Blockdit Logo (Mobile)
Krungthai Asset Management
ยืนยันแล้ว
•
25 ก.ค. 2023 เวลา 11:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

3 รูปแบบการลงทุนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในยุคที่ AI ครองโลก

หากพูดถึงนวัตกรรมที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้ เราทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ Artificial Intelligence (AI) คงต้องเป็นหนึ่งในนั้น สืบเนื่องจากการมาถึงของเทคโนโลยี AI ต่าง ๆ มากมาย เช่น
  • ●
    “ChatGPT” ต้นแบบของ แช็ตบอตปัญญาประดิษฐ์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย OpenAI หนึ่งในบริษัทของ Microsoft
  • ●
    “Midjourney” ปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถแปลงข้อความคำสั่งต่าง ๆ ให้ออกมาเป็นรูปภาพ หรืองานศิลปะได้
  • ●
    “Riffusion” ปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถแปลงภาพโซโนแกรม (Sonogram) ซึ่งเป็นภาพที่แสดงถึงความถี่ของคลื่น ให้กลายเป็นเสียงดนตรีได้
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของนวัตกรรม ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปในทิศทางใหม่ ๆ เท่านั้น และยังมีนวัตกรรม AI อีกมาก ทั้งที่เปิดตัวแล้ว และกำลังรอเวลาเปิดตัว ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิต ทั้งในระดับทั่วไป จนถึงในระดับมหภาค เลยทีเดียว
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการลงทุนไปกับเรื่อง AI ถึงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ และเป็นธีมสำคัญต่อการเข้าสู่ยุคใหม่ของมวลมนุษยชาติในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าเราทุกคน สามารถเริ่มที่จะลงทุนไปกับเรื่อง AI ได้ ผ่าน 3 ตัวอย่างเบื้องต้น ดังนี้
1) ลงทุนในการศึกษา และนำ AI มาปรับใช้กับธุรกิจ
ข้อมูลจาก TechTarget เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่มีการอ้างอิงผลสำรวจของบริษัทวิจัยของ Frost & Sullivan ในหัวข้อ “Global State of AI, 2022” ได้ระบุเอาไว้ว่า องค์กรต่าง ๆ กว่า 87% เชื่อว่า การเรียนรู้ และการนำ AI มาปรับใช้กับธุรกิจนั้น ค่อนข้างสำคัญ เพราะจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มรายได้ ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และประสบการณ์ของลูกค้าต่อธุรกิจได้ จากคุณประโยชน์มากมาย เช่น
- การตัดสินใจในเรื่องธุรกิจ ที่อ้างอิงจากการใช้ Data เป็นหลัก ซึ่งปราศจากอคติ และสัญชาตญาณส่วนตัวของมนุษย์
- การช่วยลดเวลาในการทำงาน จากขั้นตอนที่ซับซ้อน
- การวิเคราะห์ และเรียนรู้จากข้อมูล เพื่อสร้างประสบการณ์ หรือการให้บริการ ในรูปแบบเฉพาะสำหรับบุคคลอย่างแม่นยำ
- การลดข้อผิดพลาด ที่มักเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ เป็นต้น
จากข้อดีต่าง ๆ เหล่านี้ จึงทำให้หลายองค์กร รวมถึงองค์กรยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ที่กำลังครองโลกอยู่ในปัจจุบัน เริ่มมีการนำ AI มาปรับใช้ และศึกษาต่อยอดอย่างจริงจังให้กับธุรกิจของตนเอง เช่น
  • ✓
    Amazon
ตามการรายงานของ CNBC เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 Stefano Perego รองประธานบริหารส่วนคลังสินค้า และบริการ OPS ที่ดูแลลูกค้าในพื้นที่อเมริกาเหนือ และยุโรปของ Amazon ได้บอกเล่าถึงการนำระบบ AI เข้ามาช่วยในการขนส่งสินค้า และช่วยอำนวยความสะดวก สำหรับการค้นหาสินค้าใน Amazon ได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Amazon ยังมีการใช้ AI เข้ามาช่วยในการระบุตำแหน่งสำหรับการวางสินค้าบนคลังอีกด้วย เพื่อลดต้นทุนจากปัญหาความซับซ้อนในการวางสินค้า และระยะทางในการขนส่งในแต่ละภูมิภาค ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ถูกเรียกว่า “Regionalization”
  • ✓
    Microsoft
ตามการรายงานของ CNBC เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2566 การลงทุนสะสมของ Microsoft ใน OpenAI นั้น มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี พ.ศ. 2566 จากตอนแรกที่ Microsoft เคยเข้าซื้อหุ้นของบริษัท OpenAI ด้วยมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี พ.ศ. 2562
ซึ่งการร่วมทุนกับผู้ให้กำเนิด ChatGPT จึงทำให้ Microsoft สามารถนำเทคโนโลยีของ ChatGPT มาผูกเข้ากับ Search Engine ของตนเองอย่าง Bing รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จาก Microsoft 365 และ Azure Cloud เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับการแข่งขันในระยะยาว
จากเหตุผลข้างต้น และตัวอย่างของบริษัทต่าง ๆ จึงอาจเป็นข้อพิสูจน์ที่ว่า ทำไมการลงทุนลงแรงไปกับการใช้ AI เพื่อประกอบธุรกิจ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโต และพัฒนาต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
2) ลงทุนในการนำ AI มาเสริมทักษะการใช้ชีวิต
จากบทความของ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ที่ Mark McNeilly ศาสตราจารย์ด้านการตลาดเชิงปฏิบัติ จาก UNC Kenan-Flagler Business School ได้วิเคราะห์เอาไว้ว่า
“มนุษย์ไม่สามารถถูกแทนที่ด้วย AI แต่ผู้คนส่วนใหญ่จะถูกแทนที่ ด้วย บุคคลที่มีทักษะด้านการใช้ AI”
เนื่องจาก AI เป็นนวัตกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วย “ทุ่นแรง” รวมถึงเป็น “เครื่องมือ” อันชาญฉลาดที่จะทำให้การใช้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายยิ่งขึ้น ดังนั้น หากใครที่เริ่มลงทุนกับการศึกษา AI เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับทักษะต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะช่วยให้พวกเขา กลายเป็นผู้ที่มีความได้เปรียบในตลาดแรงงาน ในอนาคต ทั้งจากความสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้น ทั้งด้านปริมาณการผลิตผลงานที่มากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และด้านการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่รวดเร็ว และกว้างขวางขึ้นกว่าที่เคย
เช่น ตัวอย่างของการใช้งานเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT ของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอาชีพอย่าง ตัวแทนผู้ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ใช้ ChatGPT ในการใช้สร้างรายการขายต่าง ๆ นักการตลาดที่ใช้ ChatGPT ในการสร้างสคริปต์บทพูด หรือครูที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างประสบการณ์ร่วมต่าง ๆ ให้กับนักเรียน สำหรับการเรียนการสอน เป็นต้น
นอกจากนี้ Mark McNeilly ก็ยังได้วิเคราะห์ไว้ว่า AI ยังอาจเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถสร้างอาชีพเฉพาะทางใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอีกมากมายในอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการเปิดช่องทางที่ดี ให้กับผู้คนที่กำลังลงทุน ลงแรงในการศึกษา และการนำ AI มาปรับใช้เป็นทักษะใหม่ ๆ ให้กับตนเองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
3) ลงทุนในสินทรัพย์ ที่เกี่ยวข้องกับ AI ในระยะยาว
จากตัวอย่างข้างต้นทั้ง 2 ข้อ ไม่ว่าจะเป็นการที่บริษัทในหลาย ๆ ระดับเล็งเห็นถึงความสำคัญ และโอกาสจากการใช้งาน AI เพื่อต่อยอดธุรกิจในระยะยาว หรือการที่ AI กำลังจะกลายไปเป็นหนึ่งในเครื่องมือ และทักษะแห่งอนาคต ของผู้คนทั่วไป แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ ต่างยืนยันว่า AI คือ ธีมที่มีโอกาสเติบโตต่อไปในระยะยาว
ซึ่งการเติบโตในระยะยาวของ AI นี้เอง
ที่เปรียบเป็นดั่งโอกาสให้กับการลงทุนในสินทรัพย์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ AI เพราะแน่นอนว่าเม็ดเงินจำนวนมหาศาล จะต้องถูกนำเข้าไปใช้เพื่อหมุนเวียนในอุตสาหกรรมนี้ สำหรับการต่อยอดในระยะยาวอย่างเลี่ยงไม่ได้
และถ้าหากว่า ใครที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนกับธีมนวัตกรรม AI โอกาสของคุณมาถึงแล้วกับ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-WTAI-A)
เพราะ KT-WTAI คือกองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz Global Artificial Intelligence (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class AT (USD) ซึ่งเสนอขายสําหรับลูกค้ารายย่อย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ และนโยบายการลงทุน คือ เพื่อการเติบโตของเงินทุนระยะยาว โดยลงทุนอย่างน้อย 70% ของ NAV ในตลาดตราสารทุนทั่วโลก ที่ธุรกิจของบริษัทจะได้รับประโยชน์จากวิวัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหากองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ก็สามารถเลือกลงทุนกับ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-WTAI RMF) ได้อีกด้วยเช่นกัน
2
*ข้อมูลของกองทุนล่าสุด เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-WTAI-A) ได้ที่ : http://bitly.ws/Iwdq
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-WTAI RMF) ได้ที่ : http://bitly.ws/LbjU
ลงทุนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย
ดาวน์โหลด :
iOS : https://bit.ly/KTAMST
Android : https://bit.ly/KTST_Android
สอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร. 02-686-6100 กด 9
คำเตือน :
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk) / ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk) / ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) / ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน (Country Risk) เป็นต้น
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรืออาจจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
References :
โฆษณา