4 ส.ค. 2023 เวลา 06:30 • ศิลปะ & ออกแบบ
Iconsiam

งานศิลปะระดับโลกที่ห้ามพลาด Van Gogh Alive Bangkok

Chapter 63: Vincent Van Gogh
Vincent Van Gogh ศิลปินผู้มากความสามารถที่ตอนมีชีวิตอยู่เป็นผู้ที่ถูกลืม แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้า งานของเขาจึงเริ่มเป็นที่พูดถึง จนทุกวันนี้กลายเป็นงานศิลปะที่ราคาสูงลิบลิ่ว ทำไมชีวิตเขาถึงได้น่าเศร้าขนาดนี้ มาอ่านกันเลยค่ะ
Blog นี้มาจากเราได้ไปเดินเที่ยวงานนิทรรศการศิลปะดิจิทัล "Van Gogh Alive Bangkok" ที่จัดแสดงครั้งแรกในไทยที่ Iconsiam แต่กว่าจะเขียน Blog นี้ออกมางานก็จบไปละ ต้องขอโทษด้วยนะคะ 😅
เราจำได้ว่าเมื่อนานมาแล้วเคยได้ดูสารคดีเกี่ยวกับ Vincent Van Gogh ที่เล่าถึงชีวิตที่อาภัพของเขามันฟังแล้วค่อนข้างหดหู่เลย แต่ความประทับใจแรกที่เรามีต่อ Van Gogh คือภาพวาดของเขาที่ใช้สีน้ำมันแบบฉูดฉาด ภาพวาดที่ดูไม่เรียบร้อยเลอะๆ แต่มันดูแล้วเหมือนศิลปินเขาได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกมาในงานเหล่านั้น เราดูงานศิลปะไม่เป็นหรอก แต่เราแค่รู้สึกผูกพันธ์กับ Van Gogh ขึ้นมายังไงไม่รู้
ชื่อจริงของ Van Gogh คือ Vincent Willem Van Gogh เค้าเกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 1853 เป็นจิตรกรชาวดัตช์ในลัทธิ Post-Impressionism
ป.ล. ประวัติ Vincent Van Gogh มาจาก wikipedia นะคะ
Van Gogh ได้สร้างสรรค์ผลงานไว้กว่า 2,100 ชิ้นในช่วงเวลาเพียงสิบกว่าปี
ห้องนี้จำลองมาจากภาพวาดห้องนอนของ Van Gogh ที่เมือง Arles
ผลงานของเขามีทั้งภาพภูมิประเทศ ภาพนิ่ง ภาพเหมือนคนและภาพเหมือนตนเอง
Time line ช่วงชีวิตที่ Van Gogh วาดภาพต่างๆ
ซึ่งลักษณะเด่นในงานของ Van Gogh คือการใช้สีสันที่จัดจ้าน การตวัดพู่กันแบบฉวัดเฉวียนแฝงอารมณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเจ็บป่วยทั้งทางกายและทางใจที่เขาต้องทนมานานหลายปี
พร้อมคำอธิบายเรื่องราวที่มาของภาพเหล่านั้น
Van Gogh เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางค่อนไปทางชั้นสูง ตั้งแต่เล็กเขาเป็นเด็กที่เคร่งขรึม พูดน้อย คิดมาก
เมื่อเข้าไปในห้องแสดงจะได้พบกับแสงสีเสียงที่ชวนให้อยู่ในภวังค์
เมื่อโตเป็นหนุ่มเขาทำงานเป็นนายหน้าขายงานศิลปกรรม จึงทำให้ต้องเดินทางบ่อย
เหมือนเราได้เห็นภาพเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด
จนเมื่อเขาต้องย้ายไปอยู่ลอนดอนเขาก็ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เขาจึงได้หันไปหาศาสนาและปฏิบัติศาสนกิจในฐานะมิชชันนารีโปรเตสแตนต์อยู่ทางภาคใต้ของเบลเยียม
Van Gogh ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่ทรุดโทรมและความโดดเดี่ยวอ้างว้าง จนเขาได้เริ่มมาจับงานวาดรูปในปี ค.ศ. 1881
ภาพ Portrait รูปเหมือนคนที่เขาวาดไว้จำนวนมาก
ผลงานชิ้นแรกๆ ของเขาส่วนใหญ่เป็นภาพนิ่งและภาพแสดงชีวิตของชนชั้นกรรมกร ซึ่งส่วนใหญ่ยังใช้สีหม่นๆ ต่างจากผลงานชิ้นหลังๆ ที่เขาวาดหลังจากที่ย้ายไปอยู่ที่ปารีส ซึ่งเขาเริ่มใช้สีสันที่สว่างสดใสขึ้น
ในช่วงท้ายของชีวิต Van Gogh ด้วยความที่เขามีปัญหาสุขภาพจิต การละเลยที่จะดูแลตัวเองแถมยังดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก ทำให้เขาต้องไปรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวชหลายครั้ง
แต่สุดท้ายภาวะซึมเศร้าของเขาก็ไม่ได้รับการเยียวยา จนในที่สุดในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 Van Gogh ก็ได้ใช้ปืนลูกโม่ยิงตนเอง ซึ่งบาดแผลนี้ทำให้เขาเสียชีวิตในอีกสองวันถัดมา (29 กรกฎาคม ค.ศ. 1890) ด้วยอายุเพียง 37 ปี
ตอนมีชีวิตอยู่ Van Gogh ไม่ประสบความสำเร็จแถมยังถูกมองว่าเป็นคนบ้าและล้มเหลว แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้ว เขากลับโด่งดังอย่างมากในฐานะของศิลปินอัจฉริยะที่ถูกมองข้าม และภาพวาดของเขากลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้สะสมงานศิลปะทั้งหลาย จนมูลค่าของมันเพิ่มขึ้นหลายร้อยหลายพันเท่าตัว แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะ Van Gogh ได้จากโลกนี้ไปโดยที่เขาไม่เคยได้รู้เลยว่างานของเขาจะกลายเป็นที่ยอมรับและโด่งดังมาก
เราเคยมีโอกาสได้ดูงานแสดงภาพแบบ 4D ของ Van Gogh มาแล้วที่ฝรั่งเศส เมื่อปี 2019 ชื่องาน Carrieres de Lumieres ซึ่งจัดแสดงในเหมืองเก่า เป็นงานแสดงที่สวยและประทับใจมากๆ (อ่านได้ใน blog ข้างล่างนี้ค่ะ)
พอรู้ว่าจะมีงานของ Van Gogh มาจัดแสดงแบบดิจิตัลอีก เราก็ไม่พลาดแน่นอน
เมื่อออกจากห้องแสดงจะพบกับห้องกิจกรรมต่างๆ ที่ด้านนอก
แต่งานที่จัดที่ Iconsiam จะต่างจากที่เราเคยไปที่ฝรั่งเศสเพราะที่นี่จะมีส่วนที่เป็นห้องกิจกรรมที่น่าสนใจเสริมขึ้นมาด้วย ซึ่งเราว่าดีมาก
ไม่ว่าจะเป็นจุดจำลองภาพที่โด่งดังของ Van Gogh เพื่อให้คนได้ถ่ายรูป
ห้องรวบรวมจดหมายที่เป็นบทสนทนาระหว่าง Van Gogh และน้องชายที่เขียนในวาระต่างๆ
ห้องทำกิจกรรมฝึกวาดภาพ และจุดถ่ายรูปอีกเยอะแยะ ที่ชอบมากที่สุดคือห้องนี้
ห้อง AI Interactive Room
ห้องนี้เป็นห้องที่เราสามารถถ่ายรูปตัวเองแล้วมันจะออกมาเป็นรูปเสมือนว่า Van Gogh กำลังวาดภาพของเราอยู่ แล้วเรายัง download รูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ด้วย น่ารักมากๆ เลย
มีร้านคาเฟ่น่ารักๆให้นั่งพักกินขนมอร่อยๆ กันด้วย โดยที่มุมเก้าอี้นั่งส่วนนึงก็จำลองมาจากภาพวาดของ Van Gogh นั่งเอง
สุดท้ายก่อนออกจากงานก็คือร้านขายของที่ระลึก ซึ่งก็ไม่รอดได้มานิดๆ หน่อยๆ
ร้านขายของที่ระลึก
เรามางานนี้กับหลานๆ กะลองพามาดูงานศิลปะด้วยกัน ซึ่งเอาจริงเค้าก็ไม่ได้รู้จัก Van Gogh หรอก แต่เค้าก็สนุกไปกับงานนี้เหมือนเราเลย ดีใจที่พวกเค้าก็ชอบดูงานศิลปะเหมือนกันวันหลังจะได้ลากมาอีก 😁
วันที่เรามาดูงานนี้ก็เป็นเวลาที่เค้าใกล้จะปิดงานแสดงแล้ว แต่คนก็ยังมากันเรื่อยๆ แสดงว่ามีคนชื่นชอบงานของ Van Gogh อยู่มากมายทั่วโลก ดีใจที่ Van Gogh ได้สร้างสรรค์งานศิลปะที่ล้ำค่าเหล่านี้ออกมาให้พวกเราคนรุ่นหลังได้ชม และขอบคุณที่โลกนี้มีศิลปินที่ชื่อ Vincent Van Gogh
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วพบกันใหม่ใน Blog ต่อไปค่ะ 😊 เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวอังกฤษอีกแล้ว
โฆษณา