20 ส.ค. 2023 เวลา 14:57 • ข่าวรอบโลก
ฮาวาย

“บ้านหลังเดียวที่ไฟไม่ไหม้” จากข่าวไฟไหม้ในเมือง Lahaina ในเกาะ Maui รัฐ Hawaii

หลาย ๆ คนคงได้ยินข่าวไฟไหม้ในเมือง Lahaina ในเกาะ Maui รัฐ Hawaii เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว เพราะมีบ้านเสียหายกว่า 2 พันหลัง และมีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน
4
มันเกิดขึ้นโดยความบังเอิญของเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างมาประกอบกันให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ในอดีต เกาะนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของ Hawaii มาก่อน ทำให้มีการตั้งรกรากของผู้คนจำนวนมาก และเคยถูกใช้เป็นที่ปลูกอ้อย และเลี้ยงสัตว์มาก่อน แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตขึ้น ทำให้ราคาของอสังหาริมทรัพย์แพงจนเกษตรกรรม และกวิกรรมเริ่มไม่คุ้มค่า เจ้าของจึงเลิกกิจการไปในที่สุด และปล่อยให้ที่ดินบางส่วนรกร้าง
7
แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างหนัก ทำให้ต้นไม้ต้นหญ้าต่างเติบโตเป็นอย่างดี แต่หลังจากนั้นกลับแทบไม่มีฝนตกเลย ทำให้ Maui ขาดแคลนน้ำ แถมยังที่ดินเหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยต้นไม้ที่แห้งตายจำนวนมาก กลายเป็นเชื้อไฟเป็นอย่างดี
และแล้วในวันที่ 8 สิงหาคม พายุเฮอริเคนระดับ 4 Dora ก็เข้าใกล้หมู่เกาะ Hawaii ส่งผลทำให้เกิดสภาวะลมแรงไปทั่ว มีการคาดเดาว่าลมที่แรงนี้ทำให้ต้นไม้ล้มไปทับสายไฟจนเกิดเพลิงไหม้ และลมที่แรงทำให้เพลิงกระจายตัวไปอย่างรวดเร็ว จนไหม้เมือง Lahaina เกือบทั้งเมืองเลยทีเดียว แต่พายุดังกล่าวกลับไม่เข้าเกาะ ถ้าไม่อย่างนั้นคงจะมีฝนตกหนัก จนทำให้เกาะแห่งนี้รอดจากไฟไหม้ไปได้
8
ความน่าสนใจ คือ มีบ้านหลังหนึ่งที่สร้างจากไม้ที่ไม่ถูกไฟไหม้หลังคาสีแดงสดตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นท่ามกลางบ้านหลังอื่นที่ถูกไฟไหม้เป็นเถ้าถ่าน จนเป็นเหมือนภาพที่ถูก photoshopped หากเป็นที่เมืองไทย ข่าวคงลงว่ารอดเพราะมีพระ มีรูป หรือมีครูกายแก้วอะไรสักอย่างอยู่เป็นแน่
34
บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่า Pioneer Mill Co./Lahaina Ice Co. Bookkeeper’s House ที่ถูกย้ายมาในช่วงปี 1925 Trip Millikin ได้ซื้อบ้านหลังนี้มาในปี 2021 และได้ทำการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่ได้รับการอนุรักษ์หลังนี้ด้วยตนเอง และความช่วยเหลือจากช่างไม้ท้องถิ่น และมันอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านหลังนี้แทบไม่ถูกไฟไหม้เลย นอกจากรอยบวมของสีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3
สิ่งหนึ่งที่เขาทำ คือเปลี่ยนหลังคาเป็นหลังคาที่ทำจากเหล็ก และเปลี่ยนพื้นที่รอบๆ บ้านระยะประมาณ 1-2 เมตร โดยการปูหิน แทนที่จะเป็นสนามหญ้า เพื่อที่จะให้พื้นที่ไม่เฉอะแฉะจากน้ำฝน แต่สิ่งนี้กลับช่วยเป็นกำแพงไฟธรรมชาติที่จะหยุดปฏิกิริยาลูกโซ่ไม่ให้ไฟมาไหม้ยังบ้านของเขา ในขณะที่บ้านรอบข้างถูกลมที่แรงทำให้เชื้อไฟกระจายข้ามบ้านต่อบ้านอย่างรวดเร็ว และบ้านหลังนี้ไม่ได้อยู่ติดกับบ้านอื่นสามด้าน เพราะด้านหนึ่งติดทะเล ด้านหนึ่งติดถนน และอีกด้านหนึ่งติดที่จอดรถ
16
โชคดีต่อสองคือเขาเดินทางไปยังรัฐ Massachusetts ในช่วงนั้นพอดี ตอนแรกที่เขาได้ยินข่าว เขาก็รู้สึกแย่ และคิดว่าบ้านของเขาคงถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว แต่พอเพื่อนส่งรูปมาให้ เขาก็ร้องไห้ และรู้สึกผิดขึ้นมาทันที เพราะเป็นเหมือนบ้านหลังเดียวที่ไม่ประสบภัย (survivor’s guilt)
9
อ้างอิง :
โฆษณา