3 ก.ค. 2023 เวลา 10:07 • ไลฟ์สไตล์
ปราจีนบุรี

ธรรมกมลา จ.ปราจีนบุรี

ศูนย์ฯ ธรรมกมลา จ.ปราจีนบุรี กันต่อ คราวนี้เราจะมาคุยในส่วนการปฏิบัติตลอด 10 วัน สำหรับ day 0 ก็ไม่มีอะไรมากมายแค่รับศีล 5 หรือศีล 8 และนั่งสมาธิเล็กน้อยก่อนจะเข้าสู่โหมดการพักผ่อน แล้วจะกลับมาปฏิบัติจริงจังอีกครั้งจนถึง Day 10 ตอนเช้า(เมตตาภาวนา)
Day1-Day3 จะเป็นอานาปานสติ จากหยาบไปละเอียดจากการสังเกตลมหายใจ
Day 4-Day10 จะเป็นวิปัสสนา ก็จะมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆตามวันที่ผ่านไปโดยสังเกตเวทนาเป็นหลัก
สำหรับเราเหมือนเดิม Day 2 มักสร้างปัญหาให้เราเสมอ คราวนี้เปลี่ยนจากการฟุ้งเป็นปวดกล้ามเนื้อหนักๆแทน อาจารย์ครั้งนี้น่ารักมาก ใส่ใจผู้อบรม เหมือนจะดุ แต่ใจดี ไม่ใช่แนว aggressive เหมือนครั้งที่แล้ว ไม่ใช่ไม่ดีน่ะ เราว่าไม่ถูกจริตกับเรามากกว่า ครั้งที่แล้วจะออกแนวแข็งๆ เสียมากกว่า จะมองว่าดีไหม มันฝึกให้เราเข้มแข็ง
ครั้งนี้เราขอให้เครดิตเพื่อนผู้อบรม 1 ท่าน ในส่วนการนั่งไม่เปลี่ยนท่า ตรงนี้เป็นแรงบันดาลใจได้ดีเลย เค้าบอกว่ามีผู้อบรมที่อายุมากแล้วทำได้ เราลองดูแล้ว มันทำได้น่ะ ในส่วนเราคือการไม่เปลี่ยนท่า เท้า กับมืออาจมีกระดิกบ้าง ยังไม่สามารถที่จะนิ่งได้เพอร์เฟค สำหรับเราเป็นการเริ่มต้นที่ดีน่ะ เพราะครั้งแรกที่เรานั่ง 30 นาที่แรกในช.ม.บังคับ หรือช.ม.อธิษฐาน ก็จะตายล่ะ
เชื่อเลยว่าจิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าจิตตั้งมั่นมากพอ แล้วเมื่อเราทำได้ต่อไปช.ม.ต่อๆไปมันจะง่ายขึ้น ไม่ว่าจะบังคับ หรือไม่บังคับ เราก็ทำได้จนบางทีถ้าไม่ใช่ ช.ม.อธิษฐาน เราต้องขยับให้ร่างกายได้พักบ้าง คิดว่าแนวทางที่ตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไป น่าจะไม่ใช่วิถีชาวพุทธที่เหมาะสม ทางที่เหมาะสมคือทางสายกลาง(มัชฌิมาปฏิปทา)
และเป็นครั้งแรกที่เราอยู่ที่หอปฏิบัติรวมเป็นหลักๆ ปกติเราจะอยู่ห้องส่วนตัวถ้าไม่ใช่ช.ม.บังคับ แต่ช่วงวันหลังๆเราเน้นนั่งจริงจัง ถ้าไม่ใช่หอปฏิบัติรวม ก็จะขึ้นห้อง Cell
ในส่วนห้อง Cell จะเป็นห้องปฏิบัติเดี่ยว ขนาดเล็ก การระบายอากาศได้ดี เงียบใช้ได้ เลย เราชอบน่ะ แต่บรรยากาศอาจวังเวงนิดๆ ไฟในห้องสามารถปรับได้ในส่วนแสงสว่าง มีพัดลมระบายอากาศในห้อง แต่ในวันที่อากาศร้อนๆ อาจนั่งไม่สะดวกมากนัก
ส่วนการเห็นนั่นนี่ เวทนาไม่ว่าหยาบหรือละเอียด เราไม่ขอกล่าวถึง เพราะมันไม่ใช่จุดประสงค์ มันเพียงแค่ทางผ่านไปสู่การวางอุเบกขาเท่านั้น ไม่สร้างสังขารใหม่ๆ แต่สำหรับเราที่นี่นั่งง่ายน่ะ เพื่อนผู้อบรมท่านเดิมกล่าวไว้ว่าที่นี่ กับที่พิษณุโลก นั่งง่าย ตอนแรกเราก็ไม่ฟันธง เราออกแนวต้องรู้เอง ถึงจะเชื่อ หวังว่าจะมีโอกาสไปพิสูจน์ที่พิษณุโลกบ้าง ถ้าอ้างอิงถึงเหตุผลก็พอเอามากล่าวอ้างได้ คือเป็นศูนย์แรกๆในไทยอันนี้เราพอรับได้ในเหตุผลส่วนนี้
สิ่งหนึ่งที่เราได้เพิ่มเติม คือ กัลยามิตรที่ดีจากการไปที่นี่ นอกจากนี้ก็จะเป็นความหนักแน่นในส่วนความคิดมากขึ้นในส่วนการไม่คบคนพาล เพราะคนประเภทนี้มักฉุดลงต่ำจริงๆถ้ามองจากการดำเนินชีวิตจริง และการคบบัณฑิต คนประเภทนี้มักชักชวนกันไปสู่ทางแห่งปัญญา ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของมงคลชีวิต 38 ประการ จะมีบทสวดนี้ใน Day 9 ช่วงเช้าด้วย
ส่วนธรรมบรรยาย เราเองได้เปิดประสบการณ์ไปฟังภาษาอ. ตรงนี้มีพีที่เคยเจอแนะนำมาให้ลองฟังซักครั้ง เค้าบอกว่าฟังง่ายดี ฝึกภาษาอ.เพิ่มเติมด้วย ขอบอกว่าจริงดังที่พี่ท่านนั้นกล่าว เชื่อว่ามอง 1 ช.ม.นี้เป็นการพักสำหรับเรา พักแล้วได้เติมรอยหยักทางปัญญาเพิ่มเติม ครั้งหน้าคงขอเข้าฟังภาษาอ.เหมือนเดิม เพิ่มเติมธรรมบรรยายภาคภาษาอ. จะบรรยายโดยท่านอ.โกเอ็นก้า และมี sub. ไทยด้านล่าง
ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เดินบนทางสายธรรมเท่านั้น สำหรับเราเป็นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ได้นั่งรถมองภูเขา มองน้ำ นั่งโง่ๆ โดยไม่เสพข่าว ไม่พูดคุย เราว่าก็ดีเหมือนกัน เหมือน heal ใจตัวเองอ่า รวมถึงการพูดคุยแลกเปลี่ยน เพิ่มมิตรที่งอกงามในธรรม
การปฏิบัติในแนวทางนี้เราเองไม่ขอให้ท่านๆเชื่อตั้งแต่แรก ลองปฏิบัติดู ทุกข้อห้ามมีที่มาที่ไป และมีเบื้องหลังที่ช่วยให้การปฏิบัติง่ายขึ้นจริงๆ เช่นการปิดวาจา สรุปสั้นๆถ้าคนไม่มีศีล ก็จะไม่มีสมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ และไม่มีทางที่จะมีปัญญา การปิดวาจาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ศีลบริสุทธิ์
เราขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านไม่ว่าจะเป็นท่านอ.โกเอ็นก้า อาจารย์นิรันดร์ ชโยดม ผู้อ่านลงเสียงเทปคำสอนและธรรมบรรยายที่แปลเป็นภาษาไทย ธรรมบริกร กัลยามิตรที่ดี รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ธรรมกมลา ที่สนับสนุนให้การปฏิบัติลุล่วงไปด้วยดี และที่ขาดไม่ได้คืออ.ที่แนะนำให้เราเดินบนทางสายนี้ถ้าไม่มีอ.ท่านนี้ เราเองคงยังเดินหลงทางอยู่
ขอให้ท่านทั้งหลายจงก้าวหน้าในธรรม ได้พบกับความสงบอันแท้จริง มิตรไมตรีอันแท้จริง ความสุขอย่างแท้จริง
โฆษณา