Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
5 ก.ค. 2023 เวลา 13:44 • กีฬา
#MainStand : รถแข่งในกีฬามอเตอร์สปอร์ต มีสถิติความเร็วสูงสุดเท่าไร ?
การแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นชนิดกีฬาที่อาศัยความเร็วเข้ามาขับเคลื่อน นอกจากสิ่งนี้จะเป็นตัวชี้วัดผลการแข่งขันแล้วยังบ่งบอกถึงศักยภาพของทีมงานพัฒนาเครื่องยนต์ที่ส่งผลให้ยานพาหนะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายร้อยกิโลเมตรต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอีกด้วย
ตลอดการแข่งขันตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รถแต่ละรุ่นมีการปรับแต่งและออกแบบเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ และแน่นอนว่ารถในแต่ละคลาสล้วนมีความเร็วที่แตกต่างกันออกไปเนื่องจากกฎข้อบังคับหรือข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแข่งขันให้มีความเท่าเทียม
ในโพสต์นี้ Main Stand ได้เปรียบเทียบสถิติความเร็วปลายของยานพาหนะในกีฬามอเตอร์สปอร์ตบางรายการมาให้แฟนกีฬาความเร็วได้รับชมกันว่ารถแต่ละแบบจะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เท่าไรกันบ้าง ? ติดตามได้เลย
*ความเร็วที่ดังกล่าวเป็นความเร็วเฉลี่ยซึ่งรถแต่ละแบบยังสามารถทำความเร็วได้มากกว่านี้*
[Top Fuel ประมาณ 530 กม./ชม.]
เชื่อว่าในการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต รถที่สามารถทำความเร็วปลายได้เร็วที่สุดคงหนีไม่พ้นรถแข่งประเภท Top Fuel หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถแดร็กหน้ายาว ซึ่งรถแข่งประเภทนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก โดยใช้เครื่องยนต์ V8 Hemi ที่ได้รับการปรับแต่งจนสามารถรีดแรงม้าได้มากกว่า 10,000 ตัว และสามารถทำความเร็วปลายได้มากกว่า 530 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งได้รับการบันทึกสถิติความเร็วไว้ที่ 338.43 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 544.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
[IndyCar ประมาณ 380 กม./ชม.]
ถ้าหากเทียบความเร็วของกีฬามอเตอร์สปอร์ตยอดนิยมแล้ว รถแข่ง IndyCar ถือเป็นรถที่สามารถทำความเร็วสูงสุดแซงหน้ารถ F1 หรือแม้กระทั่ง NASCAR โดยรถแข่งล้อเปิดรุ่นนี้มีกฎข้อบังคับคือการใช้เครื่องยนต์ V6 2.2 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำกำลังสูงสุดได้มากถึง 700 แรงม้า แต่ด้วยน้ำหนักรถที่น้อยกว่า ทางรถสูตรหนึ่งและนาสคาร์ ทำให้มันสามารถทำความเร็วปลายได้มากกว่า 380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
[Formula 1 ประมาณ 360 กม./ชม.]
เพชรยอดมงกุฎของกีฬามอเตอร์สปอร์ตคงหนีไม่พ้น การแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง หรือ ฟอร์มูลา 1 ซึ่งสิ่งที่ทำให้การแข่งขันรถประเภทนี้กลายเป็นที่ยอมรับของแฟนกีฬาความเร็วนอกเหนือจากผลงานของนักกีฬาก็คือผลงานการปรับแต่งรถของแต่ละทีมที่วัดกันด้วยเรื่องออกแบบตัวรถเพื่อเพิ่มหลักดาวน์ฟอร์ซขณะที่รถทำความเร็ว รวมถึงการปรับแต่งเครื่องยนต์จนทำให้รถแข่งประเภทนี้สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเครื่องยนต์ V6 ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ไฮบริด ที่สร้างแรงม้าได้มากกว่า 1,000 แรงม้า
[MotoGP ประมาณ 360 กม./ชม.]
มาถึงรถแข่งในในคลาส 2 ล้อกับการแข่งขัน Moto GP หรือ การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ ซึ่งรถที่ถูกใช้ในการแข่งขันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1,000 ซีซี จำกัดรอบเครื่องยนต์ 18,000 รอบต่อนาที จนสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีการบันทึกสถิติความเร็วในการแข่งขัน อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ในปี 2023 ไว้ว่า รถแข่ง KTM RC16 ของ แบรด บินเดอร์ สามารถทำความเร็วได้ถึง 366.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
[WEC ประมาณ 340 กม./ชม.]
รถแข่งในรุ่น Hypercar ถือเป็นรถแข่งคลาสสูงสุดในการแข่งขัน FIA World Endurance Championship ซึ่งเครื่องยนต์ของรถคลาสนี้ กติกาเปิดกว้างในการทำเครื่องอย่างไม่จำกัด จะใช้เครื่องยนต์กี่สูบ ใช้ระบบอัดอากาศ หรือระบบไฮบริดช่วย ก็ได้ทั้งสิ้น จำกัดแค่เรื่องเดียวคือ กำลังสูงสุดต้องไม่เกิน 670 แรงม้าเท่านั้น อีกทั้งรถยังมีน้ำหนักเพียง 1,030 กิโลกรัม ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
[NASCAR ประมาณ 320 กม./ชม.]
การแข่งขัน NASCAR ถือเป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแฟน ๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์ความเร็วแบบสุดขั้วไม่มีหยุด เนื่องจากการแข่งขันประเภทนี้รถทุกคันจะต้องทำความเร็วทะลุ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในการแข่งขันมากกว่า 200 รอบ ซึ่งรถแต่ละคันมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.9 ลิตร โดยในระยะทางตรงจะสามารถทำความเร็วปลายได้สูงถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
[Rally1 ประมาณ 200 กม./ชม.]
สำหรับ การแข่งขันรถยนต์ทางฝุ่น หรือ แรลลี่ กลายเป็นรถยนต์ที่ทำความเร็วช้าที่สุดที่เราหยิบยกมา เนื่องจากการแข่งขันรถประเภทนี้ไม่ต้องอาศัยความเร็วปลายของรถในการแข่งขัน แต่จำเป็นต้องใช้อัตราเร่ง การปรับเซ็ตช่วงล่างลุยทุกสภาพถนน รวมถึงฝีมือ กลยุทธ์ของนักขับและผู้นำทางเป็นสำคัญ
ซึ่งในการแข่งขันแรลลี่รถแต่ละคันจะถูกกำหนดให้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ จำกัดความกว้างปากแตรเทอร์โบที่ 36 มม. ทำให้มีกำลังสูงสุด 380 แรงม้า แม้มีการพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 134 แรงม้าเข้าไป ทำให้มีกำลังสูงสุดรวมทั้งสองระบบถึง 514 แรงม้า แต่ความเร็วปลายของรถ Rally1 อยู่แค่ราว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น
แหล่งอ้างอิง :
https://www.autosport.com/f1/news/how-fast-is-an-f1-car-top-speeds-of-f1-indycar-motogp-and-more-4980734/4980734/
https://www.wrc.com/en/more/about-wrc/rally-cars/
https://www.motogp.com/en/news/2023/06/10/brad-binder-and-ktm-smash-motogp-top-speed-record/364051
https://www.nhra.com/news/2022/brittany-force-sets-national-record-fastest-top-fuel-run-history-33848-mph
https://indychronicle.com/how-fast-is-an-indycar/
https://www.boxrepsol.com/en/motogp-en/motogp-engine-types/
https://honda.racing/motogp/post/moto-gp-2023-season-opening
https://www.fiawec.com/en/classes/32
1 บันทึก
7
3
1
7
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย