Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Advance Cold Room
•
ติดตาม
16 ก.ค. 2023 เวลา 11:12 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ห้องเย็นกันไฟ และ ห้องเย็นกันระเบิด
เพราะ "ห้องเย็น" ไม่ได้ถูกจัดเก็บเฉพาะอาหาร ในชีวิตประจำวันมีสิ่งมากมายที่ต้องการจัดเก็บโดยรักษาอุณหภูมิ เพื่อคงคุณภาพ ประสิทธิภาพรวมถึงความปลอดภัย
อย่างเช่นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ สารเคมี ก๊าซ ยา ไปจนถึงห้องปฏิบัติการหลายแห่ง ต้องมีการจัดการกับความปลอดภัยของ สารเคมี วัตถุอันตราย วัตถุไวไฟ ฯลฯ ที่มีความเสี่ยง และอันตรายจากการสัมผัสกับประกายไฟ หรือสามารถสะสมจนเป็นชั้นบรรยากาศที่ทำให้เกิดระเบิดได้ หากไม่มีการระบายอากาศ และการจัดการที่ดีพอ
• วิเคราะห์ความเสี่ยงในการเกิดระเบิด
1. องค์ประกอบที่ทำให้เกิดระเบิด :
ก๊าซไวไฟ และ ไอระเหยของของเหลวไวไฟ (ก๊าซระเบิด) เมื่อผสมกับอากาศจะสร้างบรรยากาศที่พร้อมต่อการระเบิดได้ และเมื่อมีแหล่งที่ทำให้เกิดประกายไฟ ก็จะทำให้เกิดระเบิดได้ในทันที
จากรูปประกอบบทความนี้ กระบวนการของการเผาไหม้ (𝗙𝗶𝗿𝗲 𝘁𝗿𝗶𝗮𝗻𝗴𝗹𝗲) เกิดจากปัจจัย 3 ประการ
• แหล่งกำเนิดประกายไฟ (𝗔 𝘀𝗼𝘂𝗿𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝗶𝗴𝗻𝗶𝘁𝗶𝗼𝗻) : เกิดจากประกายไฟฟ้าสถิตย์ไป, ประกายไฟจากชิ้นส่วนโลหะที่เสียดสีกัน หรือเครื่องมือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความร้อนเกินกำหนด
• ออกซิเจน (𝗢𝘅𝘆𝗴𝗲𝗻) : ไฟต้องการออกซิเจนเพื่อให้เกิดการเผาไหม้ (ออกซิแดนท์)
• เชื้อเพลิงในรูปของก๊าซหรือไอระเหย (𝗙𝘂𝗲𝗹) : เช่น ไฮโดรคาร์บอน ไฮโดรเจน หรือสารทำความเย็น เป็นต้น
หากขาดปัจจัยใด ปัจจัยหนึ่งข้างต้น กระบวนการของการเผาไหม้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีอีก 2 ปัจจัยที่ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นใน 𝗧𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗽𝗹𝗼𝘀𝗶𝗼𝗻 𝗽𝗲𝗻𝘁𝗮𝗴𝗼𝗻
• ส่วนผสมของเชื้อเพลิงและออกซิเจน (𝗧𝗵𝗲 𝗺𝗶𝘅𝘁𝘂𝗿𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝘂𝗲𝗹 𝗮𝗻𝗱 𝗼𝘅𝘆𝗴𝗲𝗻) :
ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ในความเข้มข้นเฉพาะ (Flammable Limits) จึงจะจุดติดไฟได้ที่อุณหภูมิและความดันที่กำหนด
• การเก็บกักของส่วนผสม (𝗖𝗼𝗻𝗳𝗶𝗻𝗲𝗺𝗲𝗻𝘁 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗺𝗶𝘅𝘁𝘂𝗿𝗲) : เมื่อเกิดการเผาไหม้ของส่วนผสม การเก็บรักษาสารในชั้นบรรยากาศ (ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด) จะทำให้เกิดแรงดันเกิน ซึ่งจะทำให้เปลวไฟที่ลุกไหม้อย่างรวดเร็วผ่านไปสู่การระเบิดได้
2. จำแนกประเภทของสถานที่อันตราย :
𝗭𝗼𝗻𝗲 𝟬 (𝗦𝗽𝗲𝗰𝗶𝗮𝗹 𝗵𝗮𝘇𝗮𝗿𝗱𝗼𝘂𝘀 𝗮𝗿𝗲𝗮𝘀)
บริเวณที่มีความเข้มข้นที่ติดไฟของก๊าซไวไฟ ไอ หรือของเหลว อยู่อย่างต่อเนื่อง หรือเป็นเวลานานภายใต้สภาวะการทำงานปกติ
𝗭𝗼𝗻𝗲 𝟭 (𝗖𝗹𝗮𝘀𝘀 𝟭 𝗵𝗮𝘇𝗮𝗿𝗱𝗼𝘂𝘀 𝗮𝗿𝗲𝗮𝘀)
บริเวณที่มีแนวโน้มว่าจะมีความเข้มข้นที่ติดไฟได้ของก๊าซไวไฟ ไอ หรือของเหลว อยู่ภายใต้สภาวะการทำงานปกติ
𝗭𝗼𝗻𝗲 𝟮 (𝗖𝗹𝗮𝘀𝘀 𝟮 𝗵𝗮𝘇𝗮𝗿𝗱𝗼𝘂𝘀 𝗮𝗿𝗲𝗮𝘀)
บริเวณที่คาดว่าจะไม่มีความเข้มข้นที่ติดไฟได้ของก๊าซไวไฟ ไอ หรือของเหลว อยู่ภายใต้สภาวะการทำงานปกติ
หากอุตสาหกรรมของคุณมีความเสี่ยงในการเกิดระเบิด จำเป็นต้องมีการจัดเก็บ วัตถุดิบ สารเคมี ฯลฯ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายเหล่านั้น ในห้องเย็นที่ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อรองรับความต้องการอย่าง
ห้องเย็นกันไฟ (𝗙𝗹𝗮𝗺𝗮𝗯𝗹𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗦𝘁𝗼𝗿𝗮𝗴𝗲) และ ห้องเย็นกันระเบิด (𝗘𝘅𝗽𝗹𝗼𝘀𝗶𝗼𝗻 𝗣𝗿𝗼𝗼𝗳 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗦𝘁𝗼𝗿𝗮𝗴𝗲)
ห้องเย็นทั้ง 2 ประเภทมีความเหมือนที่แตกต่าง ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ การจัดเก็บเฉพาะ และเพื่อลดความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ดังนี้ :
𝗙𝗹𝗮𝗺𝗮𝗯𝗹𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗦𝘁𝗼𝗿𝗮𝗴𝗲
ออกแบบมาสำหรับเก็บวัสดุหรือสารเคมีต่างๆ ที่มีความสามารถในการติดไฟได้ โดยห้องเย็นจะถูกออกแบบ และสร้างห้องเย็นด้วยวัสดุและส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย เช่น ผนังกันไฟ ทนไฟระบบระบายอากาศที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดไอระเหยหรือก๊าซที่ติดไฟได้
มักถูกใช้ในอุตสาหกรรมที่เก็บ ของเหลวไวไฟ ตัวทำละลาย สารเคมี หรือก๊าซที่ติดไฟได้ เช่น ห้องปฏิบัติการ โรงงานผลิต และคลังสินค้า ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ในการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ช่วยลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ การระเบิด และรับประกันความปลอดภัยของวัสดุที่จัดเก็บ ทั้งบุคลากร และทรัพย์สิน
• โครงสร้างที่ทนไฟ :
เช่น ผนัง พื้น และเพดานที่มีคุณสมบัติกันไฟ/ทนไฟ วัสดุเหล่านี้ได้รับการออกแบบให้ทนต่ออุณหภูมิสูงและกันไฟภายในพื้นที่จัดเก็บ และยังป้องกันการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของอาคารอีกด้วย
• ระบบระบายอากาศ :
การออกแบบการระบายอากาศที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการควบคุมและกำจัดไอระเหยหรือก๊าซที่ติดไฟได้ ผู้ออกแบบห้องเย็นต้องออกแบบระบบระบายอากาศเพื่อรักษาอัตราการแลกเปลี่ยนอากาศที่ระดับปลอดภัย ป้องกันการสะสมของชั้นบรรยากาศ สาเหตุที่ทำให้เกิดระเบิดได้
• ตู้เก็บวัตถุอันตราย (Hazardous Material Storage Cabinets) :
ขึ้นอยู่กับประเภทและปริมาณของวัสดุไวไฟที่จัดเก็บ อาจจำเป็นต้องใช้ตู้เก็บเฉพาะ ตู้เหล่านี้สร้างด้วยวัสดุที่ทนไฟ มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น ประตูปิดอัตโนมัติ ตัวจับเปลวไฟ และระบบระบายอากาศ
• การควบคุมแหล่งที่มาของการติดไฟ (Ignition Source Control) :
ภายใน Flammable Cold Storage จะถูกออกแบบเพื่อลดแหล่งที่มาของการจุดระเบิด นั่นรวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า อย่างระบบสายดิน หรือการจัดเก็บเพื่อป้องกันประกายไฟ เปลวไฟ เป็นต้น
• ป้ายความปลอดภัยและอุปกรณ์ฉุกเฉิน :
ห้องเย็นควรมีป้ายเซฟตี้ที่ชัดเจนเพื่อระบุว่ามีวัตถุไวไฟ และผู้ออกแบบ ติดตั้ง ดำเนินโครงการห้องเย็น ควรมีการอบรม ให้คำแนะนำในการจัดการหากเกิดเหตุฉุกเฉิน และมีอุปกรณ์ เช่น ถังดับเพลิง ฝักบัวฉุกเฉิน ที่เข้าถึงได้ง่ายภายในพื้นที่จัดเก็บ
• การปฏิบัติตามข้อบังคับ :
ห้องเย็นที่เก็บสารไวไฟ จำเป็นต้องปฏิบัติกฎ ข้อบังคับด้านความปลอดภัย และมาตรฐานอุตสาหกรรม และต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับห้องเย็นเก็บสารเคมีไวไฟโดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามและดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
𝗘𝘅𝗽𝗹𝗼𝘀𝗶𝗼𝗻 𝗣𝗿𝗼𝗼𝗳 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗦𝘁𝗼𝗿𝗮𝗴𝗲
ห้องเย็น Ex-Proof หรือ ห้องเย็นป้องกันการระเบิด ได้รับการออกแบบมาสำหรับจัดเก็บวัสดุหรือสารที่มีศักยภาพในการสร้างบรรยากาศที่ระเบิดได้ โดยถูกสร้างด้วยวัสดุ และ ส่วนประกอบที่สามารถทนทานและป้องกันการจุดระเบิดของก๊าซ ไอระเหย ฯลฯ ที่มีคุณสมบัติสะสมบรรยากาศจนเกิดการระเบิดได้
ห้องเย็นกันการระเบิด จะใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น 𝗥𝗲𝗶𝗻𝗳𝗼𝗿𝗰𝗲𝗱 𝘄𝗮𝗹𝗹𝘀, 𝗘𝘅𝗽𝗹𝗼𝘀𝗶𝗼𝗻-𝗽𝗿𝗼𝗼𝗳 𝗹𝗶𝗴𝗵𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗳𝗶𝘅𝘁𝘂𝗿𝗲𝘀 (โคมไฟกันระเบิด) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟ
เช่น โรงงานปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน ห้องเก็บสารเคมี คลังน้ำมัน โกดังเก็บวัตถุไวไฟ และปั๊มก๊าซ ไปจนถึงการออกแบบระบบระบายอากาศที่ป้องกันการสะสมของสารที่ระเบิดได้
• การก่อสร้าง :
ใช้วัสดุเสริมความแข็งแรงและไม่เกิดประกายไฟ และผนังเสริมที่สามารถทนต่อแรงดันจากการระเบิดที่อาจเกิดขึ้นได้ ผนัง พื้น และเพดานได้รับการออกแบบมาให้ป้องกันการระเบิดภายในพื้นที่จัดเก็บ
• อุปกรณ์ไฟฟ้า :
อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ Explosion-proof จะถูกนำมาใช้ในห้องเย็นเพื่อป้องกันประกายไฟ หรือการอาร์กไฟ (electrical arcs) ที่อาจจุดระเบิดกับก๊าซ ไอระเหย ฯลฯ ได้
ซึ่งรวมถึงการติดตั้งไฟส่องสว่าง สวิตช์ เต้ารับ และสายไฟที่ป้องกันการระเบิด ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษและปิดผนึกอย่างดี เพื่อป้องกันการปล่อยประกายไฟหรือความร้อน
• การระบายอากาศ :
การออกแบบระบายอากาศที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในห้องเย็นกันระเบิด เพื่อป้องกันการสะสมของสารที่ระเบิดได้ ระบบระบายอากาศได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันการสะสม และกำจัดก๊าซหรือไอระเหยที่อาจระเบิดได้ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
• Sealing :
พื้นที่จัดเก็บ หรือห้องเย็นจะถูกซีลอย่างระมัดระวัง เพื่อลดการเข้ามาของแหล่งกำเนิดประกายไฟหรือสารระเบิดจากภายนอก ซึ่งรวมถึงประตู หน้าต่าง ที่ทำให้ก๊าซหรือไอระเหยผ่านเข้าไปได้
• ระบบตรวจสอบ :
ห้องเย็นต้องมี Monitoring Systems ป้องกันการระเบิดอาจมีระบบตรวจสอบหลายระบบเพื่อตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เช่น อุณหภูมิ ระดับก๊าซ และความดัน ระบบเหล่านี้จำเป็นต้องให้ข้อมูลตามอย่าง Real-Time เพื่อตรวจจับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
ห้องเย็นกันการระเบิด หรือ ห้องเย็น Ex-Proof มักใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิตสารเคมี โรงกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ยา หรือ อุตสาหกรรมที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงในการเกิดบรรยากาศที่ระเบิดได้
สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย มาตรฐานอุตสาหกรรม และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปฏิบัติตามและดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
#สรุป :
เพราะ "ทุกสิ่ง" ที่เก็บในห้องเย็นเหล่านี้ มีมูลค่าสูง ไม่ว่าจะเป็น 𝗙𝗹𝗮𝗺𝗮𝗯𝗹𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 หรือ 𝗘𝘅𝗽𝗹𝗼𝘀𝗶𝗼𝗻 𝗣𝗿𝗼𝗼𝗳 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 จึงจำเป็นต้องออกแบบ และควบคุมการสร้างจากวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์การสร้างห้องเย็นแบบพิเศษ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจคุณ
𝗔𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 (𝗔𝗖𝗥) เราให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านห้องเย็น ประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ทั้งในและต่างประเทศ ในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งจะสามารถประเมินข้อกำหนดเฉพาะให้สอดคล้องกับความต้องการ ต้นทุน และความปลอดภัยได้
Line id : @advancecool หรือคลิก
https://lin.ee/Uv6td2a
Website :
www.advancecoldroom.com
Email :
info@advancecoldroom.com
.
#ExProofColdRoom #FlamableColdRoom #ห้องเย็นกันระเบิด #ออกแบบห้องเย็น #รับสร้างห้องเย็น #Coldroom #ColdStorage #ห้องแช่แข็ง
เทคโนโลยี
เกร็ดความรู้
ความรู้รอบตัว
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย