พินาศนะถ้าไม่ทิ้งตัวเอง
อ่านเรื่องเล่าจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเรื่องนี้ด้วยกันก่อนนะครับ
"กษัตริย์อาหสุเอรัสจึงตรัสกับพระราชินีเอสเธอร์และกับโมรเดคัยคนยิวว่า “ดูสิ เรามอบบ้านของฮามานแก่พระนางเอสเธอร์แล้ว และพวกเขาก็แขวนคอมันบนตะแลงแกง เพราะมันยื่นมือออกทำร้ายพวกยิว พวกท่านจงเขียนเกี่ยวกับพวกยิวตามที่เห็นว่าดี ในนามของกษัตริย์และประทับตราด้วยแหวนตราของกษัตริย์ เพราะว่ากฤษฎีกาที่เขียนในนามของกษัตริย์ และประทับตราด้วยแหวนตราของกษัตริย์ จะเปลี่ยนกลับไม่ได้”
แล้วพระองค์ทรงเรียกราชอาลักษณ์เข้ามาในเวลานั้น ในเดือนที่สาม คือเดือนสิวัน ณ วันที่ยี่สิบสาม และให้เขียนกฤษฎีกาตามที่โมรเดคัยบัญชาทุกประการ ส่งถึงพวกยิว ถึงบรรดาสมุหเทศาภิบาล และพวกข้าหลวงและเจ้านายแห่งมณฑล ตั้งแต่อินเดียถึงคูช 127 มณฑล ไปถึงทุกมณฑลเป็นตัวอักษรของมณฑลนั้น และถึงชนทุกชาติเป็นภาษาของเขา และถึงพวกยิวเป็นตัวอักษรและภาษาของเขา และโมรเดคัยเขียนในพระนามของกษัตริย์อาหสุเอรัสและประทับตราด้วยแหวนตราของกษัตริย์ และส่งจดหมายนั้นไปโดยผู้ถือสารที่ขึ้นม้าเร็วซึ่งเป็นพันธุ์ม้าหลวง
ตามจดหมายเหล่านี้กษัตริย์ทรงอนุญาตให้พวกยิวผู้อยู่ในทุกเมืองมาชุมนุมกันเพื่อป้องกันชีวิตของตน เพื่อทำลาย เพื่อสังหารและเพื่อล้างผลาญกองกำลังทั้งสิ้นของประชาชนหรือของมณฑล ซึ่งจะมาทำร้ายพวกเขาทั้งเด็กและผู้หญิง และมาปล้นข้าวของของพวกเขาไป
เอสเธอร์ 8:7-11 THSV11
เรื่องนี้พระคัมภีร์ฯกำลังอุปมาบอกกับมนุษย์เราทุกคนเพื่อให้เลิกเชื่อวางใจกับตัวเอง ไอ้ตัวเราเองนี้แหล่ะที่น่ากลัวที่สุด เพราะมนุษย์เราทุกคนถูกควบคุมจากมารซาตานหรือวิญญาณชั่ว นี้คือสาเหตุที่มนุษย์เราไม่สามารถจะควบคุมตัวเองให้ออกมาดีๆได้จริง แม้รู้สึกว่ากำลังตั้งใจทำความดีแต่กลับสร้างแต่ปัญหามากมายออกมาฆ่าทำลายกัน เพราะมันไม่ใช่ความดีจริงกับความคิดเหล่านั้นเพราะเป็นมารซาตานที่คอยป้อนความคิดให้ตลอดเวลาครับ และมารซาตานสนใจแต่จะฆ่าทำลายผู้คนเท่านั้นครับ
ทางรอดของมนุษย์เราตอนนี้คือต้องหันกลับมาดูพระคัมภีร์ฯ บอกไว้ว่าอย่างไร กับความคิด อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดจิตสำนึกอะไรที่ออกมาจากตัวเอง เชื่อถือไม่ได้เลยครับ เหตุเพราะผลจากความผิดบาปที่อาดัมกับเอวามนุษย์คู่แรก ต้นตระกูลของมนุษย์เราทำเรื่องไว้นีบตั้งแต่แรกเริ่มประวัติศาสตร์มนุษยชาติเลย
นี้คือเรื่องสำคัญที่สุดของทุกคนก่อนคิดจะทำอะไรอย่างอื่น ตอนนี้ผู้คนมากมายในสังคมก็กำลังถูกเขาหลอกให้ไปสนใจกับเรื่องอื่นซึ่งผลลัพธ์ก็คือการฆ่าทำลายซึ่งกันและกัน ตามความต้องการของเขา หลอกให้ทำสิ่งต่างๆ เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่รอดได้ แต่ถ้าคุณผู้กำลังอ่านกำลังไปทิศทางนั้นอยู่ด้วย คุณจะต้องรีบหันกลับออกมาก่อนที่ยะถึงความพินาศ
คือจะต้องพาครอบครัวคนรู้จักหันกลับมาสนใจพระคัมภีร์ไบเบิ้ลว่าไว้อย่างไร ทางนี้เท่านั้นที่จะพาคุณและครอบครัวให้อยู่รอดปลอดภัยได้อย่างแท้จริงกับการใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ครับ
วันนี้ผมยกเรื่องนึงจากพระคัมภีร์ฯมาแบ่งปันให้ครับจากพระธรรมเอสเธอร์ กับกฏบัญญัติเดิมที่ฮามานได้เขียนขึ้นเพื่อจะฆ่าทำลายล้างคนยิวทั้งหมด กำลังอุปมาเปรียบเหมือนกับความรู้นอกพระคัมภีร์ฯมากมายที่เราได้เรียนรู้และรับมาตั้งแต่้เกิดครับ ความรู้เหล่านั้นมีมารซาตานอยู่เบื้องหลังครับ ปลายทางของผู้ที่เชื่อฟังทำตามก็จะจบลงที่ความพินาศ จบลงที่ฆ่าทำลายตัวเองและผู้อื่นเท่านั้นครับ
ต่อให้เราเหมือนเคร่งพยายามสักเพียงใดในการจะทำความดีโดยถือรักษาธรรมบัญญัติเคร่งในศาสนาอย่างจริงจังมากสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรเราได้จริงครับ เพราะถือรักษาได้คือต้องทำได้ทุกข้อทุกเวลา613ข้อตามพระคัมภีร์ฯ ซึ่งไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทำได้จริงครับ
ส่วนกฏใหม่ที่กษัตริย์อาหสุเอรัสได้ให้โมรเดคัยเขียนขึ้นนั้น กำลังเปรียบเหมือนพันธสัญญาใหม่ที่พระเจ้าให้กับมนุษย์กำลังหมายถึงพระเจ้าให้พระเยซูลงมาเป็นพระผู้ช่วย เพื่อให้สิ่งที่มนุษย์จะต้องทำเพื่อจะได้รับความรอดนั้นได้สำเร็จ คือรอดจากความบาป รอดจากการถูกสาปแช่งและรอดจากนรกนิรันดร์ครับ มนุษย์ได้สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแล้วจากสิ่งที่พระเยซูได้ลงมาทำให้ ตอนนี้พระองค์ก็สถิตย์อยู่ในเรา พระคัมภีร์ไบเบิ้ลก็จะช่วยให้เราสามารถแยกแยะได้ระหว่างเสียงของพระเจ้ากับเสียงของมารซาตานที่กำลังทำงานกับเรา
ก็อยากจะให้ท่านผู้อ่านได้ตื่นได้ตระหนักกับความจริงนี้ครับ และบอกความจริงนี้ออกไปยังทุกคน ซึ่งเป็นหนทางรอดแท้ เป็นทางออกของปัญหาที่แท้จริงครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
