22 ส.ค. 2023 เวลา 16:08 • ข่าว

Gulfstream G650ER เจ็ทส่วนตัวของเหล่าเศรษฐีโลก

📌หลังจากต้องออกจากประเทศไทยไปถึง 17 ปี วันนี้ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยก็ได้กลับมาเยือนแผ่นดินเกิดแล้ว หลังเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมือง เมื่อเวลา 09.00 น. ณ บริเวณลานจอดเอ็มเจ็ท (M-Jets) ด้วยเครื่องบินส่วนตัวสุดหรู
เมื่อเครื่องบินลงจอด นายทักษิณก็ได้เดินทางออกมาทักทายแกนนำพรรคเพื่อไทย และก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง พระราชินี ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปต้อนรับและให้กำลังใจ และสื่อมวลชนที่ไปเก็บภาพ ก่อนเดินกลับเข้าอาคาร เพื่อเดินทางไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และรับโทษจากคดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ และคดีหวยบนดิน ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
เรียกได้ว่า เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ สมศักดิ์ศรีนักการเมืองดัง และหนึ่งในมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองไทย
ในวันนี้ ทีม SPOTLIGHT จึงอยากชวนทุกคนมาเปิดสเปกเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีลำนี้กันว่าจะหรูหรา สมรรถภาพดีขนาดไหน ทำไมจึงถูกเลือกให้เป็นเครื่องบินคู่ใจของมหาเศรษฐีทั่วโลก
.
📌‘G650ER’ เครื่องบินที่มหาเศรษฐีเลือกใช้ บินไกลรวดเดียว 14 ชั่วโมง
เครื่องบินส่วนตัวลำปัจจุบันที่นายทักษิณใช้อยู่ คือ Gulfstream G650ER จาก Gulfstream บริษัทผลิตเครื่องบินสัญชาติสหรัฐฯ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเครื่องบินส่วนตัวที่บินได้เร็ว ไกล และสะดวกสบายมากที่สุดในโลก ทำให้ได้รับความนิยมมากจากเหล่ามหาเศรษฐีทั่วโลกที่ต้องเดินทางไกล รวมไปถึง อีลอน มัสก์ เจ้าของ Tesla และ เจฟ เบซอส เจ้าของบริษัท Amazon
.
โดยปัจจุบันมีใช้งานอยู่ประมาณ 500 ลำทั่วโลก หนึ่งในนั้น ก็คือ เครื่องบินส่วนของทักษิณ ชินวัตรที่เพิ่งเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อเช้าวันนี้
จากข้อมูลของ Gulfstream ทางบริษัทเริ่มผลิตตัวเครื่องบิน G650ER ตั้งแต่ปี 2014 สนนราคาลำละ 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,277 ล้านบาท โดยใช้เครื่องยนต์รุ่น BR725 2 ตัว ซึ่งพัฒนาและผลิตโดย โรลส์ รอยซ์ (Rolls Royce) และมีความจุน้ำมันถึง 48,200 ลิตร มากกว่ารุ่น G650 ถึง 4,000 ลิตร
.
และด้วยเครื่องยนต์และความจุน้ำมันที่มากแบบนี้ G650ER จึงสามารถบินได้เร็วและไกลมาก โดยบินได้ไกลถึง 7,500 ไมล์ทะเล หรือราว 13,890 กิโลเมตร โดยไม่ต้องหยุดเติมน้ำมัน คิดเป็นระยะเวลาประมาณ 14.5 ชม.
หรือถ้าจะเทียบให้เห็นภาพ ก็คือ บินตรงจากเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไปสุดปลายทวีปแอฟริกาใต้ได้โดยไม่ต้องจอดพัก
.
📌ทำงาน นอนพักผ่อนได้ ในตัวเครื่องเสียงดังเพียง 47 เดซิเบล
.
ทั้งนี้ นอกจากสมรรถภาพในการบินแล้ว ตัว G650ER ยังถูกออกมาแบบมาให้มีความกว้างและสะดวกสบายสูงสุด โดยพื้นที่ในตัวเครื่องสามารถแยกเป็น 3 ส่วนสำหรับทำงาน กินข้าว และพักผ่อน พร้อม 2 ห้องน้ำ ทำให้โดยสารพร้อมกันได้สูงสุด 19 คน นอนได้สูงสุด 6 คน
นอกจากนี้ G650ER ยังมีระบบคุมเสียงในตัวเครื่องให้เงียบที่สุด โดยวัดแล้วระหว่างบิน ผู้โดยสารจะได้ยินเสียงเครื่องเพียง 47 เดซิเบล และมีระบบปรับอากาศที่ดีเยี่ยม ทำให้มั่นใจได้ว่า ระหว่างบิน ผู้โดยสารจะได้อากาศบริสุทธิ์ 100% ตลอดเวลา ทำให้มีโอกาสที่จะมีอาการเจ็ตแล็กน้อยกว่าผู้โดยสารที่บินเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไปหลายเท่า
และถ้าหากต้องการฟีเจอร์แบบจัดเต็มในการทำงานหรือพักผ่อนบนเครื่อง ผู้ซื้อก็สามารถเลือกใส่บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย โทรทัศน์จอแบน 42 นิ้ว ตู้เย็น อุปกรณ์ทำอาหาร และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ เข้าไปได้
📌2 พันล้านซื้อแล้วไม่จบ มีค่าใช้จ่ายต่อปีอีก 27 ล้านบาท
.
เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่าย แน่นอนว่า ความสะดวกสบายระดับนี้ย่อมไม่ได้แลกมาด้วยเงินจำนวนน้อยๆ เพราะนอกจากค่าเครื่องบินแล้ว ผู้ใช้ยังต้องรับผิดชอบจ่ายค่าจิปาถะอื่นๆ อีกในการใช้เครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าภาษีสนามบิน ค่าประกัน ค่าซ่อมบำรุง รวมถึง ค่าพนักงานรับรองบนเครื่องบินด้วย เช่นเดียวกับที่เราซื้อรถมาแล้วต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
โดยจากข้อมูลในเว็บไซต์ Compare Private Planes เครื่องบิน G650ER มีค่าใช้จ่าย 2 ส่วนด้วยกันคือ
1. ค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการดูแลเครื่องบิน (fixed costs) เป็นค่าใช้จ่ายที่คงที่ทุกปี ถึงแม้จะไม่มีการนำเครื่องบินขึ้นบิน ทั้งหมด 771,116 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 27 ล้านบาท ต่อปี ประกอบด้วย
➡️ ค่าจ้างพนักงาน ประมาณ 344,727 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าเทรนพนักงาน ประมาณ 112,169 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าโรงเก็บเครื่องบิน ประมาณ 107,086 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าประกัน ประมาณ 52,134 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าจัดการ เช่นการแพลนไฟลท์ จองไฟลท์ จัดการจ้างนักบิน หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ประมาณ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ เช่น ค่าอัพเกรดซอฟต์แวร์ในการบิน ประมาณ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ
2. ค่าใช้จ่ายจริงตามการบิน (variable costs) เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงต่ำแตกต่างกันไปตามชั่วโมงการบิน เช่น ค่าน้ำมัน ค่าดูแลรักษาเครื่องยนต์ ค่าภาษีสนามบิน โดยถ้าหากบินประมาณ 200 ชั่วโมงต่อปี ค่าใช้จ่ายจะเท่ากับ 824,600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 29 ล้านบาท ต่อปี ประกอบด้วย
➡️ ค่าเชื้อเพลิง ประมาณ 387,000 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าดูแลรักษา ประมาณ 103,200 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าซ่อมบำรุงเครื่องจักร ประมาณ 194,400 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าพนักงาน ค่าลงจอดสนามบิน ค่าจัดการอื่นๆ ประมาณ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️ ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ ประมาณ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นี่ทำให้ถ้าใครเป็นเจ้าของ G650ER และใช้บินประมาณปีละ 200 ชั่วโมง คนๆ นั้นจะต้องจ่ายค่าใช้เครื่องบินนี้อย่างน้อยปีละประมาณ 1,595,716 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 55.8 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่ว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกหากมีการใช้มากกว่า 200 ชั่วโมง
ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายมหาโหด เหมาะสมกับเหล่ามหาเศรษฐี เพราะถึงแม้ตัวเลขนี้จะฟังดูสูงมากสำหรับคนทั่วๆ ไปอย่างเราๆ แต่สำหรับคนที่มีธุรกิจได้กำไรหลายพันล้านไปจนถึงหลักหมื่นแสนล้านต่อปี เงินแค่นี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าสำหรับความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการเดินทาง
.
#ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร #เพื่อไทย #เลือกนายก #แพทองธาร #แพทองธารชินวัตร
โฆษณา