31 ก.ค. 2023 เวลา 08:01 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

The Murderer หนังไทยใน Netflix ที่จิกกัดสังคมไทยผ่านองค์ประกอบศิลป์สุดจัดจ้าน

ในวันนี้ Art of จะมาพูดถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘The Murderer’ หรือที่มีชื่อไทยว่า ‘เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ’ ซึ่งเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นที่จับตามากเพราะกำกับโดยผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ‘วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง’ นั่นเอง
‘วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง’ ผ่านการกำกับภาพยนตร์มาหลายเรื่องเช่น ‘ฟ้าทะลายโจร’, ‘หมานคร’ และ ‘เป็นชู้กับผี’ ที่ได้รับรางวัลระดับโลกมามากมาย และยังเขียนบทอีกหลายเรื่องเช่น ‘2499 อันธพาลครองเมือง’ และ ‘DEEP’ อีกด้วย ซึ่งแค่เห็นรายชื่อหนังแต่ละเรื่องก็ชัดเจนเลยว่ามีเทคนิคเล่าเรื่องและสื่อสารความเป็นไทยออกมาได้อย่างไม่เหมือนใคร
ส่วน ‘The Murderer’ ในปี 2023 นี้นั้นเล่าเรื่องราวระทึกขวัญเกี่ยวกับ ‘เอิร์ล’ เขยฝรั่งที่เดินทางกลับบ้านในชนบทภาคอีสานพร้อมกับ ‘ทราย’ ภรรยาคนไทย แต่เอิร์ลก็ดันกลายเป็นผู้ต้องสงสัยการฆาตกรรม 7 ศพ! ซะอย่างนั้น
บอกได้เลยว่าเทคนิคการเล่าเรื่องและองค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ของหนังนั้นไม่ธรรมดาเลย! แม้เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับการฆาตกรรม แต่ก็มีความตลกและหักมุมในแบบที่พาคนดูสนุกหนีจากโลกความเป็นจริงไปได้เลย!
นอกจากนี้หนังยังสะท้อนสังคมแบบไทยๆ ในการนำเสนอสื่อและการเสพสื่อในช่วงเวลาที่เกิดคดีต่างๆ เช่น ข่าวลือที่ถูกปรุงแต่งจนทำให้รูปคดีผิดเพี้ยน บทบาทของหมอดูและหมอผีต่อความเชื่อของคน เป็นต้น
ซึ่งหลังจากได้ดูมาแล้ว Art of จึงขอนำมาเล่าเกี่ยวกับองค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังออกมาสมบูรณ์ ที่ไม่ว่าจะอ่านก่อนหรือหลังดูก็หวังว่าจะช่วยเพิ่มอรรถรสได้มากขึ้น! ทีมงานคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ!
1
ความเหนือจริงที่เข้าใจง่าย
เอกลักษณ์ของผู้กำกับท่านนี้คือการทำหนังที่เหนือจริง ดึงคนดูออกจากโลกจริงเข้าไปในโลกของหนัง ซึ่งความเหนือจริงนี้เกิดขึ้นด้วยองค์ประกอบหลายอย่างตั้งแต่การใช้สี แสงไปจนถึงมุมกล้องและองค์ประกอบการจัดวางภาพ
ซึ่งดูเผินๆ องค์ประกอบเหล่านี้ก็เหมือนกับเรากำลังได้ดูหนังโฆษณาหรือละครเวทีเลยทีเดียว นอกจากนี้การเล่าเรื่องต่างๆ ถึงแม้จะดูเหนือจริงแต่ก็ยังมีความจริงบางอย่างซ่อนไว้ให้ได้คิดอีกด้วยนะ
แอบเล่าว่าเบื้องหลังของการถ่ายทำคือทีมงานนั้นต้องคลุมบ้านทั้งหลังไว้ด้วยเต้นท์เพื่อที่จะถ่ายทำได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยทีเดียว!
1
องค์ประกอบสีสวยจัดจ้าน
สีอันจัดจ้านในเรื่องนี้นั้นเป็นสิ่งที่เห็นชัดเจนเตะตาที่สุดตั้งแต่ดูตัวอย่างหนัง ยิ่งส่งเสริมความเหนือจริงของหนังขึ้นไปอีก เพราะในชีวิตจริงนั้นยากมากที่จะเห็นองค์ประกอบสีเช่นนี้ในที่เดียวกัน
สีที่ถูกคุมโทนของทั้งเรื่องไว้มากที่สุดก็คือ ‘สีเขียว’ ที่เข้ากับความเป็นชนบทของทุ่งนาและธรรมชาติ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นสีของ ‘ความลึกลับสยองขวัญ’ เช่น ตัวบ้านของนางเอกก็เขียวสดราวกับเป็นบ้านกำลังกุมความลับบางอย่างไว้ แม้แต่ท้องฟ้าที่ขมุกขมัวก็เป็นสีออกเขียวเทอคอยซ์ สื่อว่าที่แห่งนี้กำลังเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล
ในขณะที่สีโทนร้อนก็ถูกนำมาใช้ตัดกันอย่างน่ามองเช่น แดง ม่วงและชมพู โดยเฉพาะแสงสีม่วง ชมพู ฟ้า นั้นชัดเจนมากว่าถูกใช้ในฉากที่เป็นจินตนาการปรุงแต่งของตัวละคร
โดยรวมแล้วสีสันและการให้แสงมีความจัดจ้านและให้ความรู้สึกความเป็นในอีสานแบบป๊อปๆ ทำให้หนังไม่น่าเบื่อ เป็นความระทึกขวัญแบบที่น่าสนใจและน่าติดตามมาก มองไปทุกฉากก็ได้แต่อุทานว่า ’ฉากนี้สีสวยอีกแล้ว!’
องค์ประกอบเท่ากันสองด้าน
ในหลายฉากมีการใช้มุมกล้องที่วางองค์ประกอบเท่ากันสองด้าน หรือที่เรียกว่า ‘symmetrical composition’ ซึ่งเป็นวิธีการที่ยิ่งช่วยเน้นย้ำความเหนือจริง ให้คนดูได้รู้ว่า ‘คุณกำลังดูหนังอยู่นะ นี่คือโลกที่ถูกสร้างขึ้นมา!’
นอกจากนี้ยังช่วยเน้นอารมณ์ในฉากนั้นๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ฉายให้เห็นตัวละครคนเดียวที่ทำให้รู้สึกอึดอัดโดนจับจ้อง หรือตัวละครสองคนที่ทำให้เห็นว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันอย่างชัดเจน
ดึงจุดเด่นความเป็นอีสานลูกทุ่ง
3
นอกจากภาษาอีสานที่ใช้พูดกันทั้งเรื่องแล้ว องค์ประกอบหลายๆ อย่างของความเป็นไทยและลูกทุ่งชนบทก็ถูกแทรกอยู่อย่างมีสเน่ห์ เช่นรถกระบะ ผ้าขาวม้าคาดเอว เสื้อลายสก๊อต ผ้าไทย ของใช้ในครัว แม้แต่เมนูตั๊กแตนทอดก็มา! ซึ่งเมื่อบวกกับการใช้สีจัดจ้านอย่างลงตัวแล้ว ทำให้ของเหล่านี้ดูพิเศษยิ่งกว่าเคย!
เพลงประกอบดนตรีอีสานผสมตะวันตก
อีกความพิเศษที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับทุกฉากในภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้น Music Score จาก Wild At Heart Studio ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่โดดเด่น ชวนให้เราอยากดูมาตั้งแต่เสียงแรกใน Trailer
แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์การผสมผสานความเป็นสากล กับความเป็นอีสานก็ถูกใช้ในเพลงประกอบด้วย ด้วยการดึงเอาเอกลักษณ์ของดนตรีทางภาคอีสานที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม การใช้ชีวิต ที่บางครั้งก็เป็นจังหวะคึกคัก เป็นการสร้างความสนุกสนาน ในขณะที่ต้องเร่งรีบทำมาหากิน ด้วยเครื่องดนตรีง่ายๆ เช่นโปงลาง กลองหาง พิณ ไปจนถึงเสียงร้องที่ประสานกันตามรถแห่
หรือในอีกทางหนึ่งก็ให้ความรู้สึกหดหู่ตามสภาพอากาศที่แห้งแล้ง เสียดหูเหมือนพายุกำลังจะพัดมา จนท้องฟ้าร้องเหมือนกับเสียง ‘โหวด’ เครื่องดนตรีที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกรันทด หดหู่ใจตามสภาพอากาศของต้นกำเนิดอย่างร้อยเอ็ด มักใช้ในช่วงปลายฤดูฝนก่อนเก็บเกี่ยวข้าวนาปี
ทั้งหมดนี้ถูกผสมผสานเข้ากับความเป็นสากล ที่ส่วนตัวฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเพลงโฟล์คซองของแถบอเมริกา ซึ่งกำเนิดจากวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านเช่นกัน บางส่วนก็ได้รับอิทธิพลเกิดจากการส่งต่อเรื่องราวของเหล่าผู้อพยพในยุโรป คล้ายกับตัวละครฝรั่งในเรื่องที่เข้ามาอยู่ในอีสานนั่นเอง
1
ถือเป็นหนังฝีมือคนไทยอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การชมมากๆ สามารถรับชม ‘The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ’ กันได้แล้ววันนี้ที่ Netflix เลย
1
โฆษณา