก คร่าชีวิตคนบนเรือไปกว่า 1,500 คน
2
ไททานิก (Titanic)
โศกนาฏกรรมไททานิกเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก และกลายเป็นตำนานเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน และหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนพูดถึงก็คือ
"ไททานิกนั้นพบเจอกับคำสาปอะไรหรือไม่?"
ลองมาดูกันครับ
หนึ่งในเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ทำให้หลายคนคิดว่าไททานิกนั้นต้องคำสาป ก็คือเรื่องของ "มัมมี่"
จากตำนานที่เล่าขานกันนั้น บนเรือไททานิกได้บรรทุกมัมมี่ ซึ่งมัมมี่นั้นก็ได้ชื่อว่าจะนำพาโชคร้ายและหายนะไปยังทุกที่ที่ไป และก็น่าจะเป็นเพราะคำสาปของมัมมี่ที่ทำให้ไททานิกจมลง
ว่ากันว่ามัมมี่นี้คือมัมมี่ของ "เจ้าหญิงอาเมนรา (Amen-Ra)" แห่งอียิปต์ โดยตามตำนานนั้น ผู้ใดรบกวนเจ้าหญิงจะต้องพบเจอกับชะตากรรมที่เลวร้าย
ตั้งแต่การขนย้ายโลงศพของเจ้าหญิงจากอียิปต์ไปอังกฤษ ผู้ที่ครอบครองโลงศพก็ล้วนแต่พบกับหายนะ จนกระทั่งคนสุดท้ายทนไม่ไหว ได้ส่งโลงศพที่บรรทุกมัมมี่นี้ไปกับไททานิก หวังว่าจะพ้นจากคำสาป
แต่เมื่อมัมมี่นี้ขึ้นมาบนเรือ ก็ได้ทำให้ไททานิกพบเจอกับชะตากรรมที่เลวร้าย และจบลงด้วยโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่อย่างที่ทราบกันดี
อีกประเด็นที่หลายคนยกขึ้นมา อาจจะไม่ใช่คำสาปซะทั้งหมด แต่มาจาก "ความเย่อหยิ่ง" ของมนุษย์เองด้วย
ในเวลานั้น ไททานิกได้ชื่อว่าเป็นเรือที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และหรูหราที่สุด ได้ชื่อว่าเป็นเรือที่ไม่มีวันจม และด้วยความเชื่อมั่นเช่นนี้ ทำให้หลายคนคิดว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไททานิกต้องพบกับจุดจบ
แม้แต่กัปตันเรืออย่าง "เอ็ดเวิร์ด สมิท (Edward Smith)" ก็เคยกล่าวว่า
เอ็ดเวิร์ด สมิท (Edward Smith)
"ผมนึกถึงสถานการณ์ที่จะทำให้เรืออับปางไม่ออกเลย การสร้างเรือในยุคสมัยใหม่ไปได้ไกลกว่านั้น"
ด้วยความเชื่อมั่นนี้เองทำให้ความปลอดภัยหละหลวม ความเชื่อที่ว่าไททานิกไม่มีวันจมทำให้ระบบความปลอดภัยต่างๆ ถูกละเลย
1
หนึ่งในความผิดพลาดสำคัญคือเรื่องของ "เรือชูชีพ" โดยไททานิกนั้นบรรทุกคนได้กว่า 3,500 คน แต่เรือชูชีพบนเรือนั้นมีพอสำหรับบรรทุกคนได้เพียง 1,200 คนเท่านั้น ซึ่งความประมาทนี้เองทำให้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิตทั้งๆ ที่หากมีเรือชูชีพเพียงพอ จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะไม่มากเท่านี้
นอกจากนั้น ในคืนที่ไททานิกอับปาง เจ้าหน้าที่บนเรือไททานิกก็ได้รับข้อความเตือนจากเรือลำอื่น หากแต่ก็ไม่สนใจ และยังเดินเรือด้วยความเร็วสูง โดยเจ้าหน้าที่บนเรือเชื่อว่าไททานิกนั้นแข็งแกร่ง ไม่มีวันจม ต่อให้เจอภูเขาน้ำแข็งก็ไม่เป็นอะไร
แต่หากกลับมาดูที่เรื่องราวแปลกๆ ที่วนเวียนรอบไททานิก ก็มีบางเรื่องที่ดูแปลกเหมือนเป็นการทำนายชะตากรรมล่วงหน้าของไททานิก
หนึ่งในเรื่องราวแปลกๆ นั้น ก็คือก่อนหน้าเหตุการณ์ไททานิก 14 ปี ได้มีการตีพิมพ์หนังสือเรื่อง "Futility" โดย "มอร์แกน โรเบิร์ตสัน (Morgan Robertson)" และมีเนื้อหาใกล้เคียงกับไททานิกมาก
1
ในหนังสือเรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องราวของเรือโดยสารขนาดใหญ่ชื่อว่า "ไททัน (Titan)" และได้ชื่อว่าเป็น "เรือที่ไม่มีวันจม" หากแต่ก็ชนกับภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติกและอับปาง
ผู้คนบนเรือไททันเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเนื่องจากบนเรือมีเรือชูชีพไม่เพียงพอ ซึ่งบังเอิญตรงกับไททานิกอย่างน่าประหลาด
นอกจากนั้น ผู้โดยสารหลายคนที่ซื้อตั๋วเรือไททานิกไว้แล้ว หากแต่ยกเลิกทีหลังเพราะรู้สึกไม่ดี ทำให้รอดตายหวุดหวิดก็มีอยู่หลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "เจพี มอร์แกน (J.P. Morgan)" หนึ่งในมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกในเวลานั้น ซึ่งได้ซื้อตั๋วเรือไททานิกไว้แล้ว หากแต่ยกเลิกการเดินทางทีหลังเนื่องจากรู้สึกไม่สบายใจ
1
ในค่ำคืนที่ไททานิกอับปาง ไททานิกได้รับข้อความเตือนจากเรือลำอื่นหลายครั้ง เตือนว่าบริเวณรอบๆ มีภูเขาน้ำแข็ง หากแต่เจ้าหน้าที่บนเรือไททานิกก็ไม่ได้สนใจนัก โดยเจ้าหน้าที่วิทยุบนเรือไททานิกถึงกับตอบข้อความเตือนจากเรือลำอื่นว่า
เจพี มอร์แกน (J.P. Morgan)
"หุบปาก หุบปาก ฉันกำลังยุ่ง ฉันกำลังทำงานอย่างหนัก"
1
การเพิกเฉยต่อคำเตือนเหล่านี้ทำให้บางคนโยงไปว่าเป็นชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
และเรื่องราวคำสาปของไททานิกก็ไม่ได้จบลงแค่การอับปางของเรือ หากแต่เชื่อว่าผู้รอดชีวิตหลายคนก็ได้รับผลจากคำสาปไททานิกด้วย
"ชาร์ลส์ โจกิน (Charles Joughin)" หัวหน้าคนทำขนมปังบนไททานิก และในคืนที่เกิดเหตุนั้น โจกินได้ดื่มวิสกี้ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนเชื่อว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้โจกินรอดชีวิตจากน้ำทะเลที่หนาวเย็นและได้รับการช่วยเหลือในที่สุด
1
ชาร์ลส์ โจกิน (Charles Joughin)
ภายหลังเหตุการณ์อับปางไททานิก โจกินก็ต้องทรมานจากโรคพิษสุราเรื้อรังตลอดชีวิต ซึ่งหลายคนก็โยงว่าเป็นคำสาปจากไททานิก
อีกรายคือ "เฟรเดอริค ฟลีท (Frederick Fleet)" เวรยามซึ่งเป็นผู้พบเห็นภูเขาน้ำแข็งเป็นรายแรก
ฟลีทนั้นรอดชีวิต หากแต่ก็ต้องพบกับปัญหาว่างงาน ไม่สามารถหางานทำได้หลังจากนั้น อีกทั้งยังคงหลอนจากเหตุการณ์ไททานิก
เฟรเดอริค ฟลีท (Frederick Fleet)
และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ "โทมัส แอนดริวส์ (Thomas Andrews)" ผู้ที่ออกแบบเรือไททานิก ซึ่งถึงแม้จะไม่รอดชีวิต แต่ก็มีเรื่องราวที่หลายคนเล่าขานเกี่ยวกับแอนดริวส์
พยานผู้รอดชีวิตได้กล่าวว่าเห็นแอนดริวส์ครั้งสุดท้ายในห้องสูบบุหรี่ของส่วนผู้โดยสารชั้นหนึ่ง โดยในเวลานั้น แอนดริวส์เอาแต่จ้องไปที่ภาพวาดชื่อว่า "Approach to the New World" หรือแปลได้ว่า "การเข้าใกล้โลกใหม่"
แต่สำหรับแวดวงวิทยาศาสตร์ คำสาปเหล่านี้ไม่มีจริง สิ่งที่ทำให้ไททานิกจมจริงๆ น่าจะมาจากความเชื่อมั่นที่เกินเหตุและความประมาท
โทมัส แอนดริวส์ (Thomas Andrews)
แต่สุดท้ายจะเป็นเพราะคำสาปหรือเป็นเพราะความประมาทของมนุษย์
คำตอบนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความเชื่อของคุณเอง
References:
https://medium.com/lessons-from-history/is-the-titanic-cursed-b0c2b2c53ee3
https://m.economictimes.com/news/international/world-news/titanics-curse-strikes-again-sub-goes-missing-with-five-people-on-board-search-underway/articleshow/101124783.cms
https://www.marca.com/en/lifestyle/world-news/2023/06/21/6492e69aca474133058b45d4.html
https://www.mirror.co.uk/news/world-news/curse-titanic-explained-five-people-30303267
ประวัติศาสตร์
3 บันทึก
19
5
3
19
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย