16 ก.ค. 2023 เวลา 09:30 • กีฬา

#MainStand : 10 อันดับการย้ายทีมของนักเตะสัญชาติอังกฤษที่มีมูลค่าสูงสุด

ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็เปิดตัว ดีแคลน ไรซ์ ไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 100 ล้านปอนด์
มาดูกันว่าดีลของ ดีแคลน ไรซ์ นั้นอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ในการย้ายทีมของนักเตะสัญชาติอังกฤษ ติดตามไปพร้อมกันกับ Main Stand
[ดีแคลน ไรซ์ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ย้ายไป อาร์เซน่อล ค่าตัว 100 ล้านปอนด์]
ดีแคลน ไรซ์ เป็นหัวใจสำคัญในการพา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก มาในฤดูกาลล่าสุด กองกลางกัปตันทีม “ขุนค้อน” รายนี้เป็นเป้าหมายสำคัญของหลาย ๆ ทีมในเกาะอังกฤษ เช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล รวมไปถึงอดีตทีมที่เขาเคยอยู่สมัยเป็นเด็กเยาวชนอย่าง เชลซี ก็ให้ความสนใจในตัว ไรซ์ เช่นกัน
แต่ทีมที่สามารถคว้าตัว ดีแคลน ไรซ์ ไปได้แก่ อาร์เซน่อล ที่ลงทุนทุบสถิติของสโมสร ด้วยราคา 100 ล้านปอนด์ คว้าตัว ดีแคลน ไรซ์ มายืนบรรชาการเกมแดนกลางในฤดูกาลหน้า โดยหากรวมแอดออนแล้วค่าตัวของ ดีแคลน ไรซ์ จะไปจบอยู่ 105 ล้านปอนด์
[แจ็ค กรีลิช แอสตัน วิลล่า ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 100 ล้านปอนด์]
อดีตกัปตันทีม แอสตัน วิลล่า รายนี้ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2021 ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ เป็นสถิติของสโมสร ทว่ากลับถูกเสียงคำวิจารณ์ถาโถมอย่างหนักในฤดูกาลแรกที่ย้ายมาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะว่าฟอร์มของ กรีลิช ยังไม่เป็นตามที่คาดหวังไว้
แต่ในฤดูกาลถัดมา กรีลิช เริ่มปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมและแผนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ดีขึ้น กลับสู่ฟอร์มเดิมที่ผู้คนต่างคุ้นเคยเหมือนกับตอนที่เขาเล่นให้กับ แอสตัน วิลล่า และยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2022-23
[จู๊ด เบลลิงแฮม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ย้ายไป เรอัล มาดริด ค่าตัว 88.5 ล้านปอนด์]
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กระชากตัว จู๊ด เบลลิงแฮม มาจาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในปี 2020 ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ในตอนนั้น เขามีอายุเพียง 17 ปี และยังไม่เคยเล่นเกมในลีกสูงสุดเลยแม้แต่เกมเดียว
ทว่าในเวลาต่อมา เบลลิงแฮมพัฒนาฝีเท้าจนเป็นอีกหนึ่งนักเตะวันเดอร์คิดที่เนื้อหอมเป็นอย่างมาก โดยมีทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายสโมสรต่างให้ความสนใจในตัวของ จู๊ด เบลลิงแฮม เช่น เรอัล มาดริด, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่เจ้าตัวจะเลือกย้ายไปสวมยูนิฟอร์ม “ราชันชุดขาว” ด้วยค่าตัว 88.5 ล้านปอนด์ แต่หากบวกแอดออนแล้ว ค่าตัวของ จู๊ด เบลลิงแฮม จะไปจบอยู่ที่ 115 ล้านปอนด์ ซึ่งจะแซงหน้าสองคนแรกไปเลย
[แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เลสเตอร์ ซิตี้ ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 80 ล้านปอนด์]
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ในปัจจุบัน แม็กไกวร์ ยังเป็นกองหลังที่มีค่าตัวมากที่สุดในประเทศอังกฤษ
ทว่าผลงานของ แม็กไกวร์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้ เมื่อเขาทำผิดพลาดให้เห็นอยู่บ่อยครั้งจนหลุดไปเป็นตัวสำรองกับสโมสร แต่กับในทีมชาติอังกฤษ แม็กไกวร์ ยังเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญของทีมชาติอยู่เสมอ
[เจดอน ซานโช่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 73 ล้านปอนด์]
ปี 2021 เจดอน ซานโช่ ได้กลายเป็นนักเตะใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากมีการเจรจากันยาวนานถึง 2 ปี โดยทีมปีศาจแดงต้องการตัวของ ซานโช่ เป็นอย่างมาก เพราะว่า ซานโช่ เป็นปีกที่ลากเลื้อยไปกับบอลได้ดี แถมยังมีส่วนร่วมกับประตูและแอสซิสต์มากอีกด้วย
แต่ฟอร์มของ ซานโช่ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นกลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้เหมือนราวกลับว่า ซานโช่ ลืมฟอร์มการเล่นของตัวเองไว้ที่ บุนเดสลีกา เยอรมัน ตลอดฤดูกาล 2021-22 และ 2022-23 ซานโช่ ยังปรับตัวไม่ได้กับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จนเหล่ากองเชียร์ “ปีศาจแดง” เริ่มพูดกันแล้วว่าควรมูฟออนกับดาวเตะผู้นี้และปล่อยตัวเขาออกจากทีม
[เมสัน เมาท์ เชลซี ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 55 ล้านปอนด์]
คงไม่มีใครจะคาดคิดได้ว่า เมสัน เมาท์ จะย้ายออกจากเชลซี เนื่องจาก เมาท์ เป็นเด็กปั้นของสโมสรที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ทว่าเมาท์เลือกที่จะปฏิเสธการต่อสัญญากับ เชลซี และเลือกไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่แข่งร่วมลีก
1
คำวิจารณ์หลากหลายต่างถาโถมเข้าใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าทุ่มค่าตัวแพงเกินไปสำหรับนักเตะที่เหลือสัญญาอีกเพียงแค่ปีเดียว แต่เรื่องนั้นต้องไปพิสูจน์กันต่อในสนาม โดยค่าตัวของ เมสัน เมาท์ รวมแอดออนแล้วจะไปจบที่ 60 ล้านปอนด์
[เบน ไวท์ ไบร์ทตัน ย้ายไป อาร์เซน่อล ค่าตัว 50 ล้านปอนด์]
50 ล้านปอนด์ คือค่าตัวที่ อาร์เซน่อล ได้กองหลังผู้นี้มาครอบครอง ในช่วงแรก ๆ ผู้คนต่างตั้งคำถามว่านักเตะที่พึ่งได้โอกาสเล่น พรีเมียร์ลีก มาเพียงแค่ 1 ฤดูกาล มีค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์เลยหรือ
เบน ไวท์ แสดงให้เห็นศักยภาพในตัวเขา กับการเป็นกำลังสำคัญมาโดยตลอดตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาร่วมทีม ด้วยการเป็นกองหลังที่เล่นได้สารพัดประโยชน์ เล่นได้ทั้งตำแหน่ง เซนเตอร์ฮาล์ฟ และ แบ็กขวา แถมฟอร์มยังดีสม่ำเสมอ ไม่มีจุดบอดอะไรให้ติ
[ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้ายไป เชลซี ค่าตัว 50 ล้านปอนด์]
สเตอร์ลิ่ง ย้ายมาอยู่ เชลซี เมื่อปี 2022 ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ แม้ว่าฟอร์มของเจ้าตัวจะไม่ได้ดีเหมือนกับสมัยเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ว่า สเตอร์ลิ่ง ก็ยังเป็นนักเตะที่เชลซีขาดไปไม่ได้
ฤดูกาล 2022-23 สเตอร์ลิ่งเป็นดาวซัลโวประจำสโมสร ทำประตูให้กับ เชลซี ไปได้ 6 ประตู จากการลงสนามไปทั้งสิ้น 28 นัด
[จอห์น สโตนส์ เอฟเวอร์ตัน ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์]
สโตนส์ ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2016 เขาเป็นกำลังสำคัญที่พา “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์มากมาย ยิ่งในช่วงท้ายฤดูกาล 2022-23 สโตนส์ ถูก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับตำแหน่งให้มายืนเป็นกองกลางตัวรับ ก่อนเป็นคีย์แมนคนสำคัญพาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย
ถ้าเราจะบอกกันว่า จอห์น สโตนส์ คือเซนเตอร์ฮาล์ฟสัญชาติอังกฤษที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ก็คงจะไม่เกินจริง ถ้าดูจากฟอร์มของเขาในเวลานี้
[อารอน วาน บิสซาก้า คริสตัล พาเลซ ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 45 ล้านปอนด์]
เจ้าของฉายา “ไอ้แมงมุม” ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ และยังมีแอดออนเพิ่มไปถึง 50 ล้านปอนด์ แต่ วาน บิสซาก้า ถูกสื่อโจมตีอย่างหนักว่าค่าตัวแพงเกินไป เพราะเพิ่งจะมีโอกาสได้ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้กับ คริสตัล พาเลซ เพียงแค่ 1 ฤดูกาลเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น วาน บิสซาก้า ยังเป็นแบ็กขวาที่มีจุดบอดในการเล่นเกมรุกมาโดยตลอด แต่ด้วยการมาของ เอริก เทน ฮาก ที่ช่วยเค้นศักยภาพของเขาได้ดีมากขึ้น วาน บิสซาก้า เริ่มเล่นเกมรุกได้ดีขึ้นผสมผสานกับความยอดเยี่ยมในการเล่นเกมรับของเขานั้น การันตีโดยผลงานที่เขาถูกเลี้ยงบอลตัวต่อตัวผ่านยากมากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป
แหล่งอ้างอิง :
โฆษณา