18 ก.ค. 2023 เวลา 06:30 • ความคิดเห็น
เรื่องความอยากก็เป็นอารมณ์ ความต้องการก็เนื่องมาจากอารมณ์..ที่ครอบงำจิต มันเป็นอารมณ์ไปเสียทั้งหมด คราวนี้ เมื่อเรา ..อยากต้องการ ที่จะประพฤติปฏิบัติธรรม..เราก็ต้องทำจิตทำใจ เสียก่อน ..เหมือนกับการไป นั่งภาวนา ..เราก็อาศัยอารมณ์นึกคิด นำพาไปกระทำ เพราะอยากอีกเหมือนกัน ..ไปทำจิตทำใจ .เพื่อที่จะปลดเปลื้องเรื่ิองราวของอารมณ์
เมื่อเราเข้าไปหมวดเวลาของการประพฤติปฏิบัติธรรม เริ่มตั้งแต่ไปนั่งหน้าพระ เราก็บอกตัวเอง ว่าเรานำกายพ่อแม่มากราบพระสวดมนต์ภาวนา เราพูดให้วิญญาณหูเราได้ยิน ส่งไปให้จิต ..ให้จิตติ่นรับรู้ขึ้นมา ว่าเวลานี้เราจะทำอะไร ..เราก็ต้องบอกจิตของตัวเราเอง ..สำรวจตรวจสอบเรื่อนกายนิ่ง ตั้งตรงคอไม่เอนเอียง .นั่งสำรวจเรือนกายตัวเอง หายใจลึกๆ ปล่อยลมหายใจจออก ..ทำสักสองสามครั้ง สำรวจตัวเอง หายใจเข้า ..กั้นลมหายใจ .
ดูกายนิ่งมั้ย พอกายนิ่งก็บอกตัวเอง ว่าจิตเฉย . จิตจะมีแต่คำภาวนา พุทโธ อยู่กับพระ ไม่มีอารมณ์นึกคิด แล้วก็ภาวนาไป ..อารมณ์อะไรเกิดขึ้น ไม่ไปยึดถือ หลงลืม คำภาวนา นั่นก็เป็นเรื่องของอารมณ์ ดึงจิตให้ไปยึดถืออารมณ์ ..นั่งปฏิบัติธรรมแถบตาย จิตก็เป็นทาสอารมณ์นึกคิด ไม่ได้สติของจิตเลย นั่นก็คือ เมื่อมานั่งปฏิบัติธรรม ก็ต้องทำให้กายมันนิ่ง กายนิ่งได้ จิตก็จะนิ่งตามกาย..(ต้องนั่งพับเพียบด้วย)
นั่นก็คือเรื่องของสติของจิตที่จะบังคับกายให้นิ่ง .ทำจิตเฉยๆ .เพื่อสลัดละอารมณ์ออกไป มีเวทนาปวดเมื่อย ก็ใช้ความขันติ บังคับกาย..ให้อยู่กับที่ จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนเด จึงขยับเขยื้อนกาย.เมื่อเราทำได้ มันก็ได้เรื่องราวทั้งเรื่องความขันติ มีทุกขเวทนา เกิดขึ้น เราก็ต้องไม่ไปยึดทุกขเวทนา ขันติอดทน เพื่อจะผ่านเวทนา..ด้วยสติสัมปชัญญะรักษากายนิ่ง กายให้ตั้งตรง ให้จิตผ่านพ้นเวทนาตามที่กำหนดเวลา.เพราะเวทนาเกิดขึ้นเนื่องมาจากกรรม มันทุกข์แทบขาดใจ ก็ต้องขันติอดทน จากอารมณ์กรรมภายใจจิต ที่มีเวทนาอะไรเกิดขึ้น
นั้นคือ อารมณ์ที่เราต้องปลดเปลื้องเราราวของอารมณ์ออกไป เอาจิตมาอยู่กับคำภาวนา จิตจะได้มีบารมี หลีกหนีอารมณ์กรรม
การที่ทำกายนิ่ง จิตเฉย มีสติสัมปชัญญะ สำรวจเรื่องราวภายในกาย ..ว่าต่อไปนี้ เราจะหยุดยั้งเพื่อปลดเปลื้องเรื่องราวของอารมณ์ออกไป..เราต้องบอก จิตตัวเราเอง.ให้รับรู้ พูออกไปเป็นคำพูดของตัวเอง ท่านบอกว่า เวลาเราไปสร้างกรรม ก็ทำเสียเต็มที่ แต่เวลานำกายมาปฏิบัติธรรม .ที่จะช่วยสลัดละอารมณ์ออกไป สลักอารมณ์ออกไป . สลัดอารมณ์กรรมออกไป กลับไม่อยากทำ ..สิ่งที่เป็นอุปสรรค ก็คือ ตัวขี้เกียจ สวดมนต์ ภาวนาปฏิบัติธรรม ..เมื่อขี้เกียจ..สวดมนต์ปฏิบัติธรรม จิตเรามาก็ ไปอยู่กับอารมณ์ของโลกที่ให้ความรู้สึกนึกคิด ..
ฉะนั้น เวลาปฏิบัติธรรม ก็ต้องทำให้เต็มที่ เหมือนเราเอากายไปสร้างกรรม..ก็สั่งให้กายกระทำเต็มที่เลย แต่เวลาจะเอากายมาสร้างบุญกุศลบารมี กับไม่ทำเต็มที่ เต็มใจที่จะกระทำ ..ทำแบบเสียไม่ได้ ..มันก็ไม่มีประโยชน์…คือ ฝืนกายฝืนอารมณ์ไม่ได้เลย ..
โฆษณา