4 ก.ค. 2023 เวลา 03:28 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

[รีวิวหนัง] INDIANA JONES AND THE DIAL OF DESTINY (2023)

" เมื่อโชคชะตานำพาเราไปสู่หนทางที่ไม่อาจคาดเดาได้ "
- เมื่ออินดี้ " Indiana Jones " ได้เจอกับ " Helena " ลูกสาวเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน พร้อมกับการตามล่าของกลุ่มคนปริศนาที่ต้องการชิ้นส่วนสมบัติโบราณที่เชื่อว่าสามารถทำให้ย้อนเวลาได้ โดยมี " Dr. Voller " อดีตนาซีหัวรุนแรงที่มีอุดมการบางอย่าง ทำให้ไฟในตัวอินดี้ลุกโชนและเลือกที่จะปกป้องสมบัติชิ้นนั้นอย่างสุดชีวิต
INDIANA JONES AND THE DIAL OF DESTINY (2023)
- กลับมาเป็นภาคที่ 5 แล้วสำหรับแฟรนไชส์หนังอินเดียน่าโจนส์ ซึ่งยังได้ " Harrison Ford " กลับมาแสดงนำอีกครั้ง บอกเลยว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ เพราะแม้ว่าปู่อายุมากแล้ว แต่การเล่นแอ็คชั่นก็ยังทำถึง น่าเชื่อถือ และการเปลี่ยน
ผู้กำกับมาเป็น " James Mangold " ก็ยังไม่ทิ้งสไตล์ดั้งเดิมของหนังชุดนี้ไปมากนัก
INDIANA JONES AND THE DIAL OF DESTINY (2023)
- ตัวหนังพาเราไปผจญภัย ไปสำรวจสถานที่ต่างๆ การแก้ไขปริศนา และค้นหาคำตอบของสมบัติโบราณ อีกทั้งยังเป็นการปะทะคารมณ์กันของนักแสดงต่างรุ่นที่ได้ " Phoebe Waller-Bridge " มารับบทเฮเลน่าลูกสาวของ " Basil Shaw " เพื่อนสนิทของอินดี้ ที่สร้างสีสันให้หนังไม่จืดจนเกินไป และเพิ่มลูกเล่นอื่นๆให้น่าสนใจมากขึ้น
INDIANA JONES AND THE DIAL OF DESTINY (2023)
- ในด้านตัวร้ายนี่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะได้ " Mads Mikkelsen " มารับบทนาซีที่หล่อเท่เนี๊ยบทุกองค์ประกอบ แต่เอาจริงๆก็มีบทไม่ได้เยอะมากนัก แอบเสียดายที่ดูเป็นตัวร้ายสายซัพพอร์ทที่ต้องใช้ลูกน้องบวกกับอินดี้แทน ทำให้ไม่มีอะไรที่น่าจดจำมากนัก พอจะฉลาดก็ดูฉลาด แต่บางเรื่องก็อ๊องๆ งงๆ พลาดท่าเองซะงั้น
INDIANA JONES AND THE DIAL OF DESTINY (2023)
- แต่โดยรวมแล้วเป็นหนังผจญภัยที่ดูสนุกและเพลินตลอดทั้งเรื่องนะ สนุกกับซีนแอ็คชั่น สนุกกับการทะเลาะกันของตัวละคร สนุกกับการไขปริศนาที่อาจไม่ได้มีชั้นเชิงอะไรมากนัก แต่ก็เอนจอยแหละ เป็นผลงานที่ชวนให้คิดถึงอะไรเก่าๆ และซีนไคลแม็กซ์ช่วงท้ายที่ไม่ได้คิดว่าจะออกมาแบบนั้นจริงๆ แต่ก็ทำออกมาได้น่าทึ่งพอสมควรเลยนะ เอาเป็นว่าใครคิดถึงหนังแนวนัี้ที่มีให้ดูน้อยแล้ว ต้องไปดูเลยครับ
K.
INDIANA JONES AND THE DIAL OF DESTINY (2023)
โฆษณา