Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
JEENTHAINEWS
•
ติดตาม
11 ส.ค. 2023 เวลา 10:29 • ข่าวรอบโลก
ต้องไปสักครั้ง! ‘5 วัดจีนโบราณ’ สุดเก่าแก่แสนอลังการ
วัดโบราณเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของมนุษยชาติทั้งในด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นแหล่งรวมศรัทธาและที่พึ่งทางจิตใจของบรรพบุรุษชาวจีนมานานนับพันปี เราจึงอยากพาทุกคนท่องแดนไกลไปชม ‘5 วัดโบราณศักดิ์สิทธิ์’ ในแดนมังกร ที่ควรได้ไปกราบไหว้สักครั้งในชีวิต
วัดม้าขาว “ไป๋หมาซื่อ” (White Horse Temple) 白马寺
เริ่มกันที่วัดพุทธเก่าแก่สุดในจีนอย่าง “วัดม้าขาว” หรือ ไป๋หม่าซื่อ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 68 หรือรัชศกหย่งผิงปีที่ 8 ของจักรพรรดิหมิงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ค.ศ. 25-220) วัดม้าขาวจึงตั้งตระหง่านมานานมากกว่า 1,900 ปี ณ เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน หลายคนอาจรู้จักวัดนี้ในฐานะ “ธารกำเนิดพุทธศาสนาของชาวจีน” เนื่องจากเป็นวัดพุทธแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นในจีน
ชื่อม้าขาวนั้นถูกตั้งเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ม้าขาวที่บรรทุกพระไตรปิฎกมาจากอินเดียในรัชศกหย่งผิง และล้มตาย ณ จุดที่วัดถูกสร้าง ส่วนคำว่า “ซื่อ” (寺)หรือ ” วัด” นั้นมีที่มาจากการที่พระภิกษุชาวอินเดียสองท่านผู้ร่วมเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฏกกลับมายังจีนกับคณะทูตจีนได้พำนักอยู่ที่หน่วยงานของราชสำนักที่เรียกว่า “หงหลูซื่อ” (鸿胪寺) ซึ่งรับหน้าที่ดูแลอาคันตุกะจากต่างประเทศโดยเฉพาะ จึงเป็นที่มาของคำว่า “ไป๋หม่าซื่อ” ก่อนที่คำว่า “ซื่อ” จะกลายมาเป็นคำเรียกอารามหรือวัดในจีนมาจนถึงปัจจุบัน
เราจึงได้เห็นม้าหินแกะสลักอยู่หน้าวัด ส่วนภายในวัดนั้นเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับศาสนาพุทธ เช่น ศิลาจารึกสมัยราชวงศ์ถัง รูปม้าแกะสลักสมัยราชวงศ์ซ่ง พระพุทธรูปทองคำ ถ้ำประตูมังกร วิหารท้าวจตุโลกบาล และเจดีย์เสียดเมฆ หรือ ฉีอวิ๋นถ่า อีกด้วย
วัดยอดเขาบิน “วัดหลิงอิ่น” (Lingyin Temple)灵隐寺
“วัดหลิงอิ่น” มีอีกชื่อว่า “วัดยอดเขาบิน” ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองหางโจว สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออก (ค.ศ. 266-420) มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,700 ปี จึงเต็มไปด้วยกุฏิเก่าแก่และพระพุทธรูปหินแกะสลักมากมาย และด้วยวัฒนธรรมอันสวยงามและธรรมชาติแสนสงบของวัดนี้ ทำให้ผู้ที่มาสักการะรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจกลับไป
ชื่อหลิงอิ่น มีความหมายว่าที่พำนักของเซียน ส่วนชื่อวัดยอดเขาบิน มาจากตำนานที่เล่าขานว่ามีพระสงฆ์ชาวอินเดียชื่อจีนว่า “ฮุ่ยหลี่” ได้เดินทางมายังที่นี่ และเห็นยอดเขาแห่งหนึ่งซึ่งอยู่หนึ่งใกล้วัด ยอดเขาแห่งนั้นโดดเด่นแตกต่างยอดเขารอบๆ เขาจึงเชื่อว่ามันลอยมาจากอินเดีย ยอดเขานี้จึงถูกเรียกขานว่า “เฟยไหลเฟิง” ที่มีความหมายว่า “ยอดเขาที่บินมา” ผู้คนจึงพากันเรียกวัดที่อยู่ใกล้ยอดเขาแห่งนี้ว่า “วัดยอดเขาบิน” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในเทพปกรณัมจีนยังมีเรื่องเล่าว่าวัดยอดเขาบินเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นจุดกำเนิดของพระอรหันต์จี้กง (濟公) หลวงจีนผู้เลื่องชื่อซึ่งได้สำเร็จเป็นอรหันต์ โดยเป็นวัดแห่งแรกบนเส้นทางสู่ธรรมะของท่าน
ถ้ำหินอวิ๋นกัง (Yungang Grottoes) 云冈石窟
ถ้ำหินอวิ๋นกัง เป็นวัดที่มีลักษณะต่างจากวัดจีนทั่วไป เพราะเป็นสถานที่กึ่งวัดกึ่งถ้ำในสมัยโบราณ สร้างขึ้นในราชวงศ์เว่ยเหนือ มีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี นับเป็นวัดแห่งแรกๆ ในจีน วัดนี้ตั้งอยู่ในเมืองต้าถง มณฑลซานซี โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยถ้ำที่ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามและมีรูปปั้นแกะสลักอีกมากมาย ในปี 2001 ถ้ำหินอวิ๋นกังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก
ถ้ำหินอวิ๋นกัง ประกอบด้วยถ้ำน้อยใหญ่มากถึง 252 ถ้ำ และรูปแกะสลักอีกกว่า 51,000 ชิ้น นับเป็นพุทธศิลป์อันโดดเด่นของจีนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 และสะท้อนความเชื่อของพุทธศาสนิกชนนิกายมหายานชาวจีนสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชนเผ่าเร่ร่อนทางตอนเหนือของจีนได้เป็นอย่างดี จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งในบรรดาหมู่ถ้ำหินในยุคแรกที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพุทธ ถ้ำหินแห่งนี้ยังอิทธิพลต่อศิลปะถ้ำในจีนและประเทศเอเชียตะวันออกอย่างกว้างขวาง
อารามลอยฟ้า “เสวียนคงซื่อ” (Xuankong Si Temple) 悬空寺
ดูวัดบนพื้นดินมาเยอะแล้ว แวะมาส่องวัดบนฟ้ากันบ้าง! “อารามลอยฟ้า” หรือ วัดเสวียนคง สร้างในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (ค.ศ. 386-534) โดยพระสงฆ์นามว่าเหลี่ยวหลาน (了然) ในเมืองต้าถง มณฑลซานซี วัดนี้ซึ่งมีความเป็นมานานกว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่บนริมผาภูเขาเหิงซาน สูงจากพื้นมากกว่า 50 เมตร เรียกได้เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งของคนในสมัยโบราณ
ด้านในอารามลอยฟ้าประกอบไปด้วยศาลาใต้และศาลาเหนือ เชื่อมกันด้วยสะพานยาวสร้างจากไม้ ด้านหลังคือหน้าผาสูงชัน ด้านหน้าะเป็นหุบผา โดยอารามลอยฟ้านี้เป็นวัดเดียวในจีนที่ผสมผสานทั้งสามศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋า และลัทธิขงจื๊อ โดยมีรูปปั้นทางศาสนาอันวิจิตรงดงามกว่า 80 ชิ้น
ความลับที่ทำให้วัดแห่งนี้อยู่ยงคงกระพันมาถึงปัจจุบัน อันดับแรกได้แก่ทำเลที่ตั้งอยู่บนส่วนเว้าของหน้าผา จึงได้รับการปกป้องจากแดด ฝน และหินถล่มได้เป็นอย่างดี อีกประการคือภูมิปัญญาการก่อสร้างผ่านการใช้ไม้ฝังลึกเข้าไปในหน้าผาเพื่อรองรับน้ำหนักส่วนใหญ่ และตอนที่ฝังไม้เหล่านี้เข้าไปมีการใส่ลิ่มไม้ไว้ที่ปลายแผ่นไม้ เพื่อให้เนื้อไม้ขยายออกเมื่อถูกฝังเข้าไปในหน้าผาทำให้ฐานไม้มั่นคงและแข็งแรงยิ่งขึ้น
หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) 天坛
ปิดท้ายด้วยวัดจีนโบราณสุดโด่งดังอย่าง “หอสักการะฟ้าเทียนถาน” หมู่อาคารที่สร้างขึ้น สำหรับใช้สักการะบูชาธรรมชาติ ระหว่างปีค.ศ. 1406-1420 ในกรุงปักกิ่ง ในสมัยพระจักรพรรดิหย่งเห่อแห่งราชวงศ์หมิง เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่ผู้คนมาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1998
หอสักการะฟ้าเทียนถาน มีโครงสร้างที่แปลกตาชวนให้หลงใหล พร้อมสีสันงดงาม เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมเพื่อการประกอบพิธีกรรมของจีนในยุคโบราณ อีกความน่าทึ่งคือบริเวณรอบวัดมีเนื้อที่กว่า 2.7 ล้านตารางเมตร หรือมีขนาดใหญ่เป็น 12 เท่าของพระบรมมหาราชวังของไทยเราเลย
ข่าวรอบโลก
ไลฟ์สไตล์
จีน
3 บันทึก
11
3
3
11
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย