17 ก.ค. 2023 เวลา 12:25 • ข่าว

สรุป #แสนปิติ

แสนปิติร่ายยาวถึงสถานการณ์ระหว่างเพื่อไทย-ก้าวไกล
ซัดแรงมีแค่เด็กเหลือขอที่อยากเห็นพิธาเป็นนายกฯ
4
เริ่มเรื่อง
3
1. เรื่องราวทั้งหมดเริ่มจากที่นายแสนปิติ (อดีตผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทยและลูกชายของ อ.ชัชชาติ ) ทำการโพสต์ข้อความลงในสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว
2
2. หัวข้อของการโพสต์ของแสนปิติคือแนวคิดและความเห็นของตนเองเรื่องสถานการณ์การเมืองปัจจุบันระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล
3. การโพสต์ข้อความของแสนปิติก็ไม่ต่างจากการวิเคราะห์หรือแสดงความเห็นทางการเมืองเหมือนคนอื่น ๆ แต่แล้วมันก็กลายเป็นประเด็นขึ้นเพราะชาวเน็ตหลายคนโดยเฉพาะแฟนคลับก้าวไกลมองว่าข้อความของแสนปิตินั้นเป็นการแสดงออกโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จใด ๆ เลย
6
ข้อความของแสนปิติโดยสรุป
4. ณ ตอนนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 จะไม่มีวันเกิดขึ้น และนายพิธาก็ไม่มีวันได้เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงมองว่า หากก้าวไกลยังคงฝืนส่งพิธาเป็นนายกฯ ก้าวไกลก็จะไม่มีวันชนะเลยแม้แต่ครั้งเดียว
9
5. ก้าวไกลและเพื่อไทยได้คะแนนต่างกันแค่ 10 เสียง นั่นหมายความว่าตอนนี้ก้าวไกลควรจะถอยและให้เพื่อไทยขึ้นเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วเพราะก้าวไกลใช้โอกาสไปหมดแล้ว ถ้าก้าวไกลอยากให้ตนทบทวนจุดยืนของตัวเองเลือกตั้งครั้งหน้าก็ลองชนะให้ได้สัก 65% เหมือนตอนพรรคไทยรักไทยปี 2548 สิ
10
6. ก้าวไกลไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นไปได้ นายทุนหรือองค์กรอื่น ๆ ขนาดใหญ่ไม่ต้องการให้ก้าวไกลมีอำนาจ จากที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถสรุปได้ว่า ไม่มีใครต้องการให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล ยกเว้นกลุ่มเด็กเหลือขอและพวกเด็กที่ไม่เคารพเชื่อฟังใครเท่านั้น
19
7. พรรคก้าวไกลมีอายุแค่ประมาณ 2 ปี และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่อนาคตใหม่-ก้าวไกล) ผู้บริหารของพรรคก็ล้วนถูกดำเนินคดีและตัดสิทธิ์ทางการเมือง นั่นหมายความว่าพิธาก็อาจจะโดนด้วยเหมือนกัน
5
8. แสนปิติทิ้งท้ายว่า ตนยังคงมีจุดยืนในเรื่องการเป็นโปรประชาธิปไตย และไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยจับมือกับ พลเอก ประวิตร , อนุทิน และพรรครวมไทยสร้างชาติ
2
ขึ้นเทรนทวิตเตอร์
9. จากนั้นไม่นานสตอรี่อินสตาแกรมของแสนปิติก็ถูกสื่อ อินฟลูเอนเซอร์ และชาวเน็ตมากมายแคปมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม
7
10. ฝั่งแฟนคลับเพื่อไทยก็มองว่า แสนปิติแสดงความคิดเห็นได้แรงและตรงจุดมาก ทุกอย่างที่แสนปิติพูดออกมาล้วนเป็นความจริงที่หลายคนมองไม่เห็น
3
11. ฝั่งแฟนคลับก้าวไกลก็แย้งว่า สิ่งที่แสนปิติพูดนั้นเป็นเหมือนการแสดงความเห็นแบบไม่รู้อะไรเลย แสนปิติพูดเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาก้าวไกลไม่มีผลงานอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่ประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ถูกแฉออกมาก็ล้วนออกมาจากก้าวไกล
3
12. แน่นอนว่าแสนปิติสามารถแสดงความเห็นออกมาได้เพราะมันเป็นสิทธิพื้นฐานของแสนปิติ แต่การออกมาแสดงความเห็นเชิงพาดพิงทั้ง ๆ ที่ข้อมูลไม่แน่นมันก็ไม่แปลกที่จะถูกกระแสตีกลับ
2
13. ประโยคที่ดูเหมือนจะเป็นดราม่าที่สุดและถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างคือประโยคที่ว่า "คนที่อยากให้พิธาเป็นนายกฯ คือกลุ่มเด็กเหลือขอและพวกเด็กที่ไม่เคารพเชื่อฟังใครเท่านั้น"
10
14. ในประเด็นนี้ชาวเน็ตหลายคนต่างมองไปในทำนองว่า กลุ่มเด็กเหลือขอที่แสนปิติพูดถึงก็คือกลุ่มเดียวกันกับที่กาเลือก อ.ชัชชาติมานั่นแหละ .. ในประเด็นนี้หลายคนนำตัวเลขจากสถิติเลือกผู้ว่าฯ กทม. ที่ผ่านมากับสถิติเลือกพรรคก้าวไกลมาเทียบกัน
5
แสนปิติ
15. หลังจากที่ดราม่ามันเริ่มจะลุกลามไปไกล แสนปิติก็ได้ทำการลบสตอรี่อินสตาแกรมดังกล่าวออกทันที ก่อนจะโพสต์คลิปวิดีโอถึงเหตุการณ์นี้โดยมีเนื้อความโดยสรุปคือ
1
16. ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนก่นด่าการแสดงความเห็นของตนขนาดนั้น ในเมื่อสิทธิในการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน การที่ตนต้องถูกด่าขนาดนี้มันดูไม่แฟร์เอามาก ๆ
5
เรื่องราวก็ประมาณนี้ครับ
ส่วนใครคิดเห็นยังไงก็มาแชร์กันแบบสุภาพในคอมเมนท์นะ
ปล. ตอนนี้แสนปิติทำการซ่อนโพสต์และลบรูปโปรไฟล์ของตนในอินสแกรมแล้ว
อ้างอิง
Twitter #แสนปิติ
โฆษณา