21 ก.ค. 2023 เวลา 11:30 • ธุรกิจ

วิเคราะห์ ทำไม Threads จึงพ่ายแพ้ ให้กับ Twitter แม้จะเปิดตัวแรง ในช่วงแรก

100 ล้านบัญชี คือสถิติจำนวนผู้ใช้งานที่ Threads แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน้องใหม่ ของ Meta ทำได้ ภายในระยะเวลา 4 วัน หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
1
ตัวเลขสถิติที่ Threads ทำได้นี้ นับว่าน่าตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อเทียบกับสถิติของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่กว่าจะมีผู้ใช้งานอยู่ในระดับ 100 ล้านบัญชีได้ ต้องใช้เวลาที่ยาวนานกว่ามาก เช่น
- Twitter ใช้เวลา 5 ปี 5 เดือน
- Facebook ใช้เวลา 4 ปี 6 เดือน
- Instagram ใช้เวลา 2 ปี 6 เดือน
- TikTok ใช้เวลา 9 เดือน
- ChatGPT ใช้เวลา 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Meta จะประสบความสำเร็จกับ Threads ในช่วงเปิดตัวอย่างล้นหลาม จนถูกจับตามองว่า Threads น่าจะแย่งฐานผู้ใช้งานจาก Twitter ที่กำลังเจอปัญหามากมาย ได้ไม่ยาก
แต่ล่าสุด เรื่องนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ อย่างที่หลายคนเคยคิด อีกต่อไปแล้ว..
เพราะจากข้อมูลปัจจุบัน พบว่า จำนวนผู้ใช้งานประจำวัน (Daily Active Users) ของ Threads ลดลง จาก 49 ล้านบัญชี เหลือเพียง 23.6 ล้านบัญชี ภายในระยะเวลาเพียง 7 วัน
2
ในขณะที่ ระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ย ก็ลดลงจาก 21 นาทีต่อวัน เหลือเพียง 6 นาทีต่อวัน เท่านั้น..
1
หรือนั่นก็หมายความว่า กระแสของ Threads มาแรง เพียงแค่ช่วงแรก ๆ ที่คนทั่วโลก “เห่อ” กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นของใหม่
แต่กลับไม่สามารถดึงดูดให้ผู้ใช้งาน อยู่ในแพลตฟอร์มได้ในระยะยาว..
ซึ่งในบทความนี้ MarketThink จะพาไปเจาะลึก ถึงสาเหตุเบื้องหลัง ที่ทำให้กระแสของ Threads มาแรงในช่วงแรก ๆ แต่กลับหายไป อย่างรวดเร็ว
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การจะแย่งฐานผู้ใช้งานจาก Twitter นั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะต้องยอมรับกันตามตรงว่า Twitter เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่มีความเก่าแก่ และก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2006
ทำให้ Twitter ไม่ใช่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียธรรมดา ๆ แต่เป็นเหมือน “สังคม” ที่ผู้ใช้งานมีความผูกพัน และสร้างฐานผู้ติดตามที่รู้จักกัน มาอย่างยาวนานนับ 10 ปี
รวมถึงปัจจัยทางด้านความเคยชินกับการใช้งานและฟีเชอร์ ของ Twitter ทำให้การ “หักดิบ” เปลี่ยนมาใช้งาน Threads ทดแทนในทันที อาจไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ
แต่สาเหตุที่ทำให้ Threads มีจำนวนผู้ใช้งานเกิน 100 ล้านบัญชี ภายในระยะเวลาเพียง 4 วัน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความ “ง่าย” ในการสร้างบัญชีผู้ใช้งาน
ที่ Meta ตั้งใจทำให้บัญชีผู้ใช้งานของ Threads เชื่อมต่อเข้ากับบัญชีผู้ใช้งานของ Instagram ที่มีอยู่เดิม
ทำให้ผู้ใช้งาน Instagram เดิมที่มีอยู่ในหลักพันล้านบัญชี สามารถใช้งาน Threads ได้ทันที
1
แต่ความง่ายที่ว่านี้ ก็ตามมาด้วย “ข้อเสีย” ที่เป็นเหมือนดาบสองคม เช่นเดียวกัน
เพราะอย่าลืมว่า ทั้ง Instagram และ Threads เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก โดย Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการโพสต์รูปภาพ คลิปวิดีโอ และคลิปวิดีโอสั้น
2
ในขณะที่ Threads เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่เน้นไปยังการโพสต์ข้อความตัวอักษร เป็นหลัก
นั่นทำให้ “กลุ่มเป้าหมาย” ของ Instagram และ Threads แตกต่างกัน กล่าวคือ ผู้ที่ชอบใช้ Instagram ไม่ได้จำเป็นต้องชอบใช้ Threads ตามไปด้วย
1
และคงมีผู้ใช้งาน Instagram จำนวนไม่น้อย ที่เลิกใช้ Threads หลังจากได้ทดลองใช้งานมาสักพักหนึ่ง และค้นพบว่า Threads ไม่ใช่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่ตรงกับแนวทางของตัวเอง
1
นอกจากนี้ การเชื่อมต่อระหว่างบัญชีผู้ใช้งานของ Instagram และ Threads นั้น ยังมีข้อเสียที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ
แม้ผู้ใช้งาน Instagram หลาย ๆ คน อาจเป็นผู้ใช้งาน Twitter ไปพร้อม ๆ กัน
แต่ต้องยอมรับว่า “ตัวตน” ของผู้ใช้งาน ที่แสดงออกบนแต่ละแพลตฟอร์มนั้น มีความแตกต่างกันไป
ทำให้ผู้ใช้งาน Threads อาจไม่สบายใจ ที่จะให้ผู้ติดตาม ซึ่งเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนใกล้ตัว ของตัวเอง ที่เคยติดตามกันบน Instagram เห็นคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่อยู่บน Threads ก็เป็นได้
1
ในขณะที่ Twitter เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่มีความเป็นอิสระ ไม่ได้เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ นั่นหมายความว่า ผู้ใช้งาน Twitter สามารถแสดงตัวตนของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่มากกว่า
ทำให้ในท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ทดลองใช้งาน Threads ทดแทน Twitter ก็อาจตัดสินใจย้ายกลับมาใช้งาน Twitter เช่นเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น ระบบอัลกอริทึม ที่ใช้ในการคัดเลือกคอนเทนต์ มาแสดงที่หน้าฟีดของ Threads ก็มีส่วนเช่นเดียวกัน
เพราะหากลองใช้เวลาสัก 5 นาที ไปกับการเลื่อนดูคอนเทนต์ที่หน้าฟีด จะพบว่า หน้าฟีดของ Threads เต็มไปด้วยคอนเทนต์ จากทั้งดารา นักแสดง และอินฟลูเอนเซอร์ ที่เราไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่เคยกดติดตามทั้งสิ้น
แถม Threads ยังไม่มีฟีเชอร์ที่ให้ผู้ใช้งาน เลือกดูเฉพาะคอนเทนต์จากผู้ที่กดติดตามเพียงอย่างเดียว
2
ซึ่งปัญหานี้ ทำให้ผู้ใช้งาน เกิดความรู้สึกว่า ตัวเองไม่มีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้อง กับสังคมของ Threads เลย
นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ เทรนด์การบริโภคคอนเทนต์ ของคนในยุคปัจจุบัน “เปลี่ยนไป” จากเดิมที่เคยนิยมบริโภคคอนเทนต์ประเภทข้อความตัวอักษร และรูปภาพ
1
สู่การบริโภคคอนเทนต์ประเภทคลิปวิดีโอ และคลิปวิดีโอสั้น กันมากขึ้น เห็นได้จากการเติบโตของแพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram Reels ในช่วงที่ผ่านมานี้
แม้แต่ Twitter เอง ก็ถูกแพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้น ทั้ง TikTok และ Instagram Reels แย่งเวลาการใช้งานไปด้วยเช่นกัน
ทำให้ Threads ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน้องใหม่ ที่เน้นการสื่อสารผ่านข้อความตัวอักษร อาจไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มที่คนในยุคนี้ต้องการเพิ่มมากนัก เพราะ Twitter ก็ครองตลาดนี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2
เมื่อนำปัจจัยทั้งหมดมารวมกัน จึงไม่น่าแปลกใจนัก ที่ทำไม Threads จึงมีจำนวนผู้ใช้งานที่สูงมากจนทำลายสถิติในช่วงแรก
ก่อนจะลดลงมา สู่ระดับ “ความเป็นจริง” ในช่วงหลัง เพราะหลังจากที่ได้ทดลองใช้ Threads ด้วยกระแสที่มาแรง ใคร ๆ ก็ต้องลองเล่น
กลับพบว่า Threads นั้น ยังไม่มีจุดเด่น และลักษณะเฉพาะตัวที่มากพอ ที่จะดึงดูดให้ผู้ใช้งาน อยู่บนแพลตฟอร์ม ในระยะยาว..
1
โฆษณา