20 ส.ค. 2023 เวลา 03:52 • การศึกษา

เงินได้จากการกระทำที่ผิดกฎหมายต้องเสียภาษีหรือไม่ ?

การเสียภาษีเงินได้ ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ขั้นแรกต้องดูว่าเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีชนิดใดก่อน เมื่อรู้ว่าเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีชนิดใดแล้วค่อยมาพิจารณาต่อว่ามีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีหรือไม่..
ตัวอย่างเช่น นายกล้าร่วมหุ้นกับนายเก่ง เปิดร้านขายเสื้อผ้า ได้กำไรเท่าไรเอามาแบ่งกันตามสัดส่วนของหุ้น การร่วมหุ้นแบบนี้เป็นการตกลงจัดตั้งองค์กรธุรกิจที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ เมื่อไม่ได้นำไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จึงเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียนซึ่งเป็นหน่วยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนั้น เงินได้จากการขายเสื้อผ้าจึงต้องนำไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แต่ถ้านายนายกล้าและนายเก่งเข้าหุ้นกันขายเสื้อผ้า และนำห้างหุ้นส่วนสามัญไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ดังนี้ เงินได้จากการขายเสื้อผ้าต้องนำไปเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
เมื่อรู้ว่าผู้มีเงินได้แต่ละประเภทต้องเสียภาษีเงินได้ชนิดใดแล้ว ต้องมาพิจารณาต่อว่ามีเงินได้หรือไม่ และเงินได้นั้นต้องเสียภาษีหรือไม่ (มีเงินได้หลายประเภทที่กฎหมายยกเว้นภาษีให้ เช่น กรณีบุคคลธรรมดาได้รับมรดก เงินส่วนนี้จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (10) !คนละกรณีกับภาษีการรับมรดก)
สำหรับเงินได้ที่ได้จากการประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย ไม่มีกฎหมายมาตราใดยกเว้นภาษีไว้ ดังนั้นย่อมต้องนำมาเสียภาษีเงินได้ แต่ในความเป็นจริงผู้ทำอาชีพผิดกฎหมายคงไม่ยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเพราะเป็นอาชีพที่ต้องปกปิดมิให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรัฐต่าง ๆ รับรู้ เมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐคงจะเก็บภาษีจากเงินได้เหล่านี้ต่อเมื่อคนเหล่านี้ถูกจับกุมและดำเนินคดีนั่นเอง
ตัวอย่างที่มีให้เห็นและมีการดำเนินคดีถึงศาลฎีกา ได้แก่ ฎีกาที่ 10701/2555 ตัดสินว่าเงินได้จากการขายสลากกินรวม (หวยใต้ดิน) ต้องเสียภาษี และจะหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาในอัตราร้อยละ 60 สำหรับเงินเก็บค่าต๋งหรือค่าเกมการพนัน ตามพระราชกฤษฎีกาฯว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน ไม่ได้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายเหมาดังกล่าวสามารถใช้ได้เฉพาะเกมการพนันที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น และเมื่อไม่สามารถนำหลักฐานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของกิจการมาแสดงได้ก็ไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายตามจำเป็นและสมควรได้ด้วย
เงินได้จากการขายสลากกินรวมทั้งหมดจึงต้องนำมาเสียภาษี โดยหักค่าใช้จ่ายไม่ได้เลย
...
และมีฎีกาที่ 11270/2555 ตัดสินว่าเงินได้จากการขายยาเสพติดต้องนำมาเสียภาษีเงินได้ คดีนี้ผู้เสียภาษีอุทธรณ์เพื่อของดหรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม แต่ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อผู้เสียภาษีจงใจไม่ยื่นแบบ เท่ากับมีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจนจึงไม่มีเหตุที่จะงดหรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มให้
เงินได้จากการขายยาเสพติดจึงต้องนำมาเสียภาษี และไม่มีเหตุงดหรือลดเบี้ยปรับให้ นอกจากนี้ก็ยังหักค่าใช้จ่ายไม่ได้ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกัน
...
โฆษณา