25 ก.ค. 2023 เวลา 07:39 • ไลฟ์สไตล์

เทียบ ‘มินต์ช็อก’ กับ ‘กาแฟส้ม’ เครื่องดื่มเล่าเรื่องจัดตั้งรัฐบาล 2023

‘มินต์ช็อก’ (Mint Chocolate) กับ ‘กาแฟส้ม’ (Orange Juice Espresso) 2 เมนูเครื่องดื่มที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองไทย ยุคเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลแห่งปี 2566 ไปอย่างเต็มตัว
เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลที่เปลี่ยนไม้จาก พรรคอันดับหนึ่ง ‘ก้าวไกล’ มาเป็น พรรคอันดับสอง ‘เพื่อไทย’ เครื่องดื่มแก้วโปรดของ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย อย่าง ‘มินต์ช็อก’ ถูกนำมาเสิร์ฟ แขก จาก 5 พรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม ประกอบด้วย ภูมิใจไทย, ชาติพัฒนากล้า, รวมไทยสร้างชาติ, ชาติไทยพัฒนาและพลังประชารัฐ
1
โดยปรากฏเป็นภาพแกนนำจากพรรคเพื่อไทย ‘ชนแก้วมินต์ช็อก’ กับแกนนำจาก 5 พรรคดังกล่าว ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลากหลาย เพราะแม้ทางพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า เป็นเพียงการเชิญหารือ แต่การชนแก้วมินต์ช็อก แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่เซ็น MOU กันไว้ ก็ทำให้บางคนเกิดความไม่สบายใจ
จนเกิดข่าวในโซเชียลฯ มีบางร้านคาเฟ่ ออกมาประกาศงดขายเครื่องดื่มเมนูมินต์ช็อกไปเลยทีเดียว
‘มินต์ช็อก’ เริ่มเป็นที่รู้จัก จากรายการ เพื่อไทย พรรคนี้เป็นไงบ้าง? ในช่องยูทูบ FAROSE ตอนนั้นเป็นช่วงเลือกตั้ง ‘อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร’ ที่กำลังตั้งครรภ์ เปิดตัวเครื่องดื่มที่ชื่นชอบจากร้าน Think Lab ร้านคาเฟ่ ที่อยู่ภายในพรรคเพื่อไทย ต่อมา ช่วงหลังเลือกตั้งเกิดกระแส ‘รับหลักการ’
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 66 อุ๊งอิ๊ง ปล่อยคลิปรีแอค ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ชิมมินต์ช็อก แล้วบอกว่า อร่อย จากนั้นนักการเมืองโดยเฉพาะคนของเพื่อไทย ก็พากันชิม ‘มินต์ช็อก’ ตามๆ กัน
ขณะที่ ‘กาแฟส้ม’ ได้รับความนิยมจากนักดื่มกาแฟไทยมาสักพักใหญ่แล้ว แต่ที่ได้กลายมาเป็นเครื่องดื่มอีกเมนูที่คอการเมืองสนใจ เพราะว่า ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ชอบดื่ม อีกทั้งเป็นกาแฟที่มีส่วนผสมจากน้ำส้ม ตรงกับสีส้มสีประจำพรรคก้าวไกลด้วย
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 66 ‘พิธา’ ได้แวะร้านกาแฟ Think Lab ที่ตั้งอยู่ในที่ทำการพรรคเพื่อไทย เขาซื้อทั้ง มินต์ช็อก และ กาแฟส้ม มาชิม โดยวันนั้น ‘พิธา’ ที่ยังอยู่ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้บอกว่า กินมินต์ช็อกก่อนต้องให้เกียรติเจ้าบ้าน รสชาติดีเกินร้อย ส่วนกาแฟอเมริกาโนส้ม รสชาติคล้ายร้าน Sol Bar ของพรรคก้าวไกล รสชาติทั้งสองแก้วแตกต่างกัน แต่กินด้วยกันรสกลมกล่อม รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน กินพร้อมๆ กันได้
ซึ่งหลังเลือกตั้ง Sol Bar คาเฟ่ก้าวไกล ก็ได้มีเมนูทั้ง 2 วางจำหน่ายด้วย
นอกจากเรื่องราวทางการเมือง ที่ ‘มินต์ช็อก’ กับ ‘กาแฟส้ม’ ได้กลายเป็น เครื่องดื่มเล่าการเมืองไทยในยุคนี้ สำนักข่าว TODAY เลยไปหาข้อมูลว่า แล้วระหว่างเครื่องดื่ม 2 เมนูนี้ ทางด้านสุขภาพดื่มแบบไหนจะดีกับร่างกายมากกว่ากัน
เราขอความรู้จาก ดร.วนะพร ทองโฉม นักสุขศึกษา (วิชาชีพนักกำหนดอาหาร) งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งถ้าเทียบกันแบบแก้วต่อแก้วแล้ว ‘มินต์ช็อก’ ให้พลังงานมากกว่า ‘กาแฟส้ม’ แต่สายเฮลตี้ก็ยังต้องระวังอยู่ดี
เครื่องดื่มมินต์ช็อก มีส่วนประกอบ 4 อย่าง คือ
1. ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
2. มินต์ไซรัป 20 มิลลิลิตร
3. ครีมเทียมข้นหวาน 20 มิลลิลิตร
4. นมสดจืด 100 มิลลิลิตร
ในส่วนข้อมูลโภชนาการ เครื่องดื่มมินต์ช็อก ให้ พลังงาน 260 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 40 กรัม น้ำตาล 33 กรัม หรือ 8 ช้อนชา โปรตีน 7 กรัม ไขมัน 8 กรัม และคาเฟอีน (Caffeine) 12.4 มิลลิกรัม
ดร.วนะพร บอกว่า เครื่องดื่มมินต์ช็อก มีข้อควรระวัง เนื่องจากมีน้ำตาลสูง ตามคำแนะนำปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาและมีไขมันอิ่มตัวจากนมสด ครีมเทียม พลังงานต่อแก้วจะเทียบเท่ากับการกินข้าว 3 ทัพพี
“หากกินบ่อยๆ ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ทั้งจากเครื่องดื่ม และคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมได้ง่ายจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเร็วก่อนถึงมื้อหลัก เพราะอินซูลินจะหลั่งออกมามากเพื่อจัดการน้ำตาลที่เพิ่มสูงเร็ว ทำให้กินจุบจิบก่อนมื้ออาหารหลัก
สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานหากดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงส่งผลให้ระดับน้ำตาลเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว การกินน้ำตาลที่มากเกินไปเสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับ ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และไขมันอิ่มตัวที่อยู่ในนมสดและครีมเทียมข้นหวาน อาจส่งผลให้ระดับไขมัน LDL เพิ่มสูงขึ้นได้ ซึ่งไขมันในเลือดที่สูงนี้ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้”
มาต่อกันที่ เครื่องดื่มกาแฟส้ม
ส่วนประกอบของกาแฟส้ม มีเพียง 2 อย่างคือ
1. กาแฟ (Espresso) 1 shot หรือกาแฟผง 2 ช้อนชา ปริมาณ 100 มิลลิลิตร
2. น้ำส้ม 30% 150 มิลลิลิตร
โดยข้อมูลโภชนาการ กาแฟส้ม ให้พลังงาน 73 กิโลแคลอรี น้ำตาล 16 กรัม หรือ 4 ช้อนชา ส่วนไขมันเป็น 0 และมีคาเฟอีน (Caffeine) 63 มิลลิกรัม
ข้อควรระวังสำหรับเครื่องดื่มกาแฟส้ม ดร.วนะพร บอกว่า เป็นเรื่องน้ำตาลที่ได้จากน้ำผลไม้ ตามคำแนะนำปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา
สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานหรือผู้ที่มีไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ไม่ควรดื่ม กาแฟส้ม เกินวันละ 1 แก้ว เนื่องจากน้ำตาลจากน้ำหวานของน้ำส้มส่งผลให้ระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง ปริมาณน้ำตาลที่มากเกินไป จะส่งผลให้มีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงได้ ดังนั้นไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้ว
ทั้งนี้เนื่องจากกาแฟจะส่งผลต่อการนอน ดังนั้นหากจะดื่มกาแฟส้ม ให้เว้นห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
#สำนักข่าวทูเดย์
#MakeTomorrowTODAY
โฆษณา