24 ก.ค. 2023 เวลา 07:14 • ปรัชญา

Dark Night of The Soul🖤 คือปรากฏการณ์อะไร สำคัญอย่างไรกับการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ

Dark Night of The Soul ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เข้มข้นมาก ๆ สำหรับการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ ช่วงเวลาแบบนี้ สามารถเรียกได้ว่า เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ของการตื่นรู้เลยก็ว่าได้
ทำไมฉันถึงให้เหตุผลเช่นนั้น ?
.
เพราะช่วงเวลาดังกล่าว มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของบุคคลผู้นั้นที่ได้รับการทดสอบ ค่ำคืนนี้ ไม่ได้หมายถึง ช่วงเวลาตอนกลางคืนหรอกหนา แต่มันคือ การเรียกชื่อ ของช่วงเวลาที่เราเรียก "ด้านมืดที่สุดของตัวเราเอง" ออกมาต่างหาก
ช่วงเวลาแห่งนี้ มักเป็นแหล่งรวมศูนย์ เรียกพลังงานแห่งความเลวร้าย ที่เราพยายามปกปิด และ กักขังพวกเค้าไว้มาโดยตลอด ให้หลุดรอดจากกรงขังออกมา
ตัวตนใดก็ตาม ที่เราไม่อนุญาตให้มันได้เปิดเผย บัดนั้นทุกอย่างก็มักได้ระเบิดออกมาพร้อมกันหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ปีศาจแห่งความโกรธ ปีศาจแห่งความสิ้นหวัง ปีศาจแห่งความหมดศรัทธา นานาพันธุ์ยากที่จะอ้างถึง
1
.
พลานุภาพแห่งด้านมืดนี้รุนแรงมาก ๆ เมื่ออยู่ในช่วงของ "จุดพีค" ของบททดสอบ ความรู้สึก และอารมณ์ที่หลากหลาย สามารถนำไปสู่ การกระทำที่รุนแรง ไม่สามารถให้อภัยใครได้ แม้กระทั่งตนเอง
จนอาจทำร้ายชีวิตของตนหรือคนรอบข้างได้ ในชั่วพริบตาเดียว มันเหมือนกับ สภาวะที่เราหมดสิ้นหนทางทุกอย่างในทางออกในชีวิต ไร้ซึ่งการควบคุมสติปัญญา ไม่สามารถไตร่ตรองอะไรได้ต่อไปอีก
ดั่งคนที่ถูกผ้าปิดตาเอาไว้ ถูกตรึงขัง ถูกควบคุมจากสถานการณ์ทั้งหมด ไม่ให้เราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์ตรงนั้นไปได้เสียที
.
สิ่งเหล่านี้ มันเกิดจาก "การสะสมพลังงานลบ" ที่ค่อย ๆ เข้ามาแทรกซึมเราทีละเล็ก ทีละน้อย แล้วเราก็บอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไร เรารับได้ เราไหว แล้วเราก็เก็บมันไว้ภายใน เราเลือกที่จะปฏิเสธ ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเราเอง
ปกปิดมันไว้ ไม่กล้ายอมรับ และ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับ ความกลัวภายในใจของเราเอง พอมันถึงเวลาที่บีบครั้นที่สุดแล้ว การโกหกตัวเองต่อไปก็คงไม่ได้ช่วยอะไร ผลลัพธ์สุดท้ายก็ต้องกลับมา "ร้องไห้ และ จมอยู่กับความรู้สึกพ่ายแพ้ให้กับตัวเราเอง" อยู่ดี
สิ่งของเมื่อถูกบีบอัดไว้แน่น มากเข้า ๆ ในทุก ๆ วัน แรงดันภายในก็คงสูงขึ้นตามไปด้วย ไม่แปลกที่มันจะระเบิดออกมาในสักวันใด สักวันหนึ่ง ความพรั่งพรูของการ ยืนหยัดได้ด้วยตัวตนของเราเอง แต่พอถึงวันนี้ "ภายในกลับล้มเหลว" ไม่เป็นท่า ทุกอย่างในชีวิตจึงดับมืด มืดหมดแปดด้าน
.
ที่ผ่านมาในชีวิตของตัวเราเอง เส้นทางมันอาจจะเต็มไปด้วย ชื่อเสียง เงินทอง มากมายที่เราใช้หามาได้ หรือ เราเองอาจจะไม่ได้มีสิ่งเหล่านั้นเลย ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก เมื่อมองในมุมมองของเส้นทางการตื่นรู้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นตัวแบ่งแยกว่าใครจะถูกทดสอบบ้าง หรือใครจะไม่ถูกทดสอบบ้าง
แท้จริงแล้ว...มนุษย์เองต่างอยู่บนเส้นทางแห่งนี้แล้วตั้งแต่ต้น...
เราทุกคนบนโลกใบนี้ล้วนอยู่ในสนามสอบของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่เราเองก็ยังไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยเสียด้วยซ้ำไป
Alienaire
บททดสอบค่ำคืนอันมืดมิดทางจิตวิญญาณนี้ จะผ่านพ้นไปไม่ได้ หาก "ขาดสติยับยั้งหลุมดำที่มืดที่สุดในใจ" ของตัวพวกเขาเอง
.
การเลือกเดินเส้นทางจิตวิญญาณ คือ
การเลือกมุ่งหน้า...ไปยังด้านที่ตรงข้ามกับด้านมืด โดย "ไม่ทอดทิ้งด้านมืดเหล่านั้นไว้เป็นหลุมดำภายในจิตใจ" เส้นทางนี้เราไม่มีการแบ่งแยกกันและกัน ว่าตัวคุณเองนั้นจะเกิดจากที่ไหน เติบโตมาอย่างไร มีชีวิตความเป็นอยู่แบบไหน
ทุกคน ที่ไม่ว่าจะเลือกเดินทางสายจิตวิญญาณ หรือ ไม่เลือกเดินเส้นทางสายนี้ เรา...ต่างล้วนอยู่ภายใต้ "บททดสอบที่ยากที่สุดของตัวเราเอง" เหมือนกันทั้งสิ้น
.
มันอาจปรากฎอยู่ในรูปแบบของปัญหาที่เผชิญแตกต่างกันสักหน่อย บางคนอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ความรักความสัมพันธ์ บางคนอาจเป็นเรื่องของหน้าที่ การงาน การเงิน หรือ สุขภาพ แต่ละคนเผชิญแต่ละปัญหาของตัวเอง บ้างก็รับปัญหาของคนอื่นมาด้วย บ้างก็เหมาเอาแทบทุกปัญหา มารวมไว้กับตนเอง
แต่ที่สำคัญที่สุดเลยคือ เรามัวแต่มุ่งสนใจไปแต่ที่ตัวปัญหาแต่ละตัว เราโยนใจของเราลงไปเล่นกับเรื่องพวกนั้น จากเรื่องนั้น มาเรื่องนี้ ความคิดยุ่งเหยิง ตีกันแทบจะตลอดเวลาที่จะมีเวลาว่างคิดได้ จนเรา "ลืม" หันกลับมามอง "ความรู้สึกภายใน ข้างในหัวใจตัวเราเอง"
.
หัวใจของเธอ ยังรู้สึกดีอยู่รึเปล่า
หรือ มันบอบช้ำ จนไม่รู้จะเสียใจอะไรก่อนดีไปแล้ว ที่รัก…
ปัญหาภายนอก ดูเหมือนอาจเป็นปัญหาใหญ่ที่เรามักจะโฟกัส และอยากจะรีบแก้ไขมันให้เสร็จทันท่วงที แต่… เธอรู้อะไรไหม ว่าอะไร คือ จุดชนวนระเบิด ของ ด้านมืดในตัวของเราเอง ?
.
อันนำมาซึ่ง การสูญเสียการควบคุมทั้งหมด
ทุก ๆ อย่าง ทุก ๆ ด้านในชีวิตไปน่ะ ?
.
"ปัญหาภายใน" ตัวเองน่ะสิ คือ แหล่งถ่านหินชั้นเยี่ยมเลย เมื่อไหร่ก็ตามที่เรา เริ่ม หวาดกลัวตนเอง กลัวความคิดของตนเอง กลัวการกระทำของตนเอง ไม่ไว้วางใจในตนเอง ไม่ยอมรับในข้อเสียของตนเอง ได้แต่โทษคนนั้น โทษคนนี้ หรือ แม้กระทั่ง โทษตัวเราเอง
มันคือ ที่สุดของ "การเผาไหม้" ที่จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวตนของตัวเราเองได้ในสักวันหนึ่ง
อะไรที่ไม่ได้รับการเยียวยาที่รัก มันจะกลับมาทำให้เจ็บช้ำอยู่เสมอ และ เมื่อใดที่มันถูกบีบครั้น ต้อนให้จนมุม Dark Side ที่แท้จริง จะปรากฏขึ้น "ตัวตนที่คุณไม่อยากจะเห็นในตัวเองที่สุด" จะเกิดขึ้น ณ วินาทีนั้น
.
ปีศาจในภายในใจ (ด้านเงา) ของตัวคุณเองได้เผยตัวออกมาแล้ว ความดุร้ายของมัน สามารถทำอะไรก็ได้ที่คาดไม่ถึง พลังงานที่ไหลเวียน มีแต่ความเลือดร้อน และ ไร้ซึ่งสติ
"คุณสามารถทำร้ายตัวคุณเองได้ รวมไปถึง ทำร้ายคนรอบข้างได้ด้วย"
สิ่งนี้ คือ เหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้จิตวิญญาณ ที่อยู่ในร่างใดร่างนึง ได้ เผาผลาญเถ้าถ่านที่เผาไหม้ตนเอง มันอาจ เป็น การเผาไหม้ที่อาจไม่หลงเหลือตัวตนเดิมได้อีกต่อไป หรือ กลายเป็นตัวตนใหม่ ที่เกิดขึ้นได้ จากเถ้าถ่านเดิม ดั่ง นกฟินิกซ์ ที่ไม่เคยสูญเสียตัวตนเดิมของตนไปเลยก็ได้
.
จิตวิญญาณที่เป็นของแท้ จะไม่พ่ายแพ้ ต่ออุปสรรคใดก็เข้ามาขัดขวางชีวิตการเติบโต หรือ แม้กระทั่งการตายจาก ยิ่งถูกเผาไหม้รุนแรง ยิ่งเกิดใหม่ เป็นตัวตนที่สวยงาม และสง่าได้ยิ่งกว่าแต่เก่าก่อน
กระบวนการตื่นรู้นี้ จึงนำไปสู่ "ทางแยก" ของ สวรรค์ กับ นรก ในเส้นทางเลือกของผู้ที่อยู่ในเส้นทางการทดสอบ กันหมดทุกคน
.
ไม่ใช่ทุกคน ที่ผ่านการทดสอบ "เส้นทางแห่งการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ" ไม่ใช่ทุกคน ที่จะมีจิตตื่นรู้ได้
หากปราศจาก..."การอนุญาตให้ตน" ได้นำพาตนเองไปสู่เส้นทางแห่งแสงสว่าง และทิ้งเงามืด เหล่านั้นไว้เบื้องหลัง เราไม่ได้ทิ้งพวกเค้าไว้อย่างโดดเดี่ยว เราก้าวเดินออกมา หลังจาก เราได้ "โอบกอด รัก และเข้าใจพวกเขาก่อนแล้วต่างหาก"
เราถึงสบายใจได้ถึงทุกวันนี้ ด้านมืดเหล่านั้นทำร้ายอะไรเราไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
.
การก้าวข้ามผ่าน ค่ำคืนอันมืดมิด มิใช่สิ่งที่ง่ายดายเสมอไป สำหรับเราทุกคน ความกลัวที่อยู่ลึกภายในใจเราที่สุด จะเป็นตัวบ่งบอกว่า เราจะสามารถเอาชนะมันไปได้ไหม "ใจเราสำคัญที่สุด" ในการเยียวยารักษาช่วงเวลาที่ใครก็ช่วยเยียวยาบาดแผลนั้นไม่ได้
มีเพียง "ตัวเรา" ที่จะกอบกู้ ความหวัง ความศรัทธา และความเชื่อมั่น ในชีวิตให้กลับคืนมาได้
บางครั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านก็พยายามช่วยท่านมาหลายครั้ง และช่วยท่านมาโดยตลอด แม้ท่านจะไม่ทราบ แต่สุดท้าย พวกเค้าก็มิอาจ บังคับการตัดสินใจ และ ทางเลือก ของเราเองได้ เพราะ มนุษย์ทุกคนมี Free will (เจตจำนงค์เสรีอิสระ)
พวกเค้าไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงเส้นทางเราได้ หากเราไม่อนุญาต
.
ไม่ว่าตอนนี้ท่านจะกำลังเผชิญหน้าอยู่กับตัวตนที่ท่านไม่อยากจะเห็นในตัวเอง ด้านที่ไม่อยากจะเป็นเลย ไม่เป็นไรเลยนะคะ ที่จะรู้สึกไม่โอเคกับตัวเอง และสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เราอาจต้องการเวลาเงียบ ๆ สงบ ๆ ให้กับตนเองได้กลับมาคิดบ้าง กลับมาตรึกตรอง และค้นหาปมปัญหาอะไรบางอย่าง ที่ไม่อาจลบเลือนออกจากจิตใจได้
ทุกอย่างยังไม่ได้แย่ หรือ สายเกินไป สำหรับการให้อภัยตนเองในเวอร์ชั่นคนก่อนนั้นหรอกนะคะ ขอให้เราได้ขอบคุณพวกเขา สิ่งเหล่านั้น ที่ได้เข้ามาสอน มาทดสอบ เป็นบทเรียน โอบกอดพวกเขาไว้ใกล้ ๆ หัวใจ หัวใจที่แผลผ้าพันแผล ❤️‍🩹 เราเดินไปได้นะ ไปด้วยกันนี่แหละ
.
แม้เราจะยังคงมองเห็นกัน แต่ต่อจากนี้เราจะไม่ทำร้ายกันแล้วนะ เราเข้าใจถึงการเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา เราไม่อาจแยกหนีจากกันได้ หากมันเป็นอะไรที่ต้องอยู่ เพื่อพัฒนาตัวเราให้เป็นคนที่เก่ง เข้มแข็ง และดีขึ้น เราไม่จำเป็นต้องผลักไสพวกเขาออกไป เราอยู่ร่วมกันได้ เข้าใจอย่างลึกซึ้ง
เมื่อใดที่แผลเริ่มปริ 🩸🫀 ให้กลับมากอดกันทุกครั้ง บอกรัก โอบกอดกันและกันเอาไว้ เป็นเพื่อน เป็นญาติสนิท ที่ไม่จำเป็นต้องเป็น ศัตรูกัน
.
ในเมื่อเราเลือกที่จะเกิดมาและเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้ (ก่อนหน้าที่กายเนื้อเราจะเกิด ดวงจิตเราเองนั่นแหละค่ะ ที่เป็นคนเลือกลงมาเกิด ณ ที่แห่งนี้ และเลือกพบเจอสถานการณ์นี้ ๆ ด้วยตนเองค่ะ เพื่อฝึกตน 😅) เพราะฉะนั้น ก็ต้องยอมรับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความรัก และ เข้าใจ
อาจเป็นโชคชะตา อาจเป็นในเรื่องของ เหตุและผล ของการกระทำ หรืออะไรก็ตาม สุดท้ายเราก็หลีกหนีความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ดี ทางที่ดีเรากลับมาอยู่กับมันอย่างสงบสุข (สงบศึก) กันดีกว่าค่ะ ใจเราจะได้มีความสุขมากขึ้น กายก็พลอยมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย 😊
.
หากบทความนี้เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย พี่ ๆ เพื่อน ๆ สามารถกดแชร์ แบ่งปันไปยังผู้คนที่ท่านรัก หรือ ผู้คนที่กำลังพบเจออุปสรรคปัญหาในชีวิต ได้เช่นกันนะคะ บางทีพวกเค้าอาจกำลังรอการรับช่วยเหลือ หรือ คำตอบอะไรบางอย่างจากท่านอยู่ก็เป็นได้ค่ะ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตาม Alienaire มาโดยตลอดนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ที่เป็นแรงกำลังใจ เป็นของขวัญชั้นเยี่ยมให้กับเราค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าน้า :)
.
Alienaire 🔑😊💛✨
โฆษณา