สัญญาณบอกว่าสุขภาพการเงินเริ่มมีปัญหา

มะเร็งระยะที่ 1
ติดกับดักโปรโมชั่นทางการเงิน คำว่า 0% นี่ตัวดี ทำให้เราขาดการวางแผนทางการเงิน
อันนี้ก็อยากได้ อันนี้ก็ต้องมี ถามว่าจำเป็นมั้ย? ไม่มีเราก็อยู่ได้
ไม่มีเงินลงทุน อย่าว่าแต่กระนั้นเลย เงินเก็บ (เผื่อไว้ยามฉุกเฉิน) ก็มีบ้าง แต่ไม่มาก
ระยะที่ 2
เริ่มเปนหนี้แบบระยะ 5 ปี ขึ้นไป เช่น บ้าน (30+ ปี, รถ 5+ ปี) ซึ่งอันนี้ประกาศความร่ำรวย
การเป็นหนี้ระยะยาวนั้นส่วนใหญ่จะเปนของชิ้นใหญ่และหน้าตา ประกาศตัวว่าฉันผ่อนไหว
ที่น่ากลัวและเปนโรคร้ายคือสภาพคล่องเริ่มหาย เริ่มอู้ฟู่ไม่ได้ กินอาหารแพงๆ ไม่ได้เหมือนแต่ก่อน
ระยะที่ 3 (ลงทุนและคำนวณผิดพลาด)
คือทุกคนต่างมุ่งหาความสบายและอิสระภาพทางการเงิน จึงต้องลงทุน
มาในส่วนของการลงทุนละนะ อย่างที่รู้กันว่า การลงทุนมาพร้อมความเสี่ยง
เราจะรับความเสี่ยงที่ติดลบได้มากเท่าไหร่? ที่สำคัญคือ ผิดเป็นครู หรือผิดให้เลิกให้หลาบจำ
ถ้าเปนครูก็หาทางไปใหม่ แต่ผิดให้เลิกนี้เหมือนยังค้นหาการลงทุนของตัวเองอยู่อ่ะ ไม่งั้นก็กระจอก
ระยะที่ 4 (คล้ายๆ อวบก่อนเอาไม่อยู่, อ้วน)
ชิหายละ
ลงทุนผิดอย่างแรง ที่มันผิดคือ กู้มาลงทุน หรือกู้มาจ่ายหนี้บริโภคจนชำระไม่ไหว ตัน!!
มืด 24 ด้าน ขอแนะนำว่าให้ไปตามที่ศาลนัด ไม่ต้องกลัว เราไม่ได้ไปฆ่าใครตาย
ไกล่เกลี่ยเท่าที่เราชำระไหว อย่าลืมว่าเจ้าหนี้ต้องการให้เราชำระ ไม่ได้ต้องการให้เราหายไป
ธนาคารก็เดินเข้าไปบอกตรงๆ เค้าจะได้ช่วยเราหาทางออกอย่างสันติวิธี
แต่ถ้านอกระบบ (นอกขนาดไหน?) บอกไปตรงๆ ก่อน นอกจากนั้นแล้วแต่ตกลง อย่าหนี บางทีมันจะร้ายแรงกว่าเก่า
ปัญหาทางการเงินแก้ได้ ขอเพียงเราอย่าหนี ให้เผชิญหน้ากับมัน บางอย่างบางปัญหามันต้องใช้เวลา ตอนเราจะไปกู้ใจเต้นอย่างไร อย่าไปหนีให้ใจเต้นกว่านั้น
#ชวนคนที่รักมาอ่านบทความย่อยง่าย
โฆษณา