17 ก.ค. 2023 เวลา 01:00 • ท่องเที่ยว
Morteratsch

Morteratsch สถานีกลางป่า กับโรงแรมน่าพัก บนเส้นทาง Bernina Express, Switzerland

สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน หนึ่งในนั้นคือพวกเรา ครอบครัว “กลางสายทาง” ที่มีโอกาสได้ทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จด้วยการเดินทางไป Unblock ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ครั้งแรกมาแล้ว เมื่อกลางเดือนตุลาคมปีก่อน และเคยเขียนรีวิวในภาพรวมๆ ของการเดินทางรอบนั้นไว้แล้วที่ https://www.blockdit.com/posts/642987c2627d9e8adada7bd5
3
แต่จากนี้เราอยากจะนำเสนอไฮไลท์สถานที่เด็ดๆ ที่อยากจะบอกต่อ รวมถึงรายละเอียดการเดินทาง เผื่อเป็นข้อมูลให้ท่านผู้อ่านได้ใช้เป็นแนวทางในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในสวิส โดยเฉพาะในช่วงเวลาปิดเทอมเดือนตุลาคม ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีๆ ที่จะได้พาลูกๆ ออกไปสำรวจโลกกว้าง
เที่ยวแบบครอบครัวในสไตล์พวกเรา "กลางสายทาง"
แผนการเดินทางท่องเที่ยวในสวิส สำหรับทริป 8 วัน 7 คืน ถูกร่างขึ้นตั้งแต่เราต้องยื่นเป็นเอกสารเพื่อประกอบการขอวีซ่า แต่เชื่อไหมว่ารายละเอียดของแผนไม่ได้เขียนถึงภูมิภาคฝั่งตะวันออกของสวิสเลย เราเน้นไปในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ อย่าง Luzern, Interlaken และ Zermatt ปักหมุดเฉพาะยอดเขาดังๆ แทบทั้งหมด เพราะมันคือการไปสวิสครั้งแรก เราเลยต้องพึ่งพาข้อมูลเท่าที่หาได้และหาง่ายเป็นหลัก
1
แต่จุดเปลี่ยนมาอยู่ที่เราต้องเลื่อนไฟล์ทบิน มาบินไปและบินกลับก่อนกำหนดเดิม 1 วัน แพลนเที่ยวเลยต้องเลื่อนทั้งแผง ซึ่งการเลื่อนทั้งทริปเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะมันคือการต้องไล่จองโรงแรมที่พักใหม่หมด สิ่งที่เราตัดสินใจทำคือกำหนดแผนวันแรกใหม่ แล้วไปตัดวันสุดท้ายออก นั่นเลยเป็นเหตุให้เราต้องนึกถึงภูมิภาค Engadin ดินแดนฝั่งตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์
1
เมือง Chur จุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสาย Bernina Express
จากข้อมูลที่เราหาได้ สวิสช่วงกลางเดือนตุลาคม ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และโซนที่น่าจะทำให้เราได้สัมผัสความเป็นฤดู Autumn ได้มากที่สุด ก็น่าจะเป็นฝั่งตะวันออกของประเทศในแถบที่เรียกว่า Engadin นี่แหละ เนื่องจากเป็นโซนที่ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีก่อนที่อื่นๆ และน่าจะพีคในช่วงเวลาที่เราเดินทางไปพอดี
Bernina Express ก็เลยเป็นรถไฟสายชมวิวที่เราเลือกบรรจุไว้ในแผนการเดินทางของวันแรก เพราะเป็นรถไฟที่วิ่งจากเมือง Chur ไปสิ้นสุดที่เมือง Tirano ของประเทศอิตาลี ซึ่งนั่นก็คือการวิ่งผ่านภูมิภาค Engadin ในช่วงที่ต้นสนบนภูเขาจะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง คอยต้อนรับพวกเราตลอดสองข้างทางนั่นเอง นี่แค่แอบหาข้อมูลภาพถ่ายในอินเตอร์เน็ตก็แอบตื่นเต้นไม่น้อย
1
ภายในขบวนชั้น 1 ของ Bernina Express
Bernina Express เส้นทางรถไฟสายเก่าแก่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยและสูงที่สุดในยุโรป อย่างที่บอกไปแล้วว่าเริ่มต้นวิ่งจากสถานีเมือง Chur ไปสิ้นสุดที่เมือง Tirano ประเทศอิตาลี รวมระยะทาง 123 กิโลเมตร ใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 4 ชั่วโมง ผ่าน 196 สะพาน 55 อุโมงค์
ถ้าต้องการนั่งรถไฟ Bernina Express ควรต้องซื้อตั๋วและจองล่วงหน้า เพราะที่นั่งเต็มเร็วมาก เนื่องจากเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล การจองสามารถเข้าไปจองได้ในเว็บไซต์ https://tickets.rhb.ch/de/pages/bernina-express โดยค่าใช้จ่ายจะมี 2 ส่วนคือ ค่าโดยสาร และค่าจองที่นั่ง ซึ่งหากเรามี Swiss Pass ก็ไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารอีก จะจ่ายแค่ค่าจองที่นั่งประมาณ 24 CHF
1
บรรยากาศสองข้างทางเส้นทางรถไฟสาย Bernina Express
แม้ Bernina Express จะวิ่งไปถึง Tirano ในฝั่งประเทศอิตาลี แต่เราก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะนั่งไปและนั่งกลับมาเพื่อให้เข้าสู่แผนเที่ยวเดิมที่วางไว้ เราเลยต้องเลือกไปแค่ระหว่างทาง และหาจุดเพื่อนอนพัก 1 คืน แต่ข้อมูลรีวิวการท่องเที่ยวและการเข้าพักในแถบนี้หาค่อนข้างยาก อาจจะเป็นเพราะน้อยคนของนักท่องเที่ยวที่จะมา โดยเฉพาะคนไทยด้วยแล้ว ยิ่งแทบไม่มีข้อมูลเลย
2
สิ่งที่ทำได้คือการเปิด Google Map แล้วค่อยๆ ไล่หาที่พักตามแนวเส้นทางรถไฟไปเรื่อยๆ กดดูรูป เช็คราคา อ่านรีวิว (ภาษาต่างประเทศ) และแล้วเราก็มาสะดุดตากับสถานี Morteratsch และโรงแรมที่ชื่อ Gletscher-Hotel Morteratsch
1
ภาพจากเว็บไซต์ https://www.morteratsch.ch/ ที่ทำให้เราสะดุดตา
เมื่อเช็คตำแหน่งที่ตั้งแล้ว เป็นโลเคชั่นที่เหมาะกับทริปพวกเรามาก คือเดินทางไปถึงโรงแรมตามเวลารถไฟก็ราวๆ ก่อน 4 โมงเย็นเล็กน้อย และโรงแรมก็ให้เช็คอินตั้งแต่ 16:00 เป็นต้นไป เช็คราคาแล้วรับได้ แถมมีห้องที่รองรับครอบครัว 4 คนด้วย ก็ตัดสินใจไม่ยากที่จะกดจองผ่านเว็บไซต์ https://www.morteratsch.ch/
2
โรงแรม Gletscher-Hotel Morteratsch อยู่ติดกับสถานี Morteratsch เรียกได้ว่าเดินไม่ถึงสิบก้าวจากชานชาลาก็ถึงล็อบบี้โรงแรมแล้ว
1
สถานี Morteratsch อยู่บนเส้นทาง Bernina Express ก็จริง แต่รถไฟขบวน Bernina Express จะไม่จอดที่สถานีนี้ เราต้องลงที่สถานีที่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือสถานี Pontresina แล้วค่อยต่อรถไฟขบวนท้องถิ่นมาที่ Morteratsch
1
สถานี Pontresina
ตลอดเส้นทางที่เรานั่งรถไฟจาก Chur มาถึง Pontresina ด้วยขบวนรถชมวิวแบบ Panoramic ต้องบอกว่าจุใจกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางมาก แล้วยิ่งเป็นช่วงเวลาที่เหล่าต้นสนใบเล็กๆ พร้อมใจกันเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทั้งหุบเขา บวกกับความงดงามของภูมิประเทศที่รถไฟวิ่งผ่าน ช่างเป็นช่วงเวลาที่วิเศษจริงๆ จนเราแทบไม่อยากจะลงจากรถไฟ อยากนั่งต่อไปให้ถึงปลายทางฝั่งประเทศอิตาลีด้วยซ้ำ แต่เมื่อรู้ตัวว่าพลาดตั้งแต่การวางแพลนของทริปนี้แล้ว ก็ทำได้แค่ทำใจ
2
เราลงรถไฟขบวน Bernina Express ที่สถานี Pontresina แล้วต้องนั่งรอขบวนรถท้องถิ่นที่วิ่งบนรางเดียวกันนี้ไปที่ Morteratsch ซึ่งก็รอไม่นานเพราะรถไฟมาตามเวลา แล้วจากนั้นรถไฟก็วิ่งไปตามเส้นทางของ Bernina Express เราถึงได้รู้ว่า จริงๆ ขบวนรถท้องถิ่นแบบนี้ก็สามารถชมวิวสองข้างทางได้ไม่แพ้ขบวน Panoramic Train เลย วิวจาก Pontresina ถึง Morteratsch ก็ไม่ได้ลดละความสวยลงเลยแม้แต่นิดเดียว
2
Morteratsch สถานีเล็กๆ กลางป่าสวย
เรามาถึง Morteratsch ในราว 4 โมงเย็น ก็ได้เวลาที่เช็คอินเข้าโรงแรมพอดี และอย่างที่บอกว่าแค่เดินจากชานชาลาไม่กี่ก้าวก็ถึงล็อบบี้โรงแรมแล้ว เราก็ลากกระเป๋าเข้าไปติดต่อ ใช้เวลาพูดคุยไม่นานก็ได้รับกุญแจห้อง พร้อมการบอกเส้นทางเดินไปห้องพักคร่าวๆ เราถึงได้รู้ว่าโรงแรม Gletscher-Hotel Morteratsch ไม่ได้มีอาคารเดียว แต่มีห้องพักหลายรูปแบบที่กระจายอยู่ในบริเวณรอบๆ นี้
3
ห้องของเราอยู่บนอาคารสีแดงที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมลำธาร ต้องเดินจากอาคารล็อบบี้สีขาวที่อยู่ติดชานชาลารถไฟไปอีกประมาณ 50 เมตร ต้องเดินข้ามสะพานข้ามลำธารสวยที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งบนภูเขา หน้าอาคารมีลานจอดรถ มีรถจอด เราถึงได้รู้ว่าที่นี่สามารถขับรถมาได้เหมือนกัน แต่ใช้เส้นทางที่วิ่งคู่ขนานมากับเส้นทางรถไฟนั่นเอง
2
บรรยากาศโดยรอบโรงแรม Gletscher-Hotel Morteratsch
ห้องที่เราจองมาเป็นห้อง Studio ที่สอบถามมาก่อนแล้วว่าสามารถเสริมเตียงให้กับเด็กๆ ได้ แต่หลังจากที่เราเปิดประตูห้องเข้าไป ไม่ทันได้เก็บกระเป๋าหรือแม้แต่หย่อนก้นลงนั่งที่เตียง ก็มีพนักงานโรงแรมวิ่งตามมาถามว่าจะเปลี่ยนห้องไหม มีห้องที่เป็น 4 เตียง มันน่าจะนอนสบายกว่า โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เราก็เลยบอกว่าขอดูก่อน
เราเดินตามพนักงานขึ้นไปดูห้องที่เขาพึ่งเสนอให้เปลี่ยน ซึ่งอยู่ชั้นบน (ห้องแรกอยู่ชั้นล่าง) ก็พบว่าเป็นห้อง 4 เตียงจริง เป็นเตียง 2 ชั้น 2 เตียง มีห้องน้ำส่วนตัว แต่สิ่งอำนวยความสะดวกดูเหมือนจะน้อยกว่าเล็กน้อย เราชั่งใจซักพักก็ตัดสินใจเอาห้องใหม่ที่เขานำเสนอ เพราะดูแล้วเด็กๆ เขาชอบกับการได้นอนเตียงสองชั้น และอีกอย่างวิวริมหน้าต่างสวยกว่าด้วย
1
สภาพภายในห้องพัก ไม่ทันจะได้เก็บภาพสวยๆ ห้องก็รกซะแล้ว
เวลากลางวันในช่วงเดือนตุลาคมที่ยุโรปค่อนข้างน้อย พระอาทิตย์เริ่มตกเร็วขึ้น กว่าจะได้ห้อง กว่าจะเก็บสัมภาระเสร็จก็เริ่มเย็นแล้ว อากาศข้างนอกก็เริ่มจะหนาว ประกอบกับมัชฌิมมีอาการหวัดกินตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง และก็ไอมาตลอดทั้งวัน แม่ก็เลยขอให้กินยาแล้วนอนพัก ส่วนพี่มัชฌิพออาบน้ำเสร็จก็ไม่อยากออกไปไหน สุดท้ายเลยเหลือแค่พ่อคนเดียวที่ขอออกเดินไปสำรวจรอบๆ โรงแรม
Morteratsch เป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับธารน้ำแข็ง Morteratsch Gletscher ซึ่งว่ากันว่าเป็นธารน้ำแข็งที่สวยที่สุดในฤดู Autumn ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาตั้งแคมป์หรือมาพักเพื่อชื่นชมธารน้ำแข็ง Morteratsch Gletscher ซึ่งจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกทำได้หลากหลาย ทั้งการแคมปิ้งพักผ่อน การเดินเทรลเบาๆ หรือการปั่นจักรยานก็สามารถทำได้
1
บรรยากาศในฤดู Autumn โดยรอบสถานี Morteratsch
จากห้องพัก พ่อเดินแบกกล้องย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟ แล้วตัดสินใจเดินตามเส้นทางเลียบลำธารไปที่ธารน้ำแข็ง ซึ่งเป็นเส้นทางขนาดที่รถยนต์หนึ่งคันสามารถวิ่งได้ แต่อนุญาตให้แค่คนเดินและปั่นจักรยาน ตามข้อมูลที่ได้มาเส้นทางนี้เดินไปถึงตัวธารน้ำแข็งก็ระยะทางประมาณเกือบ 3 กิโลเมตร ถ้าเดินไปจริงๆ ไป-กลับ ก็น่าจะมี 2 ชั่วโมงได้ เลยคิดว่าเดินไปเท่าที่แสงพระอาทิตย์จะเป็นใจ จะหมดแสงเมื่อไหร่ก็ค่อยเดินกลับ
1
เส้นทางถือว่าเป็นมิตรกับคนทุกเพศทุกวัย อากาศก็ไม่ถือว่าหนาวมาก ทำให้เดินสบาย เลยนึกเสียดายไม่หายว่าทำไมเราไม่วางแผนเน้นหนักมาฝั่งนี้ของสวิส จะได้มีเวลาให้เด็กๆ ได้ชื่นชมธรรมชาติในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่านี้
ส่วนหนึ่งของเส้นทางระหว่างสถานีรถไฟไปยังธารน้ำแข็ง
เดินไปถ่ายรูปไป มีเพื่อนร่วมทางบ้างแต่ไม่มาก บางช่วงก็แอบขึ้นไปเนินเขาข้างทางเพื่อหามุมสวยๆ ก็พอได้มีหอบบ้าง แต่ถ้าเทียบกับความงามที่เห็นอยู่ตรงหน้า ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง และเดินมาซักระยะก็เริ่มมองเห็นธารน้ำแข็งอยู่ไกลๆ
1
เวลาของแสงเหลือน้อยลงเต็มที เลยต้องตัดสินใจหามุมที่สวยที่สุด รีบเก็บภาพธารน้ำแข็ง Morteratsch Gletscher ให้ทันเพราะไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะมีเวลากลับมาเดินอีกรอบหรือไม่
ธารน้ำแข็ง Morteratsch Gletscher ที่มองเห็นไกลๆ
โรงแรมมีมื้อค่ำนำเสนอ แต่เขาแนะนำให้สั่งและจองรอบเวลาไว้ล่วงหน้า แต่เราคิดว่าไม่น่าจะพร้อมมานั่งทาน เพราะอยากกินง่ายๆ แล้วรีบพักผ่อนดีกว่า อีกอย่างแอบดูราคาแล้วแอบแพงไปหน่อย เลยงัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่พกติดกระเป๋ามาจากเมืองไทยขึ้นมากดน้ำร้อนใส่ แล้วก็กินกันที่ห้อง พออิ่มแล้วก็เข้านอน และก็หลับไปด้วยความเพลียจากการเดินทาง
พวกเราต่างก็ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น หลังจากได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ ชนิดที่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่ฝัน อาการหวัดของมัชฌิมก็ดีขึ้น หลังจากตอนหัวค่ำแอบมีไข้ต่ำๆ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เราจัดการธุระส่วนตัว เก็บกระเป๋าพร้อมออกเดินทาง แล้วก็ลงมาเดินเล่นสัมผัสอากาศหนาวแต่เช้า พร้อมทั้งเก็บภาพแสงแรกของวัน
ยามเช้าที่ Morteratsch
ไม่ทันจะได้เดินไปไหนไกล ก็รู้สึกว่าอากาศหนาวไปหน่อย เลยขอเข้ามาหลบทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารก่อนดีกว่า รอให้แดดออกอีกซักนิดค่อยออกไปเดินถ่ายรูปเล่น
1
ห้องอาหารเช้าของโรงแรมจัดอยู่ในอาคารเดียวกันกับล็อบบี้ อาหารก็เป็นสไตล์ยุโรป ขนมปัง ครัวซองต์ ซีเรียล เนย นม แยม น้ำผลไม้ โยเกิร์ต กาแฟ และก็อะไรอีกหลายอย่างที่เราไม่คุ้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ก็เลือกหยิบเฉพาะที่คุ้นนั่นแหละมาทานกัน ก็ถือว่าอิ่มอร่อยดี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมถือว่าเด็ดมากๆ อย่างที่หลายคนเคยบอกไว้เลยว่า มาสวิสต้องลองทานผลิตภัณฑ์จากนมวัวสวิสให้ได้
2
มื้อเช้าง่ายๆ สไตล์ยุโรป
ทานมื้อเช้าเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ยามเช้า แต่ก็ไม่ได้เดินไปไหนไกล เพราะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะออกเดินทางต่อในรถไฟรอบไหน แต่ที่แน่ๆ คือ วันนี้ต้องเดินทางไกลไปให้ถึง Luzern และก็อยากแวะที่ St.Moritz ก่อนด้วย เลยต้องบริหารเวลาให้ดีๆ
เก็บภาพบรรยากาศยามเช้าเพิ่มก่อนเดินทางต่อ
อย่างที่บอกว่าการมาเที่ยวภูมิภาค Engadin ในฝั่งตะวันออกของสวิสไม่ได้อยู่ในแผนของพวกเราตั้งแต่แรก แต่เพราะเหตุจำเป็นเลยทำให้เราได้มาเยือน แต่แล้วก็กลายเป็นว่าต้องมาแอบเสียดายทีหลังว่าแบ่งเวลามาโซนนี้น้อยไปหน่อย เพราะช่วงกลางเดือนตุลาคมที่เราเดินทางไป ถือเป็นช่วงพีคของฤดู Autumn ในแถบนี้เลยก็ว่าได้
1
สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเก็บกระเป๋า เช็คเอาท์ แล้วขึ้นรถไฟรอบ 8 โมงเช้า โบกมือลาโรงแรมน่าพักอย่าง Gletscher-Hotel Morteratsch และสถานีรถไฟสวยกลางป่าที่ชื่อ Morteratsch มุ่งหน้าไป St.Moritz
เดินเล่นริมทะเลสาบ St.Moritz ส่งท้ายความพีคของฤดู Autumn ในภูมิภาค Engadin
เป็นข้อมูลที่เราอยากแชร์... ถ้าหากมาเที่ยวสวิสในช่วงเดือนตุลาคม แล้วอยากสัมผัสความเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอย่างแท้จริง ให้นึกถึงฝั่งตะวันออกของประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟสาย Bernina Expess แล้วลองใช้เวลาให้มากขึ้นในแถบนี้ด้วยการหาที่พักสวยๆ พักผ่อนซัก 2-3 คืน เพื่อจะได้มาไม่เสียเที่ยว แล้วมาเสียดายภายหลังเหมือนพวกเรา
2
พิกัด
สถานี Morteratsch
โรงแรม Gletscher-Hotel Morteratsch
ธารน้ำแข็ง Gletscher Morteratsch
ติดตามการเดินทางของพวกเราได้ที่เพจนี้ และ
โฆษณา