#ธุรกิจสว ขึ้นเทรนอันดับหนึ่งทวิตเตอร์
เมื่อประชาชนจำนวนมากไม่พอใจในผลโหวตนายกฯ
จนเกิดแคมเปญร่วมกันแบนธุรกิจของครอบครัวส.ว.
ที่มาที่ไป
1. จุดเริ่มต้นทั้งหมดเริ่มมาจากเหตุการณ์การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฏาคมที่ผ่านมา หลังจากผลโหวตทางการออกมาว่ามีจำนวน ส.ว.โหวตเห็นชอบให้พิธา 13 คน โหวตไม่เห็นชอบ 34 คน โหวตงดออกเสียง 159 คน และไม่เข้าประชุมอีก 43 คน
2. ประชาชนหลายคนที่มีแนวคิดตรงกันว่า ส.ว.ควรจะฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่และโหวตนายกฯ ตามฉันทามติของประชาชน ตามที่เคยทำเมื่อครั้งโหวตเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อปี 2562
3. นอกจากนั้นประชาชนหลายคนที่มีแนวคิดตรงกันยังมองว่า การโหวตงดออกเสียงและการไม่เข้าประชุมของ ส.ว. ยังเป็นการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพและสิ้นเปลืองภาษีที่จ่ายไป สุดท้ายแคมเปญ #ธุรกิจสว จึงเกิดขึ้น
เกิดอะไรขึ้นบ้างในแคมเปญนี้
4. จากนั้นชาวเน็ตมากมายก็พากันไปสืบหา ค้นประวัติส่วนตัวไปจนถึงประวัติครอบครัวของ ส.ว.ที่ โหวตไม่เห็นชอบ , โหวตงดออกเสียงและไม่เข้าประชุม ว่า ตัวของ ส.ว.คนนั้นหรือคนในครอบครัวของพวกเขาทำธุรกิจอะไรบ้าง
5. หลังจากที่รู้แล้วว่าธุรกิจที่ ส.ว.หรือคนในครอบครัวทำมีอะไรบ้าง ชาวเน็ตกลุ่มดังกล่าวก็จะนำรูปภาพกับช่องทางการติดต่อของธุรกิจเหล่านั้นมาแปะบนทวิตเตอร์พร้อมกับติด #ธุรกิจสว เพื่อให้ทราบตรงกันว่านี่คือธุรกิจของคนกลุ่มนั้นนะ
6. ณ ตอนนี้แคมเปญดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีธุรกิจของ ส.ว.และครอบครัวของ ส.ว. มากมายถูกนำมาติดในแฮชแท็กนี้ ไม่ว่าจะเป็น ตลาด บริษัทประกัน ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ปั๊มน้ำมัน คลินิก ทีมฟุตบอล ไปจนถึงร้านขายรองเท้า
7. หลายคนก็พูดไปในทางเดียวกันว่า เมื่อ ส.ว. ไม่เคารพฉันทามติของประชาชน งั้น ส.ว.และครอบครัวของพวกเขาก็ไม่ควรได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเช่นกัน
เสียงในโลกออนไลน์
8. ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งก็มองว่าการทำแคมเปญนี้มันเหมือนเป็นการพาลไปใส่คนที่ไม่เกี่ยวข้องรึป่าว (ครอบครัว ส.ว.) ในเมื่อเราไม่พอใจในตัว ส.ว.ก็น่าจะลงที่ ส.ว.เพียงคนเดียวไม่ใช่หรอ
9. แต่ถึงอย่างงั้นก็มีชาวเน็ตอีกหลายคนออกมาแย้งว่า ทุกคนที่เป็นคนในครอบครัวของ ส.ว.ควรจะได้รับผลที่ตามมาทั้งหมด เพราะเงินที่บรรดา ส.ว.นำไปต่อยอดในธุรกิจหรือแม้แต่คอนเนคชั่นต่าง ๆ ก็ล้วนเกิดจากภาษีประชาชนและตำแหน่งทางการเมือง
10. นั่นหมายความว่าธุรกิจมากมายที่อยู่ภายใต้ ส.ว.และคนในครอบครัวที่ได้รับอานิสงส์มาจากเงินและคอนเนคชั่นเหล่านี้สมควรที่จะถูกเหมารวมไปด้วยทั้งหมดนั่นเอง
นอกจากประเด็นเรื่องธุรกิจ ส.ว.แล้ว ยังมีประเด็นเรื่องธุรกิจมากมายออกมาแสดงจุดยืนว่าขอไม่ให้การบริการ ส.ว.และลูกหลานพวกเขาทุกคนอีกด้วย
ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากระแสนี้จะไปจบที่ตรงไหน หรือจะรุนแรงขึ้นอีกมากมายแค่ไหนนะครับ
ส่วนชื่อธุรกิจอย่างละเอียด ผมขออนุญาตไม่เอ่ยในบทความนะครับ
หากใครอยากทราบก็สามารถเข้าไปดูได้ในทวิตเตอร์ #ธุรกิจสว
ส่วนใครคิดเห็นยังไงก็มาแชร์กันในคอมเมนท์นะ
อ้างอิง
Twitter #ธุรกิจสว
- 124
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
