15 ส.ค. 2023 เวลา 11:26 • ประวัติศาสตร์

"ตระกูลเคนเนดี้ (Kennedy)" เป็นผู้ฆ่า "มาริลิน มอนโร (Marilyn Monroe)" จริงหรือ?

หลายคนรู้จัก “มาริลิน มอนโร (Marilyn Monroe)" เป็นอย่างดี
มอนโรเป็นเหมือนเซ็กส์ซิมโบลแห่งยุค 60 (พ.ศ.2503-2512) โดยมอนโรนั้นเกิดในปีค.ศ.1926 (พ.ศ.2469) และเสียชีวิตในปีค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) ด้วยวัย 36 ปี และฝากผลงานการแสดงไว้มากมาย
อีกหนึ่งภาพที่หลายคนจดจำมอนโรได้อย่างดี คือการที่มอนโรใส่ชุดยั่วยวน ร้องเพลง “Happy Birthday, Mr. President” เพื่ออวยพรวันเกิดประธานาธิบดี “จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy)”
มาริลิน มอนโร (Marilyn Monroe)
การร้องเพลงของมอนโรได้สร้างความสนใจต่อสื่อและประชาชน และทำให้บางคนคิดว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มอนโรต้องตายในเวลาต่อมา
เรื่องราวเป็นอย่างไร ลองไปดูกันครับ
ในวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) มีการจัดงานระดมทุนเพื่อการกุศลที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน ณ เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
งานนี้นั้น นอกจากเป็นงานการกุศลแล้ว ยังเป็นการอวยพรวันเกิดปีที่ 45 ของประธานาธิบดี “จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy)” อีกด้วย
จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy)
ในงานนี้ มอนโรมาถึงงานสาย แต่เมื่อมาถึงแล้ว เธอก็ใส่ชุดแนบเนื้อสุดยั่วยวน ก่อนจะขึ้นเวที และร้องเพลงอวยพรวันเกิดเคนเนดี้ด้วยน้ำเสียงกระเส่า ยั่วยวน
1
หลังการแสดงจบลง เคนเนดี้ก็ได้กล่าวขอบคุณทุกๆ คนที่ร่วมแสดง โดยเฉพาะกับมอนโรที่ดูจะพิเศษกว่าใครๆ
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเคนเนดี้กับมอนโร โดยนักข่าวได้เขียนข่าวว่า
“เธอ (มอนโร) ได้ร่วมรักกับประธานาธิบดีต่อหน้าชาวอเมริกัน 40 ล้านคน”
ข่าวลือยิ่งกระพือหนักขึ้นว่ามอนโรและเคนเนดี้นั้นเป็นชู้กัน และไม่ใช่แค่จอห์น เคนเนดี้คนเดียว แต่ยังรวมถึง “โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ (Robert F. Kennedy)” น้องชายของจอห์น เคนเนดี้อีกด้วย
โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ (Robert F. Kennedy)
การแสดงของมอนโรในงานนี้นับเป็นการปรากฎตัวในที่สาธารณะครั้งสุดท้ายของมอนโร ก่อนที่จะเสียชีวิตในปีเดียวกันนี้ และจากผลการชันสูตรศพ ก็ระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตคือการใช้ยาเกินขนาด และสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
แล้วเคนเนดี้มาเกี่ยวข้องยังไง?
1
เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วว่าชีวิตส่วนตัวของมอนโรนั้นค่อนข้างจะวุ่นวาย โดยเธอผ่านการแต่งงานและหย่าร้างมาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะมีความสัมพันธ์กับพี่น้องตระกูลเคนเนดี้
1
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่ามอนโรเคยขู่จะแฉเรื่องความสัมพันธ์นี้ต่อสื่อมวลชน
1
จากหนังสือชีวประวัติมอนโร ได้กล่าวว่าจอห์น เคนเนดี้รู้สึกเบื่อหน่ายมอนโร และส่งต่อไปให้โรเบิร์ตผู้เป็นน้องชาย และมีพยานพบเห็นว่าในคืนสุดท้ายของมอนโร โรเบิร์ต เคนเนดี้และมอนโรได้มีปากเสียงกันรุนแรง
1
ดังนั้นถ้าถามว่าตระกูลเคนเนดี้อยากให้มอนโรตายหรือไม่ ก็คงต้องบอกว่าก็มีส่วน เนื่องจากมีเหตุผลหลายข้อที่ตระกูลเคนเนดี้อยากจะกำจัดมอนโรให้พ้นทาง โดยเหตุผลสำคัญที่สุดก็คือการที่มอนโรจะทำลายภาพลักษณ์ทางการเมืองของจอห์น เคนเนดี้
มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าเมื่อมอนโรขู่จะแฉพี่น้องเคนเนดี้ ตระกูลเคนเนดี้จึงติดสินบนแม่บ้านของมอนโร ให้ฉีดยานอนหลับแก่มอนโร ทำให้เธอเสียชีวิตจากการได้รับยาเกินขนาด หากแต่ทฤษฎีนี้ก็ยังไม่แน่ชัด
นอกจากนั้น อดีตสามีของมอนโรอย่าง “โจ ดิแม็กกิโอ (Joe DiMaggio)” ก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าผู้ที่สังหารมอนโรคือพี่น้องตระกูลเคนเนดี้ โดยเขาเคยกล่าวว่า
โจ ดิแม็กกิโอ (Joe DiMaggio)
“พวกเคนเนดี้คือเสือผู้หญิง และพวกเขาก็รอดตัวไปได้ทุกครั้ง และพวกเขาก็จะรอดไปอีกนับร้อยปี ผมรู้มาตลอดว่าใครฆ่าเธอ แต่ผมไม่อยากให้เกิดการปฏิวัติขึ้นในประเทศนี้ เธอเคยบอกผมว่าจะมีคนทำร้ายเธอ แต่ผมก็เงียบมาตลอด”
มีรายงานว่าโรเบิร์ต เคนเนดี้อยู่กับมอนโรก่อนที่มอนโรจะเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง และทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันเนื่องจากโรเบิร์ต เคนเนดี้ต้องการจะจบความสัมพันธ์ และคาดว่ามอนโรอาจจะเครียดและใช้ยานอนหลับมากเกินไป ไม่ใช่ฝีมือของเคนเนดี้ ซึ่งนี่ก็คืออีกมุมของคนที่ไม่คิดว่าเคนเนดี้เป็นคนฆ่า
1
และสุดท้าย เรื่องนี้ก็ยังเป็นปริศนาหนึ่งที่ผู้คนยังให้ความสนใจมาจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา