[MarketThink] ในเมื่อคนส่วนใหญ่เป็น Introvert แล้วการตลาดแบบไหน โดนใจคนกลุ่มนี้ ? “อินโทรเวิร์ต” คือบุคลิกภาพชนิดหนึ่ง โดยคนกลุ่มนี้จะมีลักษณะชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียว เพราะรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ตามลำพัง และจ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

18 ก.ค. 2023 เวลา 11:30 • การตลาด

ในเมื่อคนส่วนใหญ่เป็น Introvert แล้วการตลาดแบบไหน โดนใจคนกลุ่มนี้ ?

“อินโทรเวิร์ต” คือบุคลิกภาพชนิดหนึ่ง โดยคนกลุ่มนี้จะมีลักษณะชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียว เพราะรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ตามลำพัง และจะไม่ค่อยชอบเข้าสังคมเท่าไรนัก

ซึ่งบุคลิกภาพแบบนี้ จะตรงกันข้ามกับ “เอกซ์โทรเวิร์ต” หรือกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเข้าสังคมเป็นชีวิตจิตใจ ชนิดที่เรียกว่า ต่างกับชาวอินโทรเวิร์ต แบบหน้ามือกับหลังมือ

อย่างไรก็ตาม มีสถิติที่น่าสนใจว่า ในช่วงหลัง ๆ เริ่มมีคนบอกว่าตัวเองเป็นคน “อินโทรเวิร์ต” มากกว่า “เอกซ์โทรเวิร์ต” ในสัดส่วนที่ค่อนข้างชัดเจน

ยกตัวอย่างเช่น

- Tinder แอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดัง เคยให้ข้อมูลว่า คนส่วนใหญ่ในแอป ระบุว่าตัวเองเป็น “อินโทรเวิร์ต” มากกว่า “เอกซ์โทรเวิร์ต” ถึง 33%

- บน TikTok มีคนใช้แฮชแท็กคำว่า “อินโทรเวิร์ต” มากกว่า 19 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว ในช่วงที่ผ่านมา

ดังนั้น ในแง่ของการตลาด ถ้าให้ความสำคัญกับกลุ่มคนอินโทรเวิร์ต ก็น่าจะมีโอกาสดี ๆ ซ่อนอยู่ไม่น้อย

โดยในบทความนี้ MarketThink จะมาสรุปกลยุทธ์ที่เหมาะจะใช้กับคนอินโทรเวิร์ต พร้อมยกตัวอย่างให้ฟังแบบง่าย ๆ

ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจก่อนว่า จริง ๆ แล้ว คนอินโทรเวิร์ตไม่ได้เกลียดการเข้าสังคม

แค่คนกลุ่มนี้ จะรู้สึกว่าตัวเองต้องใช้พลังงานเยอะ ในการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ มากกว่าคนทั่วไปเท่านั้นเอง

พูดให้เห็นภาพคือ คนอินโทรเวิร์ต จะเป็นคนประเภทที่เวลาไปซื้อของในร้าน จะชอบเดินดูสินค้าคนเดียวเงียบ ๆ มากกว่าที่จะให้มีคนมาคอยเดินตามเพื่อแนะนำสินค้า

“Low Interaction Marketing” จึงค่อนข้างเหมาะกับการนำมาใช้กับกลุ่มคนอินโทรเวิร์ตมาก ๆ

เพราะการตลาดในยุคนี้ จะมีตัวเลขหนึ่ง ที่ใช้วัดผลว่าแบรนด์ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน หรือที่เรียกว่า “Conversion Rate”

โดยตัวเลข Conversion Rate จะบอกเราว่า จากยอดผู้ที่เห็นโฆษณาหรือสื่อของแบรนด์นั้น สามารถเปลี่ยนไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่แบรนด์ต้องการได้กี่เปอร์เซ็นต์

ยกตัวอย่างเช่น จากผู้เข้าชมเว็บไซต์ 100 คน มีคนซื้อสินค้า 10 คน จะเท่ากับว่า Conversion Rate ของแบรนด์คือ 10%

และเพื่อเพิ่ม Conversion Rate หลายแบรนด์จึงนิยมใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “การตลาดแบบโต้ตอบ (Interaction Marketing)” ที่จะเน้นการทำให้กลุ่มเป้าหมาย มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ให้ได้มากที่สุด

เช่น การออกบูท หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ

ทำให้คนอินโทรเวิร์ต ที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ก็จะไม่ค่อยซื้อไอเดียนี้เท่าไร

ดังนั้น Low Interaction Marketing ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีแนวทางคล้าย ๆ กัน

แต่จะเน้นการทำให้กลุ่มเป้าหมาย สามารถมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับแบรนด์ได้ในช่องทางต่าง ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากเกินไป ซึ่งจะเหมาะสมมากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น

- คอยส่งอีเมลแจ้งข่าวสารและโปรโมชันใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเป็นระยะ ๆ ไม่ถี่จนเกินไป

- อัปเดตเรื่องราวต่าง ๆ บนสื่อโซเชียลของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องรอให้ลูกค้ามาถามเอง

- เขียนบล็อกหรือบทความต่าง ๆ ให้คนกลุ่มนี้ สามารถศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสื่อสารกับใคร

- เพิ่มระบบอัตโนมัติต่าง ๆ เพื่อลดขั้นตอนที่ลูกค้าต้องคุยกับมนุษย์ให้ได้มากที่สุด เช่น Chatbot หรือการตอบกลับอัตโนมัติ

- เพิ่มตัวเลือก Self-Service โดยบอกขั้นตอนอย่างละเอียด อย่าให้ลูกค้าต้องพยายามไปถามซ้ำ

พูดง่าย ๆ คือ พยายามเพิ่มตัวเลือกที่จะทำให้ลูกค้า ไม่ต้องติดต่อกับคน ให้ได้มากที่สุด

ทีนี้ เรามาดูตัวอย่างชัด ๆ ของแบรนด์ที่ทำการตลาด ได้โดนใจเหล่าอินโทรเวิร์ตกันบ้าง

1) ร้านราเม็ง A Ramen (หรือหลายคนนิยมเรียกว่า ร้านราเม็งข้อสอบ) ที่จะออกแบบร้านให้สามารถนั่งทานคนเดียวได้ คล้ายกับการนั่งในคูหากาข้อสอบ

2) แอป QueQ ที่เกิดมาเพื่อให้ลูกค้า สามารถจองคิวร้านอาหารที่คนเยอะได้ โดยไม่ต้องไปยืนรอต่อคิวหน้าร้าน

นอกจากนี้ คนอินโทรเวิร์ตจะค่อนข้างไม่ชอบการตื๊อแบบหนัก ๆ หรือการโทรตามจิก

เพราะเมื่อคนเหล่านี้ สงสัยหรือมีคำถาม ก็จะทักกลับไปถามเองมากกว่า

สิ่งที่แบรนด์ต้องทำ ก็คือ เตรียมข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ให้พร้อม เพื่อที่พวกเขาจะสามารถหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง

ที่สำคัญคือ ควรใช้การ “แนะนำ” แทนการ “ชี้นำ”

เพราะกลุ่มคนอินโทรเวิร์ต จะรู้สึกสบายใจ และตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ถูกบีบบังคับจนเกินไป

สุดท้ายนี้ การทำการตลาดเพื่อจับกลุ่มคนอินโทรเวิร์ต ไม่ได้หมายความว่า แบรนด์จะต้องทิ้งลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ เสมอไป

เพราะการเพิ่มตัวเลือกเหล่านี้ เข้าไปให้กลุ่มคนอินโทรเวิร์ตสามารถมาใช้บริการได้อย่างไหลลื่น จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

เห็นได้จากร้านสุกี้ตี๋น้อย ร้านบุฟเฟต์ ที่คนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยนิยมไปทานคนเดียวก็จริง

แต่ทางร้านก็ยังมีตัวเลือก เป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไว้ในทุก ๆ สาขานั่นเอง..

------------------------------

ในเมื่อคนส่วนใหญ่เป็น Introvert แล้วการตลาดแบบไหน โดนใจคนกลุ่มนี้ ?

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน