16 ส.ค. 2023 เวลา 08:51 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิดรายได้ทีวีดิจิทัลในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำไตรมาส 2/66

พบช่องวัน-ช่อง 3 ยังนำเหนือตลาด แตะรายได้รวมหลักพันล้าน!
มาถึงกลางเทอมของบรรดาบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว ซึ่งก็เป็นโอกาสที่แต่ละบริษัทจะส่งงบการเงินประจำครึ่งปีและประจำไตรมาสที่ 2/2566 กันอย่างเป็นทางการ โดยส่องสื่อขอจับตามองไปที่ 9 บริษัทที่ดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลไปด้วย แล้วมาเปรียบเทียบกันดูว่าบริษัทไหนที่รายได้มากที่สุด และกำไรดีที่สุดบ้าง? โดยเราเน้นเฉพาะ 3 เดือนเท่านั้น คือตั้งแต่เดือนเมษายน - มิถุนายน 2566
เริ่มต้นจาก 3 อันดับแรก ยังคงเป็นของช่องวัน 31 นำโดย บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ ที่กวาดรายได้รวมจากทุกหน่วยธุรกิจอยู่ที่ 1,607.80 ล้านบาท และกวาดกำไรอยู่ที่ 120.99 ล้านบาท ถือว่าอัตราการทำรายได้รวมและการทำกำไรรวมสูงที่สุดในบรรดา 9 บริษัทเลยก็ว่าได้
รองลงมาคือช่อง 3 ที่นำโดย บมจ.บีอีซี เวิลด์ ที่กวาดรายได้รวมอยู่ที่ 1,206.55 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิที่ 74.88 ล้านบาท ซึ่งทำกำไรได้เป็นลำดับที่ 3 จากทั้งหมด 9 บริษัท และต่อด้วยอมรินทร์ทีวี นำโดย บมจ.อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ ที่ทำรายได้รวมอยู่ที่ 986.17 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.80 ล้านบาท
นอกจากนั้น 3 อันดับต่อมาก็สลับกันขึ้นลงบ้างแล้วแต่โอกาส ซึ่งประกอบไปด้วย บมจ.อาร์เอส ที่มีช่อง 8 เป็นตัวเสริม โดยธุรกิจหลักคือขายสินค้าเป็นหลักผ่านหลากหลายช่องทาง โดยรายได้รวมอยู่ที่ 964.51 ล้านบาท และทำกำไรเป็นอับดับที่ 2 จาก 9 บริษัท อยู่ที่ 92.24 ล้านบาท
รองลงมาคือ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ที่มีช่องเวิร์คพอยท์ 23 เป็นตัวหลัก โดยทำรายได้รวมอยู่ที่ 570.71 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 46.89 ล้านบาท และลำดับที่ 6 คือ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป ที่มีช่องเจเคเอ็น 18 เป็นตัวชูโรงคอนเทนต์ของตนเอง โดยกวาดรายได้รวมอยู่ที่ 567.59 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิอยู่เพียง 7.46 ล้านบาท
3 อันดับสุดท้ายในวงการธุรกิจทีวีดิจิทัล ประกอบไปด้วย บมจ.โมโน เน็กซ์ ที่มีช่องโมโน 29 เป็นตัวชูคอนเทนต์ของบริษัท ซึ่งกวาดรายได้รวมไป 477.71 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.06 ล้านบาท และ 2 อันดับสุดท้ายเป็นอันดับที่น่าห่วงที่สุด เพราะทั้งสองล้วนขาดทุนยับ ซึ่งประกอบไปด้วย บมจ.อสมท ที่กวาดรายได้รวม 327.44 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 60.13 ล้านบาท และบมจ.เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) ที่กวาดรายได้รวมน้อยที่สุด ที่ 263.06 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 54.49 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ต้องจับตาการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังว่าใครจะมีแต้มต่อในการพัฒนาเนื้อหาและหารายได้จากช่องทางอื่นๆ อย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ รวมไปถึงการจัดการต้นทุนและรายจ่ายให้เกิดประสิทธิภาพก็จะสามารถช่วยทำให้เกิดกำไรได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพได้อีกด้วย
โดยเฉพาะศึกชิงพื้นที่ข่าวของแต่ละช่องที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ และศึกชิงสายตาคนดูละคร ที่หลายช่องงัดไม้ตายมาสู้ ทั้งการดึงดาราตัวใหญ่มา การสร้างสรรค์เนื้อเรื่องที่แปลกแหวกแนว ตลอดจนการชิงเม็ดเงินโฆษณา อย่างไรต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
1
เรียบเรียงโดย กฤตนัน ดิษฐบรรจง
คิดถึงเรื่องสื่อ เปิด #ส่องสื่อ
ติดตามเราได้ทาง www.songsue.co
ติดต่อโฆษณา opinionmediathai@gmail.com
โฆษณา